เครือข่ายประชาสังคมหยุดระบอบทักษิณ ได้ยื่นหยังสือยกย่องเชิดชูและให้กำลังใจ “ป๋าเปรม” ระบุเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังแห่งสังคมไทยอย่างแท้จริง เผยประธานองคมนตรีอ่านจดหมายร้องทุกข์ทุกฉบับและกำลังพยายามทำให้สังคมคืนสู่ความสามัคคีตามแนวทางพระบรมราโชวาทอีกครั้ง
วันนี้ (9 ก.ย.) เครือข่ายประชาสังคมหยุดระบอบทักษิณ นำโดยนาย สังศิต พิริยะรังสรรค์ พร้อมประชาชน และนักศึกษากว่า 200 คนได้เข้ายื่นหนังสือยกย่องการทำงานของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์
นายสังศิต กล่าวว่า จุดประสงค์ในการยื่นหนังสือของเครือข่ายฯ ในครั้งนี้มิได้หวังผลตอบแทนแต่อย่างใด เหมือนการทำบุญที่ไม่หวังผลตอบแทน แต่เพื่อเป็นการยกย่องการทำงานของ พล.อ.เปรม ที่ถือว่าเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และการวางตัวอย่างเป็นกลางทางการเมือง จนถือได้ว่าเป็นเสมือนสัญญลักษณ์แห่งพลัง ทางด้านคุณธรรมของสังคมไทยอย่างแท้จริง อีกทั้งมีความทราบซึ้งในโอวาทของ ฯพณฯ จึงประกาศตัวที่จะทำตามโอวาทที่เคยมอบไว้ และจะชักชวนให้ญาติมิตร เพื่อนร่วมงานได้รับทราบและปฏิบัติตาม เพื่อให้ประเทศชาติกลับคืนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
สำหรับการมาในวันนี้นั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับทางพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่มาในส่วนของเครือข่ายประชาสังคมต้านระบอบทักษิณที่เน้นในการยกย่องคนดีในสังคม อย่างเช่นที่เคยไปให้กำลังใจการทำงาน คุณหญิงจารุวรรณ ที่ทำตัวเป็นตรงไปตรงมาในการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินมาแล้ว
นายสังศิต ยังกล่าวถึง กกต.ที่ได้รับเลือกทั้ง 5 คนว่ามาจากการการบล็อกโหวตจริง เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่จะมีการล็อบบี้กันโดยที่ไม่มีทางสกัดกั้นได้ แต่ก็ยังเชื่อว่าทั้ง 5 คนเป็นคนดี ที่ได้รับการกลั่นกรองมาจากศาลแล้ว และจะสามารถแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมืองในขณะนี้ได้ แต่หากในอนาคตมีการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเกิดขึ้นก็ไม่สามารถที่จะโทษศาลได้ เนื่องจากคนที่อยู่ในอำนาจและกองเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลงไป โดยหลังจากนี้ทางเครือข่ายจะมีการจับตาการทำงานของ กกต.ชุดใหม่อย่างใกล้ชิดต่อไป
“เรื่องล็อบบี้กันมีในทุกวงการ ไม่มีใครสกัดกั้นได้ แต่เชื่อว่าทั้ง 5 คนนั้นเป็นคนดีที่ศาลเลือกมาแล้ว แต่ถ้าหากในอนาคตก็ไม่ทราบ เนื่องจากเป็นเรื่องของอนาคต โดยหากเกิดข้อผิดพลาดก็จะมาโทษศาลไม่ได้ ซึ่งผู้ที่อยู่ในอำนาจและกองเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลงกันได้แต่หลังจากนี้ทางเราก็จะมีการติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิดเช่นกัน”
สำหรับการยื่นหนังสือของนายสังศิต ได้มี พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีบ หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ เป็นตัวแทนออกมารับหนังสือ โดยไม่ได้ตอบคำถามว่าในฐานะที่อยู่ใกล้ชิดกับ พล.อ.เปรม ทราบไหมว่าท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ โดยตอบเพียงว่าไม่ใช่หน้าที่ของตน พร้อมเปิดเผยว่า หนังสือที่ช่วงนี้มีการยื่นให้ ฯพณฯ บ่อยๆ นั้น ทาง พล.อ.เปรมได้อ่านทุกฉบับ แต่ไม่มีการแสดงสีหน้า หรืออาการอะไรออกมา
ทั้งนี้ ในฐานะที่ตนเป็นผู้ใกล้ชิดมาถึง 25 ปี เชื่อว่าท่านเป็นคนเข้มแข็งในทุกเรื่อง แต่จะรู้ว่าท่านกำลังพยายามทำให้สังคมกลับมามีความสามัคคีอีกครั้ง ซึ่งความสามัคคีนั้นมีพระบรมราโชวาทอยู่แล้ว และเป็นหน้าที่ที่ทุกคนต้องปฏิบัตตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการยื่นหนังสือในครั้งนี้มีประชาชน และนักศึกษามาร่วมกว่า 200 คน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยจากตำรวจ สน.สามเสน ที่เป็นสายตรวจ 12 นาย และกำลังเสริมอีก 8 นายแต่เป็นที่น่าสังเกตว่า มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชมงคลวิทยาเขตเทเวศร์กว่า 50 คนมาร่วมด้วยโดยไม่ได้มีการนัดหมายล่วงหน้า
นายตฤณ ดิษฐลำภู อาจารย์ประจำคณะวิศกรรม สาขาเครื่องกลอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชมงคลวิทยาเขตเทเวศร์ กล่าวว่า ที่มาในครั้งนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้นายสังศิต ซึ่งส่วนตัวแล้วตนคิดว่าสังคมไทยกำลังแตกแยกอย่างหนัก ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ มา 6 ปี ประชาชนก็แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย โดยประเทศไทยมีการปกครองที่มีพระมหากษัตริย์มากว่า 776 ปี ไม่เคยมียุคไหนที่สังคมแตกแยกได้เท่านี้
ส่วนบรรยากาศในขณะมอบหนังสือนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยประชาชนที่มาร่วมงานได้มีการจุดเทียน และร้องเพลงเทียนแห่งธรรม ตลอดระยะเวลาในการอ่านใจความของหนังสือ หลังจากนั้นเมื่อเสร็จสิ้นการรับมอบ ได้มีการตะโกน “ทักษิณ...ออกไป” เสียงดังสนั่นหลายครั้งก่อนแยกย้ายกันกลับ โดยบางส่วนยังคงเดินทางไปที่ลานคนเมือง บริเวณศาลาว่าการกรุงเทพฯ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ไม่เอาระบอบทักษิณต่อไป
