ปชป.ฉลองครบ 79 ปี ธีม “ก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8” จัดพิธี 3 ศาสนา แกนนำ ภท.-ชทพ.-รทสช. ร่วมยินดีคึกคัก ด้าน “เฉลิมชัย” ลั่นไม่ขอประกาศอยู่ ปชป.จนตาย แต่จะยึดมั่นหลักการ-อุดมการณ์ ปชต.ขอพาพรรคเดินไปข้างหน้าให้ได้
วันนี้ (6 เม.ย.) เมื่อเวลา 07.00 น.ชั้น 3 อาคาร ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.สธ.) นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมช.สธ.) เป็นประธานในพิธี ร่วมเป็นประธานจัดงานฉลองครบรอบ 79 ปี ภายใต้แนวคิด “ก้าวต่อไปสู่ทศวรรษที่ 8”
ทั้งนี้ ภายในงานมีการจัดพิธี 3 ศาสนา เริ่มจากพิธีอิสลาม ต่อมาพิธีพราหมณ์ เพื่อบวงสรวงพระแม่ธรณีบีบมวยผม องค์สัญลักษณ์สำคัญของพรรค และพิธีทางศาสนาพุทธมีการนิมนต์สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์จากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร รวม 9 รูป ร่วมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ภัตตาหารเพล เพื่อความเป็นสิริมงคล และอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับ โดยมีแกนนำพรรคเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังมีแกนนำต่างพรรคการเมือง อาทิ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภา คนที่ 2 นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ สส.สระบุรี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ สส.ศรีสะเกษ จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มาร่วมแสดงความยินดีด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
ส่วนบริเวณรอบงานมีการจัดซุ้มอาหารรองรับแขกผู้ร่วมงาน และจัดกิจกรรมให้ผู้มาร่วมงานร่วมสนุกตอบคำถามพันธุ์แท้ประชาธิปัตย์ กับบรรดาผู้มาร่วมงานทั่วหน้าให้ได้รับความความสนุกคึกคัก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงพิธีทางศาลนาอิสลาม นายเฉลิมชัย ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2489 ได้มีการรวมตัวกลุ่มบุคคลจัดตั้งพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นเพื่อเป็นตัวแทน เป็นปากเสียงของพี่น้องประชาชน ด้วยหลักการและอุดมการณ์ของพรรคตั้งแต่วันนั้นในเรื่องประชาธิปไตย ในเรื่องการต่อต้านเผด็จการ จนถึงปัจจุบันพรรคของเรายังมีอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง หากจะมองย้อนไป 40 ปีที่แล้ว ในวันนั้นเราเองก็คงคาดคิดไม่ถึงว่า วันนี้โลกจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้ ไม่มีใครคาดคิดว่าเทคโนโลยีสิ่งต่างๆ จะรวดเร็ว ดังนั้น เราจึงคาดการณ์ไม่ได้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า อะไรจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ประชาธิปัตย์มี ไม่ว่าจะกาลเวลาเปลี่ยนไปอย่างไร ก็คือ หลักการและอุดมการณ์
“นี่คือสิ่งที่ผมถือว่าเป็นหัวใจของพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคนเรารักกันก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคนเราไม่รักกันการจะทำลาย ทำร้ายกัน ก็จะทำที่หัวใจ เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์วันนี้เมื่อถูกกล่าวหาว่าไม่มีหลักการไม่มีอุดมการณ์ ผมขอเรียนว่า ผมเข้ามาเป็น สส. ตั้งแต่ปี 44 ยังไม่เคยคิดย้ายพรรค แต่ผมอาจจะไม่ได้ประกาศว่าจะอยู่ประชาธิปัตย์จนตาย เพราะเห็นหลายคนประกาศอย่างนั้นแต่ก็ไปแล้ว แต่ผมไม่ทำเพราะผมรู้ว่าใจผมคืออะไร ผมรู้ตัวเองว่าชีวิตผมมีได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ดังนั้นหลักการที่เป็นหัวใจของประชาธิปัตย์ต้องมีอยู่ ผมรู้ว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระผู้เป็นเจ้ากำหนดเพื่อทำภารกิจอะไร นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจ” ดร.เฉลิมชัย กล่าว
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า เมื่อตนอาสามาเป็นหัวหน้าพรรค สิ่งที่จะต้องทำคือ ก็ต้องพาประชาธิปัตย์เดินไปข้างหน้าให้ได้ และมีความตั้งใจให้เป็นพรรคการเมืองที่ต้องรวมทุกกลุ่มชนทุกหมู่เหล่าทุกศาสนาเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย เพื่อความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน และเพื่อความสันติสุข อันเป็นสิ่งที่เป็นเป้าหมายสูงสุดซึ่งเป็นภาระที่หนักหน่วง แต่วันนี้จะเป็นอีกวันที่เป็นการเริ่มต้นของความเป็นสิริมงคล โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ทำกิจกรรมให้เป็นประโยชน์กับสังคมและมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนในส่วนของศาสนาต่อไป