รมว.สาธารณสุขยืนยันรัฐบาลพร้อมรับมือพายุวิภา สั่งเฝ้าระวังเข้ม 49 จังหวัด โดยเฉพาะ พะเยา น่าน เชียงราย เร่งอพยพผู้ป่วย 844 รายหากจำเป็น พร้อมจัดเวชภัณฑ์-ยาให้เพียงพอ และเตรียมรถทหารช่วยลำเลียง
วันนี้( 23 ก.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์พายุ “วิภา” ซึ่งส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมมาโดยตลอด โดยเฉพาะการดูแลกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง และเด็ก เพื่อให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ดำเนินการตามแผนฉุกเฉินอย่างเคร่งครัด
“พายุครั้งนี้ส่งผลกระทบถึง 49 จังหวัด เราให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยทีม Mcatt พร้อมดูแลด้านจิตใจประชาชน และโรงพยาบาลทุกแห่งต้องเตรียมเวชภัณฑ์ ยา และอุปกรณ์ให้เพียงพอ” นายสมศักดิ์กล่าว
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด มีรายงานผลกระทบใน 3 จังหวัด คือ เชียงราย น่าน และพะเยา รวม 20 อำเภอ ได้แก่ จ.น่าน 10 อำเภอ พะเยา 7 อำเภอ และเชียงราย 3 อำเภอ โดยมีสถานบริการสาธารณสุขได้รับผลกระทบรวม 5 แห่ง แบ่งเป็นโรงพยาบาล 4 แห่ง และรพ.สต. 1 แห่ง ได้แก่ จ.น่าน: รพ.เวียงสา, รพ.เชียงกลาง น้ำท่วมหน้าโรงพยาบาล แต่ยังให้บริการได้ ส่วน รพ.สต.ริม อ.ท่าวังผา น้ำท่วมชั้นล่าง ปิดบริการชั่วคราว จ.พะเยา: รพ.เชียงคำ น้ำท่วมถนนหน้าโรงพยาบาล แต่ยังเปิดให้บริการตามปกติ จ.เชียงราย: รพ.เทิง น้ำท่วมรอบบริเวณ ทำให้การเดินทางลำบาก ต้องใช้เรือรับ-ส่งผู้ป่วย เปิดเฉพาะบริการฉุกเฉินและอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ จ.น่าน ได้เตรียมแผนอพยพผู้ป่วยจากโรงพยาบาลทุกแห่ง จำนวน 844 ราย หากสถานการณ์รุนแรง พร้อมประสาน มณฑลทหารบกที่ 38 (มทบ.38) ขอรับการสนับสนุนรถทหารช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วย โดยเฉพาะใน อ.ท่าวังผา
นอกจากนี้ ทีมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน เชียงราย และพะเยา ได้เปิดศูนย์ PHEOC ระดับจังหวัดและปฏิบัติตามแผนช่วยเหลืออย่างเข้มข้น ขณะที่ รพ.เทิง จ.เชียงราย ได้ตั้งจุดบริการฉุกเฉินที่ รพ.สต.บ้านปางค่า สำหรับดูแลประชาชนในพื้นที่ ต.ตับเต่า พร้อมได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในพื้นที่ อาทิ ตำรวจ ทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดโดยรอบศึกษาเส้นทางน้ำไหลเพื่อประเมินว่ามวลน้ำอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใดบ้าง และต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องทุกระยะ เพื่อให้สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที
“รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมเต็มที่ในการดูแลประชาชนในสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมหากมีการอพยพหรือย้ายที่พักอาศัย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการให้ทันต่อสถานการณ์” นายสมศักดิ์กล่าว