ผู้ตรวจการแผ่นดินโชว์ความสำเร็จ โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพ ฯ เผยช่วยเด็กไม่เรียนกว่า 3,000 คนมีงานทำจริง ปี69 เร่งขยายกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ครบครัน
วันนี้ (18 ก.ย.) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นประธานการประชุมร่วมกับผู้แทนระดับสูงจากหลายหน่วยงานทั้งจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อร่วมกันติดตามความคืบหน้าของโครงการเพิ่มทักษะ
ด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ เผยสถิติตลอด 6 ปีที่ผ่านมา มีนักเรียนกว่า 6,000 คน ได้รับโอกาสเข้าฝึกอบรม จบหลักสูตร 4,045 คน และกว่า 3,000 คนมีงานทำจริง สะท้อนความสำเร็จของโครงการได้สร้างแรงงานมีฝีมือ มีรายได้ และช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว พร้อมย้ำสิทธิประโยชน์ครบถ้วนทั้งพักฟรี เรียนฟรี ได้เงินสนับสนุนระหว่างอบรม และมีโอกาสได้งานทำทันทีหลังจบ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า โครงการนี้ไม่ได้เป็นเพียงการอบรมเพื่อเพิ่มทักษะอาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ให้แก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อ ให้สามารถพัฒนาตนเอง และก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงด้วยศักยภาพที่แท้จริง ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การฝึกทักษะอาชีพกับครูผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน ได้รับเงินอุดหนุนค่าอาหารวันละ 240 บาทตลอดระยะเวลาอบรม สิทธิในการจับคู่ตำแหน่งงานผ่านเครือข่ายกรมการจัดหางาน รวมถึงโอกาสต่อยอดสู่อาชีพอิสระและการประกอบธุรกิจส่วนตัว
ซึ่งทำให้โครงการนี้เป็นที่ยอมรับว่ามีผลลัพธ์จริงและเป็นรูปธรรม แม้โครงการจะเดินหน้าได้ผลสำเร็จแต่ก็ยังมีอุปสรรค ที่ต้องเร่งแก้ไข ทั้งปัญหาการเดินทางของนักเรียนจากพื้นที่ห่างไกล งบประมาณที่ยังไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในวันหยุด และข้อจำกัดในการเปิดหลักสูตรบางสาขาที่เป็นที่ต้องการของเด็กและตลาดแรงงาน เนื่องจากขาดงบประมาณสำหรับจ้างครูฝึกเฉพาะด้าน อย่างไรก็ตาม หลายปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว เช่น การจัดสรรงบประมาณอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 การเพิ่มเงินอุดหนุนค่าอาหารจากวันละ 120 บาทเป็น 240 บาท และการจัดประชุมครูแนะแนวครบทุกจังหวัด
สำหรับในปีงบประมาณ 2569 จะขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น จากเดิมที่ครอบคลุมเพียงเด็กจบ ม.3 ที่ไม่ได้เรียนต่อ ให้ขยายไปถึงผู้ที่จบ ม.6 และจบ ม.3 ไปแล้ว 1–3 ปี แต่อายุยังไม่เกิน 25 ปี และยังไม่มีงานทำ รวมถึงนักเรียน
ที่กำลังเรียนชั้นมัธยมปลายของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ หรือ กศน. เดิมด้วย นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำแบบสอบถามเพื่อสำรวจสาเหตุที่นักเรียนบางส่วนไม่เข้าร่วมโครงการ เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงวิธีการเชิญชวนและสร้างแรงจูงใจที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งกรมพัฒนาฝีมือแรงงานยังมีแนวทางพิจารณาขอรับการสนับสนุนงบประมาณสำหรับจ้างบุคคลภายนอกมาเป็นครูฝึก เพื่อเสริมศักยภาพการจัดอบรม และเปิดหลักสูตรใหม่ ๆ ที่ทันสมัย สอดคล้องกับตลาดแรงงานปัจจุบัน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้เสนอให้ผลักดันงบประมาณสนับสนุนค่าเดินทางและค่าอาหารให้ครอบคลุมทุกช่วงเวลา จัดจ้างครูฝึกภายนอกเพื่อเปิดหลักสูตรที่ทันสมัยสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน รวมถึงจัดมาตรการสงเคราะห์ครอบครัวผู้เข้าร่วมฝึกอบรม เพื่อให้เด็กทุกคนมีโอกาสเข้าถึงโครงการอย่างเท่าเทียมและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมามีตัวอย่าง Best Practice จากหลายจังหวัดเพื่อต่อยอดการทำงานในพื้นที่ ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำของจังหวัดระยองนำกลไกกองทุนสวัสดิการสังคมของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาใช้สนับสนุนค่าอาหารกลางวัน อาหารว่าง และเครื่องดื่มสำหรับนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่เข้ารับการฝึกอบรม ช่วยสร้างแรงจูงใจในการเข้าร่วมโครงการและลดภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว , จังหวัดพิษณุโลกได้แต่งตั้งนายอำเภอทุกอำเภอเป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการ พร้อมตั้งอนุกรรมการระดับตำบลที่ประกอบด้วยผู้นำท้องถิ่น ครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำหน้าที่สื่อสารสร้างความเข้าใจแก่ผู้ปกครองและนักเรียน รวมถึงจัดทำแบบสอบถามเพื่อหาสาเหตุที่นักเรียนไม่เรียนต่อหรือไม่เข้าร่วมโครงการ ข้อมูลที่ได้ถูกนำมาใช้ในการค้นหากลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมอย่างมีประสิทธิภาพ , จังหวัดหนองบัวลำภู ใช้สื่อหลากหลายช่องทาง ทั้งเฟซบุ๊ก เว็บไซต์ YouTube TikTok รวมไปถึงวิทยุหลักและวิทยุชุมชน หอกระจายข่าวในพื้นที่ เพื่อประชาสัมพันธ์โครงการอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้มีนักเรียนสมัครเข้าร่วมเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
ส่วนกระบวนการกลางน้ำของจังหวัดจันทบุรี โดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 32 ได้จัดกิจวัตรประจำวันให้นักเรียนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงกิจกรรมนันทนาการและจิตอาสา เพื่อปลูกฝังวินัย ความสามัคคี ความผูกพันระหว่างครูกับนักเรียน เสริมแรงบันดาลใจป้องกันการเลิกเรียนกลางคัน จังหวัดเชียงรายดำเนินการ 2 แนวทางควบคู่กัน คือ บูรณาการหลักสูตรกับภาคเอกชนเพื่อตอบโจทย์ตลาดแรงงาน และการจัดฝึกอบรมนอกศูนย์ฝึกสำหรับนักเรียนที่อยู่ห่างไกลหรือเป็นกลุ่มชาติพันธุ์รวมถึงนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล , จังหวัดสุโขทัยจัดรถรับ–ส่งทุกสัปดาห์ จัดสวัสดิการด้านอาหาร ที่พัก และเปิดโอกาสให้นักเรียนออกไปให้บริการชุมชน เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงและพัฒนาทักษะอาชีพ , จังหวัดหนองบัวลำภูและหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ได้ร่วมกันสนับสนุนอย่างเข้มแข็ง เช่น อบจ. มอบงบประมาณและชุดฝึกงาน มูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ มอบทุนการศึกษา รวมถึงภาครัฐและเอกชนที่ร่วมตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของให้กำลังใจ ทำให้นักเรียนมีแรงจูงใจและตั้งใจเรียนจนจบหลักสูตร
ท้ายสุดกระบวนการปลายน้ำอย่างจังหวัดจังหวัดลำพูนได้สนับสนุนเงินทุนประกอบอาชีพอิสระตามมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ สำหรับนักเรียนที่จบการฝึกแต่ไม่สามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ เนื่องจากต้องดูแลผู้พิการในครอบครัว เหมือนกับจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ได้สนับสนุนเงินทุนสำหรับการประกอบอาชีพอิสระแก่ผู้ที่ต้องอยู่บ้านดูแลผู้สูงอายุ แม้มีข้อจำกัดเรื่องการเดินทาง แต่ยังสามารถสร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้ และจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดทำระบบ Job UBISD ซึ่งเป็นฐานข้อมูลตำแหน่งงานจากเครือข่ายสถานประกอบการ นักเรียนสามารถค้นหางานได้ก่อนตัดสินใจเลือกหลักสูตร ส่งผลให้การฝึกอบรมตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และเพิ่มโอกาสในการมีงานทำจริงหลังจบการอบรม
“การบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานส่วนกลางในวันนี้ ได้สะท้อนถึงพลังสำคัญที่ร่วมสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ ระดับจังหวัดทุกแห่ง ผ่านการประชุมออนไลน์ เชื่อมโยงไปยัง 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้คณะกรรมการขับเคลื่อนระดับจังหวัดได้รับข้อมูล ทิศทาง และแนวทางการดำเนินงานอย่างครบถ้วนและเป็นเอกภาพ อันจะนำไปสู่การสนับสนุนเยาวชนในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง ทั้งด้านข้อมูล คำแนะนำ และโอกาสในการเข้าถึงการฝึกอาชีพอย่างเท่าเทียม พร้อมทั้งการเปิดรับสมัครตามปฏิทินที่กำหนด เพื่อให้เยาวชนทุกคนมีทางเลือกที่ชัดเจนในการก้าวสู่อาชีพในอนาคต
นายสมศักดิ์ยังได้ เชิญชวนนักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบภาคบังคับ รวมถึงผู้ที่จบ ม.3 หรือ ม.6 แล้วแต่อายุยังไม่เกิน 25 ปี และยังไม่มีงานทำ สมัครเข้าร่วม “โครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ ปี 2569” โครงการนี้ไม่เพียงมอบการฝึกอบรมฟรีในหลากหลายสาขาที่ตลาดแรงงานต้องการ อาทิ ช่างไฟฟ้า ช่างยนต์ ช่างเชื่อม การทำอาหาร และงานบริการ แต่ยังมีการสนับสนุนเงินช่วยเหลือสำหรับครอบครัวผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งเตรียมตำแหน่งงานรองรับและโอกาสในการประกอบอาชีพอิสระ การเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ จึงไม่ใช่เพียงการเรียนรู้ทักษะ แต่คือการสร้างอนาคตที่มั่นคง เปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ และเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอาชีพที่ภาคภูมิใจ เยาวชนทุกคนสามารถเลือกเส้นทางชีวิตของตนเองได้อย่างมั่นใจและมีคุณค่า