xs
xsm
sm
md
lg

“ธนาธร” ขออย่าหมดหวังแก้ รธน. ปลุกจี้ให้ประชามติเลือกตั้งครั้งหน้า รับได้ดีลพรรคอื่นถ้าไม่ใช่ผลไม้พิษ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พ่อฟ้า” บอกอย่าเพิ่งหมดหวังแก้ รธน. ขอทุกฝ่ายร่วมกันส่งเสียงดังๆ ให้ทำประชามติเลือกตั้งครั้งหน้า กลไกแก้กับดักการเมือง คือ บังคับใช้กฎหมายให้เสมอภาค รับได้ ปชน.ดีลกับพรรคอื่น ถ้าเป็นประโยชน์ต่อ ปชช. ไม่ใช่ผลไม้พิษ

วันนี้ (18 ก.ค.) ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวผ่านรายการ Exclusive Talk : ผ่าทางตัน จัดโดยเครือเนชั่น ถึงกรณีการแก้ปัญหาโครงสร้างของประเทศโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ในระยะเร่งด่วนแก้ได้หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า มีทางออก ตนอยากเชิญสังคมทุกภาคส่วน สื่อ ภาคการเมือง ภาคธุรกิจ อย่าเพิ่งหมดหวัง อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ ใช้โอกาสนี้มาร่วมกันออกแบบ มาคิดกันใหม่ มีข่าวดีและข่าวร้าย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พ.ร.บ.ประชามติผ่านแล้ว เป็นก้าวแรกก้าวเล็กๆถ้าเราส่งเสียงดังพอให้เป็นการตกลงร่วมกันของสังคมว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะในปี 2569, ปี 2570 เลือกตั้งให้ทำประชามติร่วมกัน จะเป็นการลดงบประมาณ ในการทำประชามติและเป็นการรส่งเสริมกนะบวนการแลกเปลี่ยนถกเถียงในสังคม จะทำให้สุขภาพประชาธิปไตยดีขึ้น ข้อเสนอ คือ ประชามติผ่านแล้ว อย่าให้เสียของ มาทำประชามติร่วมกันในการเลือกตั้งใหญ่ มาทำประชามติร่วมกัน

นายธนาธร ได้เล่ายกเหตุการณ์ ธงเขียว ในปี 2539 ซึ่งตนอยู่มัธยมปลายที่ยังไม่สนใจการเมือง ตอนนั้นนตนตื่นเต้น ถ้าใครจำสติกเกอร์ทุกอาชีพ ทั้งทหาร ชาวนา กลไกทางการเมืองที่เป็นกับดักเป็นเรื่องโครงสร้างรัฐธรรมนูญ เป็นความพยายามบุคคลที่จะหยุดการเมืองไว้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นทางเดียวแก้ปัญหาหรือไม่ นายธนาธร ตอบว่า ปัญหานักการเมืองทุจริตคอร์รัปชั่น ปัญหานี้จะต้องแก้ที่การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งประชาชนเห็น แต่กฎหมายไม่เดิน ปัญหาต้องทำให้การบังคับใช้กฎหมายเดินหน้าเสมอภาคกันทุกคน ทุกพรรคทุกชนชั้น มีแต่กระบวนการฟื้นฟูกระบวนการยุติธรรมเท่านั้นจะพาประเทศกลับสู่ภาวะปกติได้

พรรคประชาชนเรียกร้องความยุติธรรม แต่ทำไมเป็นฝ่ายค้าน ค้านไม่เต็มบาท มีดิวอะไรหรือไม่ นายธนาธร ตอบว่า มีความพยายามบอกว่า เพื่อนของในพรรคประชาชน เอียงแดงบ้าง เอียง น้ำเงินบ้าง แต่ผมเชื่อมั่นในพวกเขา เชื่อมั่นคนในพรรค พวกเขาจะทำอะไรจะซื่อตรงต่ออุดมการณ์ อะไรที่เป็นการคุยระหว่างพรรคการเมือง มันมีแน่นอน สภาเป็นที่ถกเถียงกัน เส้นปัญหาสำคัญ ถ้าข้ามเส้นการเอาผลประโยชน์ประเทศมาต่อรองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน นั่นเป็นผลไม้พิษของสังคม แต่ถ้าเป็นการพูดคุยเพื่อหาผลประโยชน์ของประเทศ ทำได้เป็นปกติ ยกตัวอย่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ที่เสนอโดยพรรคประชาชน ในฐานะฝ่ายค้าน ที่ตามหลักไม่น่าจะผ่านได้ ซึ่งพรรคเสนอหยุดลาคลอด 180 วัน แต่ได้คุยกับพรรคการเมืองแก้ปัญหาสังคมให้ขยายการลาคลอดจาก 90 วัน เป็น180 วัน ซึ่งนักการเมืองอื่นก็มีความเห็นอื่นจนได้ข้อสรุป 120 วัน เป็นต้น

ปัดดีล “อนุทิน” แลกรอด คดี 44 สส.

นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข้อวิจารณ์ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน และ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน ได้ไปรับประทานอาหารกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แล้วมีดีลช่วยคดี 44 สส.หรือไม่

นายธนาธร กล่าวว่า เรียนพ่อแม่พี่น้องประชาชน ว่า เราตั้งพรรคการเมืองมา เพราะเราเชื่อว่าการคลี่คลายความขัดแย้ง หาทางออกให้กับประเทศผ่านกลไกการพูดคุย ผ่านกลไกในสภา เป็นทางการหาทางออกให้กับประเทศอย่างสันติที่สุด ไม่ต้องใช้ความรุนแรง ไม่ต้องใช้การเดินขบวนกันบนถนน ดังนั้น ในเมื่อเลือกเส้นทางนี้ การจะไม่คุยกับคนอื่นมันเป็นไปไม่ได้ ตั้งพรรคขึ้นมาก็เพื่อคุยกับคนอื่นอยู่แล้ว

“ส่วนคำครหาที่อาจมีพ่อแม่พี่น้องหลายคนตั้งความสงสัยว่าเวลาเราไปคุยกับคนอื่นแล้ว เราจะเอาผลประโยชน์ของตัวเองไปแลกกับผลประโยชน์ของประเทศชาติหรือไม่ เรื่องนี้ ยืนยันว่า อย่างน้อยที่สุด ตัวผมเองไม่เคยมีอะไรอย่างนี้ ไม่เคยคิดจะเอาผลประโยชน์ของประเทศมาแลกผลประโยชน์ส่วนตัว ทำให้ตัวเองหรือพวกพ้องร่ำรวยขึ้น ด้วยความสัตย์จริงว่าไม่เคยคิด ไม่เคยทำในอดีตและไม่คิดจะทำในอนาคต” นายธนาธร กล่าว


เมื่อถามว่า ในพรรคที่มีอยู่มีพรรคไหนที่น่าไว้ใจหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ทุกพรรคก็หวาดระแวงกันทั้งหมด เพราะในสนามการเลือกตั้ง ทุกพรรคคือคู่แข่งกัน

ไม่มีความเห็น “ทักษิณ” เดินสายป้องนายกฯ-ครอบงำหรือไม่

นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์บ้านเมืองหลังจากนี้ รวมถึงคดีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียง โดยระบุว่า ตนเองก็มีข้อมูลเท่ากับทุกคน และไม่แน่ใจว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉันออกมาเมื่อไร และไม่รู้ว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมาอย่างไรแต่เชื่อว่า เพื่อนของตนเองที่อยู่ในพรรคประชาชนพร้อมรับทุกสถานการณ์

ส่วนที่มีการปลุกม็อบจะทำให้สถานการณ์บานปลายหรือไม่นั้น นายธนาธร มองว่า สิทธิและเสรีภาพของการชุมนุมเป็นของคนไทยทุกคน ดังนั้น คนที่มาชุมนุมก็ทีสิทธิในการชุมนุม แต่มองว่าคงไม่นำไปสู่ความรุนแรงและไม่นำไปสู่สถานการณ์อะไรที่แหลมคมในเร็วๆ นี้

เมื่อถามว่า ฉากทัศน์ที่จะโหวตนายกฯชั่วคราว มองว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนนั้น นายธนาธร ระบุว่า คงต้องไปถามหัวหน้าพรรคประชาชนดีกว่า และพรรคประชาชนได้แถลงไปแล้ว ว่าเงื่อนไขหากมีการโหวตนายกพรรคประชาชนจะมีเงื่อนไขอะไรบ้าง
เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พ้นสภาพการเป็นนายกรัฐมนตรีในมุมมองของนายธนาธร มองว่า รัฐบาลจะต้องทำอย่างไรต่อตามประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้น นายธนาธร ระบุว่า ไม่มีตามประชาธิปไตยที่แท้จริง มีแต่ตามรัฐธรรมนูญหากนางสาวแพทองธาร ถูกตัดสิทธิ ก็ต้องโหวตนายกฯใหม่ และยืนยันว่า ตนเองไม่มีความคิดเห็นอื่นใดนอกจากความคิดเห็นที่เห็นด้วยกับพรรคประชาชนที่แถลงไปแล้ว

ส่วนถ้า นายชัยเกษม นิติสิริ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี จะสามารถเอาอยู่หรือไม่นั้น นายธนาธร มองว่า เป็นเรื่องของสภา ว่าสภาจะเห็นด้วยหรือไม่ว่าเหมาะสมกับการเป็นนายกอย่างไร

ส่วนการที่นายกรัฐมนตรี จะขอขยายเวลาการแก้รัฐธรรมนูญออกไปนั้น ตนเองก็ไม่มีความเห็นเช่นกัน
“ผมไม่มีความรู้ ไม่มีข้อมูลเลยว่าขอขยายเพราะอะไร”


ส่วนกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่า ตัวเองไม่ใช่ทางตัน แต่เข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ นายธนาธร ระบุว่า ทุกคนคงอยากมีส่วนในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอยากให้ประเทศไทยกลับเป็นปกติ และกลับไปเดินในเส้นทางประชาธิปไตย ดังนั้น ก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จึงอยากเชิญชวนทุกพรรคการเมืองมาร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ส่วนกรณีที่นายทักษิณ วิจารณ์ว่า คนไทยอาจจะยังรักสามัคคีกันไม่พอนั้น มองอย่างไน นายธนาธร ระบุว่า ก็ให้ถามนายทักษิณ

เมื่อถามว่า การออกมาเดินสายของนายทักษิณ ในลักษณะปกป้อง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นการครอบงำหรือไม่ และหลายคนมองว่าไม่เหมาะสม นายธนาธร ระบุว่า ไม่มีความเห็น

ส่วนถ้าปล่อยไว้จะเป็นผลดีกับสเถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ ในการให้พ่อมาพูดแทนลูกที่เป็นนายกรัฐมนตรี นายธนาธร ระบุว่า ก็ไม่มีความเห็นเรื่องนี้ และมองว่า ทักษิณก็เป็นคนไทยคนหนึ่ง สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ท้ายที่สุดอำนาจก็อยู่ที่นายกฯ คนที่จรดปากกาเซ็นก็ต้องรับผิดชอบทางกฎหมาย ซึ่งก็คือนายกรัฐมนตรี ดังนั้น จึงไม่มีความเห็นเรื่องที่นายทักษิณออกมาเดินสาย เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพที่จะทำได้

เมื่อถามถึงเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รัฐบาลอยากจะดันให้เดินต่อนั้น นายธนาธร มองว่า มีวิถีทางอย่างอื่นที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าโดยไม่จำเป็นต้องทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แต่มีทางอื่นที่จะสร้างรายได้สร้างอาชีพให้กับคนไทย โดยไม่ต้องการดึงการพนัน กาสิโน เข้าสู่ประเทศไทย

ส่วนที่ทางรัฐบาลอาจจะมีการแทรกเข้ามาอีกนั้น มองว่า ก็เป็นอำนาจของรัฐบาล แต่จุดยืนของพรรคประชาชนก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ามีจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น