สภาโหวตผ่าน “หวยเกษียณ” 427 ต่อ 1 มุ่งสร้างวินัยการออมรูปแบบใหม่ เปิดทาง ปชช.ซื้อสลากใบละ 50 บ. ลุ้นรางวัลทุกศุกร์ เงินไม่ถูกรางวัลไม่สูญ ถูกสะสมเป็นเงินออม เบิกได้อายุ 60 ปี ตั้งเป้าขายงวดแรกไตรมาส 4 ปีนี้ เจาะกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปทั่วไทย
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ “หวยเกษียณ” หลังจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ซึ่งมี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน กมธ. ได้พิจารณาเสร็จเรียบร้อย โดยมีสาระสำคัญเพื่อเป้าหมายส่งเสริมการออมแก่ประชาชนในรูปแบบใหม่ ผ่านการซื้อสลากที่ไม่ถือเป็นการพนัน ภายใต้แนวคิด “ซื้อหวย เงินไม่หาย กลายเป็นเงินออม”
รายละเอียดของกฎหมาย ระบุว่า ผู้ซื้อสลากต้องมีอายุ 15 ปีขึ้นไป และเป็นสัญชาติไทย สลากมีราคาฉบับละ 50 บาท ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. โดยแบ่งประเภทของรางวัลเป็น รางวัลที่ 1 จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 1 ล้านบาท และรางวัลที่ 2 จำนวน 10,000 รางวัล รางวัลละ 1,000 บาท โดยเงินรางวัลจะโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ของผู้ซื้อโดยอัตโนมัติ
สำหรับเงินที่ซื้อสลาก ไม่ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ จะถูกเก็บเข้าสู่บัญชีเงินออมโดยอัตโนมัติ และจะได้รับคืนทั้งหมดเมื่ออายุครบ 60 ปี เพื่อนำไปใช้ในยามเกษียณ สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี ยังสามารถซื้อได้ โดยจะได้รับเงินคืนเมื่อถือครองครบ 5 ปี และหากเสียชีวิตก่อนครบกำหนด เงินจะตกเป็นมรดกให้กับทายาทตามสิทธิ
“โครงการหวยเกษียณมุ่งสร้างประโยชน์ 3 เด้งให้กับประชาชน คือ ได้ลุ้นรางวัลทุกวันศุกร์ ได้สะสมเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณ และได้ผลตอบแทนจากการลงทุนผ่านกองทุนที่นำเงินไปบริหาร”
ทั้งนี้ สส.ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนแนวทางหวยเกษียณ เพราะถือเป็นทางเลือกในการออมเงินของคนไทยที่ชอบเสี่ยงโชค อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอให้เพิ่มความยืดหยุ่น โดยให้สามารถถอนเงินออมบางส่วนได้ก่อนถึงอายุ 60 ปี และให้พิจารณาปรับอายุขั้นต่ำจาก 15 ปี เป็น 18 ปี
ขณะที่ นายเผ่าภูมิ ชี้แจงว่า หวยเกษียณไม่ใช่การพนัน เพราะเงินทุกบาทคือการออม และมองว่า เยาวชนอายุ 15 ปี มีวุฒิภาวะพอที่จะเริ่มต้นการออมได้แล้ว พร้อมเผยว่า กมธ.ได้กำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมในกฎกระทรวง เพื่อเปิดช่องให้ถอนเงินบางส่วนก่อนอายุ 60 ปีได้ เช่น ในกรณีที่มีเงินสะสมถึงเกณฑ์ขั้นต่ำต่อการดำรงชีวิตแล้ว เงินส่วนเกินสามารถถอนออกมาใช้ได้
นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ส่วนเหตุผลที่จำกัดการซื้อหวยเกษียณใบละ 50 บาท อยู่ที่ 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เพราะเปิดสิทธิให้ทุกคนที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ที่มีสัญชาติไทย จึงมีทั้งคนรวย และคนไม่รวย ไม่ต้องการให้คนรวยมากว้านซื้อ จึงกันไว้ที่ 3,000 บาทต่อคนต่อเดือน เจตนารมณ์คือ คนมีรายได้น้อยที่เป็นฐานของประเทศ ต้องพัฒนาคนกลุ่มนี้ให้มีการออมเกิดขึ้น อีกเจตนาของหวยเกษียณ คือ สู้กับหวยใต้ดิน
“ลองนึกภาพดูหวยใต้ดินประชาชนมีความสุขตอนซื้อ แต่มีความทุกข์ตอนถูกหวยกิน เงินที่ถูกหวยกินลงสู่ใต้ดิน ไม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่หวยเกษียณเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ” นายเผ่าภูมิ ชี้แจง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการอภิปรายครบถ้วนทุกมาตรา ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ ด้วยคะแนน 427 ต่อ 1 งดออกเสียง 3 และไม่ลงคะแนน 4 เสียง
