xs
xsm
sm
md
lg

“ภูมิธรรม” เผย “มาริษ” เจรจาเขมรเที่ยงนี้ ยื่นเงื่อนไขต้องถอยกำลัง เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ออกให้หมด ให้ทหารรบเต็มที่จนกว่าจะคุยลงตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รักษาการนายกฯ ย้ำจุดยืนต้องการเห็นความจริงใจเขมร หลังคุย “ทรัมป์” เผย “มาริษ” หารือ รมว.กัมพูชา เที่ยงนี้  ยื่นเงื่อนไขต้องถอยกำลังทหาร-เคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ทั้งหมด เป็นหลักประกันว่าจะไม่บิด-ไม่เป็นภัย ปชช.ผลประโยชน์ชาติ ยัน ทหารไทยทำเต็มที่จนกว่าคุยลงตัว มองภาษีสหรัฐฯ ทิศทางบวก ขอบคุณสหรัฐฯ-มาเลย์-จีน ยื่นมือช่วย

วันนี้ (27 ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง นายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ยื่นข้อเสนอให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิง โดยอ้างมาตรการทางภาษี โดยระบุว่า หลังจากได้รับการประสานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะคุยด้วย ตนได้มีการเชิญให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าฟัง และได้มีการสอบถามทางกองทัพบกไปด้วย การหารือครั้งนี้จึงเป็นการหารือบนพื้นฐานของการทำงานร่วมกันของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง

โดยสิ่งที่ได้คุยกันทั้งหมด ไม่ได้มีเพียงสหรัฐอเมริกา เพราะก่อนหน้านี้ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้โทร.หาตน โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ได้มีการพูดคุยในลักษณะเดียวกันคืออยากเห็นสันติภาพเกิดขึ้น เพราะเป็นห่วงพลเรือน และห่วงการสูญเสีย

สำหรับการพูดคุยเราได้เริ่มตนเล่าให้ฟังว่าที่ผ่านมา เรายืนยันในหลักสันติภาพและการเจรจาเพื่อขอให้แยกออกจากกันมาตลอด การที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อยากเห็นการหยุดยิง และสันติภาพ ตนก็ยืนยันว่า เราทำมาตลอด แต่สิ่งที่สำคัญก็ได้เล่าต่อว่ามีการยิงเข้ามาพื้นที่พลเรือน โดยไร้เป้าหมายทางทหาร ส่วนเรามีการตอบโต้ไปในฐานเป้าหมายทางทหารและปืนยุทธวิถีจรวดที่เป็นฐานที่ยิงเข้ามาทำลายประชาชน รวมทั้งมีการรายงานว่าพลเรือนไทยมีการเสียชีวิตประมาณ 15 คน และบาดเจ็บกว่า 50 คน และมีการอพยพกว่า 130,000 คน ซึ่งในฐานะผู้พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลังได้มีการสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดอพยพในทุกจุด

ขณะที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เอง เห็นว่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นความรุนแรงที่เขาไม่ประสงค์อยากจะเห็น ซึ่งเราก็เห็นตรงกัน แต่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ให้ความเห็นว่า หากยังไม่หยุดยิงก็ไม่สามารถเจรจาทำการค้ากับทั้งสองประเทศได้ ซึ่งตนได้ยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะเป็นไปตามหลักการอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เงื่อนไขของเราคือต้องการให้เขมรสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนไทย ไม่ใช่การว่ายอมหรือไม่ยอมแต่เรายึดถือประชาชนเป็นหลัก ซึ่งการพูดคุยเป็นไปด้วยดี และหลังจากนี้ ก็จะรับเงื่อนไขไปเจรจากับกัมพูชาต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม ระบุว่า เงื่อนไขของเราขณะนี้ไม่ได้ต้องการให้ประเทศที่3เข้ามาแทรกแซง แต่ขอบคุณที่ห่วงใย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาต้องไปพูดคุยเงื่อนไข ให้จบว่าจะมีมาตรการอย่างไรในการที่จะหยุดยิงและถอยกำลังทหารออกรวมไปถึงยุทโธปกรณ์วิถีไกล

ส่วนจะมีการพูดคุยกับกัมพูชาเมื่อไหร่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า หากวันนี้นัดได้ก็จะมีการพูดคุยในช่วงประมาณเที่ยง แต่ช่วงเช้าวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะลงพื้นที่ ร่วมกับตนไปที่จังหวัดตราด ซึ่งเป็นจุดที่เปิดยุทธการใหม่ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเรา จะคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาให้จบก่อน

นายภูมิธรรม ขอให้ประชาชนคลายกังวล โดยทราบดีว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก และประชาชนได้รับผลกระทบโดยเฉพาะประชาชนตามแนวชายแดน ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการกระทำของกัมพูชาที่เราได้ประณาม ไปแล้วว่าเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศที่มีการทำร้ายพลเรือนซึ่งผิดข้อกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมด พร้อมย้ำว่า ชีวิตของคนชายแดนคือสิ่งที่รัฐบาลคำนึงถึงมาโดยตลอด

นายภูมิธรรม ยังเน้นย้ำโซเชียลให้ระมัดระวังอย่างยิ่ง เรื่องการเผยแพร่ภาพ โดยเฉพาะปัญหายุทธการด้านกองทัพและไม่เป็นประโยชน์ต่อเรา จึงต้องขอความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์ของประเทศ และความปลอดภัยของทหารแนวหน้า เพราะหากเขายิ่งรู้การมุ่งเป้าทำลาย ฐานทหาร ซึ่งเสี่ยงกับชีวิตทหาร

วันนี้ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องโกลาหล ในขณะที่เรา ก็ได้เตรียมการบ้างแล้วซึ่งเราก็พยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยทั้งหมดได้มีการปรึกษาหารือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและได้ให้อำนาจกับทหาร เป็นแนวหน้าให้สามารถดำเนินการได้ อย่างกรณีที่จังหวัดจันทบุรีและตราดที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินซึ่งทางผู้บัญชาการทหารบกได้หารือมาและเราก็เห็นชอบ และอนุมัติ จึงอยากให้ทุกฝ่ายมั่นใจและเชื่อมั่นว่าทั้งหมดมีการทำงานประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและคำนึงถึงสิทธิประโยชน์คำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทุกคนและทหารแนวหน้าทั้งหมด

เมื่อถามต่อว่า หากการเจรจายังไม่ลงตัวจะยังไม่มีสัญญาณหยุดยิงใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทหารของเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่จนกว่ารัฐบาลจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าเป็นภัยต่อพี่น้องประชาชนและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพื่อนำไปสู่สันติภาพ โดยขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ทำงานประสานกับทุกส่วน โดยทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าอยากให้ปัญหายุติ

ส่วนความไว้ใจต่อกัมพูชานั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนได้ยืนยันต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไปแล้ว ต้องทำให้เรามั่นใจ ว่า สิ่งที่ทำจะไม่มีการบิด เพราะฉะนั้นการเจรจา หยุดยิงพร้อมกับการเคลื่อนย้ายกำลังทหารและอาวุธร้ายแรงออกจากพื้นที่เดิมขณะนี้จะเป็นหลักประกันที่แสดงถึงความจริงใจว่าอยากหยุดยิง เพราะเราเคยประกาศมานานแล้วเรื่องการหยุดยิงแต่กัมพูชาเพิ่งประกาศว่าอยากหยุดยิงแต่พูดเสมอว่าเราเป็นฝ่ายรุกราน แต่อย่างไรก็ตาม การที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้คุยกับนานาประเทศ รวมถึงสื่อ ต่างประเทศก็ค่อนข้างเสนออย่างชัดเจนแล้วว่า ว่ากัมพูชาเป็นฝ่าย รุกรานก่อน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำคือการปกป้องอธิปไตย ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินประชาชนภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ อย่างเคร่งครัด

ส่วนเรื่องภาษี ที่สหรัฐฯจะประกาศใช้วันที่1สิงหาคมนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้วเมื่อวาน ได้ข้อสรุปอย่างไรต่อ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหา เมื่อเริ่มหนุดยิงเมื่อไหร่ ก็จะแจ้งให้ทราบ เรื่องภาษีนั้นใช้กับทั้ง 2 ประเทศ เมื่อวานเขา (สหรัฐฯ) ก็ได้พูดว่าตรงนี้ไม่ต้องห่วง และเชื่อว่า การหยุดยิงเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกและเห็นว่าจะช่วยปกป้องพลเรือนได้ เราก็บอกก็ฝากเรื่องนี้ด้วยแล้วกัน และตนก็บอกไปอีกว่า เป็นฝ่ายที่ยืนยันตรงนี้มาตลอด พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนต่อนานาชาติว่าเราเป็นฝ่ายรักสันติ สิ่งที่เราทำคือการปกป้องอธิปไตยของเรา ที่ต้องการปกป้องชีวิตและพลเรือนของไทย สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่เราก็พร้อมเจรจา และเราก็ขอให้เขาดูสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศ

ก็ถามว่า ถ้าคุยกันรู้เรื่องน่าจะทันวันที่ 1 สิงหาคมนี้ หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่สามารถพูดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะอยู่ที่ฝ่ายกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้แสดง ให้เรามั่นใจว่า ต่องการหยุดยิงจริงๆ สำหรับเรานั้นพร้อมเจรจาอยู่ตลอดภายใต้เงื่อนไข เมื่อหากเราพูดคุยกันเสร็จเราก็ต้องปรึกษาหารือกับกองทัพอีก เพราะขณะนี้ สิ่งที่กัมพูชาเปิดแนวรบ ตลอด 800 กม. นี้ ตั้งแต่ที่ข่องบก ลงมาจนถึง จ.ตราด ก็คือตลอดแนวชายแดนทั้งหมดอยู่แล้วเพราะฉะนั้น ถึงแม้จะหยุดยิง หรือประกาศอย่างไร ก็จะต้องมีเงื่อนไขที่คุยกันในรายละเอียดว่า จะเคลื่อนออกอย่างไร

ส่วนแนวโน้มเรื่องภาษีสหรัฐฯนั้น นายภูมิธรรม มองว่า น่าจะไปในทิศทางบวก เพราะจากการที่ทางประธานาธิบดีสหรัฐพูดกับตนว่า แนวโน้มนี้สำหรับเรา2ประเทศ ตนก็บอกกับเขา บนพื้นฐานที่เราเป็นมิตรกับทุกประเทศ ซึ่งเราขอบคุณมาเลเซีย จีน และสหรัฐอเมริกาด้วยที่ ยื่นมือเข้ามาด้วยความห่วงใยชีวิต ประชาชนพลเรือน ทั้งหมดก็ขอขอบคุณทุกส่วน และเขาได้เจรจากับเราอย่างไรก็สามารถที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงได้มากขึ้น และมีความห่วงใย เข้าใจเรา ขณะที่ในต่างประเทศจะเห็นได้ว่า การประชุมคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้ ทุกคนก็ไม่ได้มีอะไรเพียงแต่ขอให้พูดคุยกัน ก็เข้าใจเรา โดยก็ต้องขอบคุณสหรัฐอเมริกาด้วยที่อยากให้เรื่องนี้ยุติลง และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย


กำลังโหลดความคิดเห็น