"อนุทิน" เตรียมนำ ครม.ป้ายแดง เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ 24 ก.ย.นี้ ก่อนประชุม ครม.นัดพิเศษถกร่างนโยบาย และแถลง นโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาวันที่ 25 ก.ย. ด้าน จนท.ทำเนียบฯ ติดป้ายที่จอดรถประจำตำแหน่ง รอต้อนรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้ว ขณะที่ “ธนกร” รมว.อุตสาหกรรม พร้อมทำงานเต็มที่ แม้มีเวลา 4 เดือน เน้นแก้ปัญหาภาคอุตสาหกรรม ลุยปราบโรงงานเถื่อน สานต่องานเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล แล้ว สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งให้รัฐมนตรีใหม่ที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เตรียมพร้อมเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 24 ก.ย.นี้ เวลา 18:00 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถานฯ
โดยเวลา 14.00 น. นัดหมายให้ คณะรัฐมนตรีใหม่มาพร้อมเพรียงกันที่ตึกสันติไมตรี เพื่อทำการตรวจ ATK และถ่ายรูปเดี่ยวสำหรับติดบัตร และถ่ายภาพหมู่ ภายในตึกสันติไมตรี จากนั้น เวลา 16.00 น. ออกเดินทางจากตึกสันติไมตรีไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน โดยรถตู้ที่ทางทำเนียบรัฐบาลจัดไว้ให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเข้าเฝ้าฯ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษต่อทันที เพื่อพิจารณาร่างนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา เนื่องจากวันที่ 25 ก.ย.จะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยช่วงนี้จะอยู่ในขั้นตอนของการประสานงาน ไปยังประธานรัฐสภาเพื่อบรรจุระเบียบวาระตามวันดังกล่าว และส่งร่างแถลงนโยบาย ให้ สส.และสว.ได้ศึกษารายละเอียดของร่างนโยบาย 3 วันก่อนตาม ระเบียบข้อบังคับการประชุม
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ภายหลังมีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนตัวซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ขณะเดียวกันจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โดยก่อนที่จะเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่ ระหว่างนี้ตนเองได้เตรียมงานไว้เบื้องต้นแล้ว ซึ่งได้มีการพูดคุยกับทีมงาน โดยนโนบายส่วนหนึ่งจะเน้นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ภาคอุตสาหกรรม ซึ่งระยะเวลาการทำงาน 4 เดือน คิดว่าภาคอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบในหลายด้าน เช่น การแก้ไขปัญหาผลกระทบจากสงครามการค้า มาตรการภาษีสหรัฐฯ ที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม ต้องเร่งดำเนินการบรรเทาให้กับภาคการผลิต และการส่งออกอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง หรือการป้องกันการทุ่มตลาด สกัดการสวมสิทธิ์สินค้า นอกจากนี้ ต้องวางรากฐานภาคเอกชน และอุตสาหกรรมปรับตัวสู่อนาคต ให้สอดรับกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งเกิดการแข่งขันสูง ดังนั้นต้องสร้างนวัตกรรมเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมมีการปรับตัวก้าวทันโลกได้ เช่น การเสริมสร้างเอสเอ็มอีและผู้ประกอบการไทย ด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยี หรืออุตสาหกรรมในอนาคต เช่น ดิจิทัลปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี และอาหารแห่งอนาคต ชีวเศรษฐกิจ โดยทั้งหมดเป็นสิ่งที่ได้คิดไว้เบื้องต้นแล้ว
ส่วนนโยบายต่อเนื่อง เช่น การขับเคลื่อน BCG ก็จะสานต่อ รวมถึงนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมคนเก่า สิ่งใดที่ทำดีอยู่แล้วก็จะสานต่อ และจะทำให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการปราบโรงงานเถื่อน กากอุตสาหกรรม หรือ สารพิษต่างๆ ก็จะเร่งดำเนินการ แม้ข้าราชการได้ดำเนินการอยู่แล้ว แต่จะเข้าไปกำกับให้มีความเข้มข้นมากขึ้น
ส่วนบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งรัฐมนตรี รัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล สื่อทุกสำนักต่างทยอยเข้าทำเนียบรัฐบาล เกาะติดความเคลื่อนไหวคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่ทำเนียบรัฐบาล นำป้ายตำแหน่ง มาติดไว้บริเวณที่จอดรถประจำตำแหน่งของของรัฐมนตรีแล้ว ส่วนบริเวณด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และบริเวณโดยรอบ มีเจ้าหน้าที่ปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อรอต้อนรับนายกรัฐมนตรี และ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เป็นวันที่ 3