xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ปค.ถกเขากระโดง ขอยึด กม. “กรวีร์” ชี้ คำสั่ง มท.1 เพิกถอนไร้อำนาจตาม กม.คำพิพากษาผูกพันแค่ 30 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กมธ.ปกครองฯ ถกปมเขากระโดง “กรวีร์” ชี้ คำสั่ง มท.1 เพิกถอนไม่มีอำนาจตาม กม. ยันคำพิพากษาศาลฎีกาผูกพันเฉพาะ 30 ราย ไม่ครอบคลุมที่ดิน 5 พันกว่าไร่ ชาวบ้านกว่า 900 ราย แนะ รฟท.มั่นใจสิทธิควรไล่ฟ้องรายแปลง ด้าน กมธ.ขอให้ยึด กม.- คุ้มครองสิทธิชาวบ้านสุจริต

วันนี้ (21 ส.ค.) นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุม กมธ.เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับกรมที่ดิน

นายกรวีร์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้เชิญกระทรวงมหาดไทย รฟท. กรมที่ดิน และกรมธนารักษ์ มาชี้แจงกรณีคำสั่งของ รมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 68 ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินบริเวณเขากระโดง แต่จนถึงวันนี้เกือบ 1 เดือน ยังไม่มีการเพิกถอนเกิดขึ้น โดยทุกฝ่ายยืนยันตรงกันว่า ทั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเพิกถอนโฉนดประชาชนได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะดำเนินการในลักษณะนั้น

ทั้งนี้ มีการหยิบยกคำพิพากษาศาลฎีกาที่ รฟท. ชนะคดีกับประชาชนกว่า 30 ราย ซึ่งศาลชี้ว่าที่ดินเป็นของ รฟท. แต่ไม่สามารถขยายผลครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ที่มีชาวบ้านกว่า 900 รายถือครองได้ จึงไม่สามารถตีความว่าพื้นที่ทั้งหมดต้องตกเป็นของ รฟท.

นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า หาก รฟท.เชื่อมั่นว่า ที่ดินทั้งหมดเป็นของรัฐ ก็ควรดำเนินการฟ้องร้องเป็นรายแปลง แม้จะใช้เวลานานและค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็เป็นแนวทางที่ชัดเจนกว่า โดยขณะนี้ รฟท.เลือกใช้วิธีฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้ศาลสั่งให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ ซึ่งศาลปกครองรับฟ้องเพียง 2 ประเด็น ได้แก่ การเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินที่ให้ยุติเรื่อง และการเพิกถอนคำสั่งอุทธรณ์ของปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่ไม่ได้รับฟ้องในประเด็นการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ทั้งหมดกว่า 5,000 ไร่

นายกรวีร์ ย้ำว่า กมธ.ได้กำชับทุกฝ่ายให้พิจารณาเรื่องนี้ตามข้อกฎหมาย ไม่ใช่การเมือง และต้องคุ้มครองสิทธิของประชาชนที่ได้เอกสารสิทธิ์โดยสุจริต หากมีคำสั่งเพิกถอนในอนาคต รัฐต้องมีมาตรการเยียวยาชดเชยที่เหมาะสม

“อยากฝากถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องว่า การออกมาให้ข่าวหรือสั่งการใดๆ ต้องยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ เรื่องนี้อยู่ในชั้นศาลปกครองแล้ว ต้องรอความชัดเจนก่อน” นายกรวีร์ กล่าว.


กำลังโหลดความคิดเห็น