วันนี้(30 มิ.ย.)นายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงการประกาศมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2568/69 ด้วยงบประมาณรวมกว่า 50,038 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเพื่อพยุงราคาและลดต้นทุนการผลิต แต่มาตรการดังกล่าวยังไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่แท้จริงของเกษตรกรได้โดยสาระสำคัญของมาตรการนี้คือการจ่ายเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท แบ่งเป็นเงินสด 500 บาทต่อไร่ (ไม่เกิน 10 ไร่) และอีก 500 บาทในรูปแบบค่าปัจจัยการผลิตผ่านแอป BAAC Mobile รวมใช้งบประมาณกว่า 39,435 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เกษตรกรในหลายพื้นที่เรียกร้องให้ภาครัฐพิจารณาจ่ายเงินทั้งหมดในรูปแบบเงินสด เนื่องจากรูปแบบการสนับสนุนปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย หรือเมล็ดพันธุ์ มีความเสี่ยงต่อการทุจริต และอาจไม่ตรงตามความจำเป็นของแต่ละครัวเรือน
นายชัชวาล เปิดเผยว่า มาตรการที่ประกาศออกมายังขาดความพร้อมในทางปฏิบัติ ไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกษตรกรกำลังเผชิญ โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาข้าวตกต่ำ และต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง ปี 2568 นั้นถึงแม้จะมีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรแล้วกว่า 851,696 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 11.8 ล้านไร่ และมีการจัดเตรียมงบประมาณช่วยเหลือรวม 7,274.41 ล้านบาท แต่การประชุมของคณะอนุกรรมการด้านการผลิตของคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่เดิมจะพิจารณาแผนจ่ายเงินช่วยเหลือ กลับถูกเลื่อนออกไปอย่างกะทันหัน การเลื่อนการประชุมดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างมากต่อเกษตรกร ทั้งในด้านสภาพคล่องทางการเงิน การวางแผนการผลิต และความเชื่อมั่นที่มีต่อภาครัฐ แม้ทาง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จะยืนยันว่าพร้อมจ่ายเงินทันทีเมื่อมีมติจากคณะรัฐมนตรี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
“ขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจัดการประชุม นบข. โดยเร็วที่สุด เพื่อเร่งออกมาตรการที่เป็นรูปธรรมและสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างแท้จริง พร้อมเน้นย้ำว่าหากภาครัฐไม่สามารถสร้างราคาข้าวให้เหมาะสมกับต้นทุนการผลิตได้ ก็ควรจ่ายเงินช่วยเหลือในรูปแบบเงินสดที่เข้าถึงเกษตรกรได้โดยตรงและโปร่งใสที่สุด” นายชัชวาล กล่าว