อดีต สส.ปชป ท้า “ภูมิธรรม” ทำประชามติ กม.กาสิโน แนะดูตัวอย่าง รบ. “ยิ่งลักษณ์” ดัน กม.ล้างโทษสุดซอย เจอมวลชนขวางจนอยู่ไม่ได้
วันนี้ (6 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงษ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช กลาาวกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกร้องให้ผู้เห็นต่างหรือผู้คัดค้านร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้กลับมาสู้กันในสภาผู้แทนราษฎร ว่า ในหลักการประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ถูกต้อง สำหรับการแก้ปัญหาของบ้านเมืองต้องใช้เวทีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่สำหรับประเทศไทยมติเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้หมายความว่าถูกต้องเสมอไป มีหลายครั้งที่มติในสภาผู้แทนราษฎร เป็นไปในลักษณะเสียงมากลากไป โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากเสียงข้างน้อยเลย จนเกิดเผด็จการสภาเหมือนที่ผ่านมา
นายเทพไท กล่าวว่า หากจำกันได้ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแบบสุดซอย โดยใช้เสียงข้างมากลากไป ลงมติตอนตี 4 จึงเป็นที่มาของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับลักหลับ จนเป็นที่มาของการชุมนุมนอกสภา ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ออกไป และการชุมนุมครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากรัฐบาลไม่ฟังเสียงคัดค้านของประชาชน และ สส.ฝ่ายค้าน ก็อาจจะเกิดแรงต่อต้านนอกสภามากยิ่งขึ้น ซึ่งตอนนี้มีความเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มต่างๆ มากขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรทางศาสนา ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการเปิดบ่อนกาสิโนทุกศาสนาแล้ว
“ถ้าจะเรียกร้องให้นำ พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ไปต่อสู้กันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพียงอย่างเดียว โดยไม่รับฟังความเห็นของประชาชนเลย แน่นอนที่สุดว่า รัฐบาลซึ่งคุมเสียงข้างมากแบบเบ็ดเสร็จ ก็จะผ่าน พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฉบับนี้ไปได้ ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย จึงอยากให้รัฐบาลได้ฟังเสียงสะท้อนของประชาชนด้วย ถ้าจะวัดกันด้วยจำนวนมือในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะไม่เป็นธรรมกับกฎหมายฉบับนี้ ถ้าหากรัฐบาลต้องการรู้ว่าเสียงส่วนใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศคิดอย่างไร ก็ควรทำประชามติ จะได้ข้อยุติอย่างเบ็ดเสร็จ ไม่ต้องมีการถกเถียงกันอีกต่อไป” นายเทพไท กล่าว