เลขาฯ คปส.ชี้ความพยายามปิดเว็บไซต์ส่อปิดกั้นเสรีภาพการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ขัดรัฐธรรมนูญและหลักสากล เตือนยิ่งปิดกั้นมวลชนจะเข้าร่วมชุมนุม 4 ก.พ.มากยิ่งขึ้น เรียกร้องนัก กม. นักวิชาการ ส.ว. และนักเคลื่อนไหวทางสังคมลุกขึ้นต่อต้านการใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรม
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ (คปส.) กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลที่จะปิดเว็บไซต์ “ผู้จัดการออนไลน์” ว่า สถานการณ์ดังกล่าวยิ่งเป็นการกระทำที่ไม่ชอบธรรมที่หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เป็นการใช้อำนาจรัฐในทางที่ไม่ถูกต้อง ทั้งการปิดเว็บไซต์ ซึ่งมุ่งหมายที่จะคุกคามและกลั่นแกล้งสื่อ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ซึ่งถือว่าเป็นสื่อประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวา มีการสื่อสาร 2 ทาง ประชาชนมีส่วนร่วมได้ง่าย และมีความเคลื่อนไหวตลอดเวลา อย่างเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์
ในขณะที่สื่อโทรทัศน์เองรัฐบาลก็สามารถควบคุมได้ ส่วนสื่อหนังสือพิมพ์ก็เป็นสื่อที่นิ่ง และไม่ส่งผลต่อพลังทางการเมืองเท่ากับสื่อออนไลน์
“ผลของการมีสื่อออนไลน์ ทำให้มีพลังทางการเมืองแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล”
เธอบอกอีกว่า การพยายามปิดเว็บไซต์ในครั้งนี้น่าจะเป็นผลมาจากการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 4 ก.พ.ที่จะถึง ซึ่งรัฐบาลอาจคิดว่าหากปล่อยให้มีการไหลของข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อออนไลน์ จะทำให้การเคลื่อนไหวครั้งนี้สั่นคลอนต่อเสถียรภาพของรัฐบาล วิธีการที่ใช้คือการพยายามอ้างกฎหมายในการกระทำการใดๆ เพื่อปิดช่องทางการสื่อสาร ซึ่งเป็นวิธีที่รัฐบาลชุดนี้เก่งมาก และส่งผลให้กระแสคัดค้านแผ่วลง
“ถึงเวลาแล้ว ที่นักกฎหมาย นักวิชาการ สมาชิกวุฒิสภา และนักเคลื่อนไหวทางสังคมจะร่วมกันเป็นแผงเพื่อออกมาชี้ให้เห็นว่าการกระทำการที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้โดยอ้างข้อกฎหมาย ควรยุติได้แล้ว จะต้องไม่ยอมให้ใช้อำนาจอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ”
อย่างไรก็ตาม เธอยังระบุด้วยว่า อันที่จริงการปิดเว็บไซต์ไม่สามารถกระทำการได้ เพราะขัดกับรัฐธรรมนูญ และหลักสากล ยิ่งเป็นคำสั่งปิดที่มาจากฝ่ายบริหารดังความพยายามในกรณีนี้ ยิ่งไม่สามารถกระทำได้ เนื่องจากอำนาจในการตรวจสอบ เจรจา ปรับปรุงการทำงานของสื่อออนไลน์ ควรอยู่ภายใต้การรับผิดชอบของ กทช. ซึ่งเป็นกระบวนการการตรวจสอบที่ตัองใช้เวลา ไม่ใช่สั่งกันง่ายๆ อย่างนี้
น.ส.สุภิญญา ยังให้ความเห็นในอีกมุมหนึ่งว่า การเร่งกระทำการปิดช่องทางการสื่อสารของฝ่ายรัฐบาลจะยิ่งเป็นการปลุกระดมมวลชนให้ขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลมากและเร็วขึ้น ยิ่งเป็นการกีดกันเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งเป็นเรื่องอันตรายและเป็นเรื่องที่ไม่ส่งผลดีต่อรัฐบาลในระยะยาวเลยแต่อย่างใด เพราะต้องไม่ลืมว่าสื่อออนไลน์เป็นสื่อที่ให้เสรีภาพต่อประชาชนในการเข้าถึง รับรู้และแสดงการมีส่วนร่วมโดยการโต้ตอบได้อย่างอิสระกว่าสื่ออื่น
“จะเห็นได้ว่าคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนไม่น้อยที่ไม่ใช่หัวการเมือง ไม่ใช่หัวปฏิรูป และไม่ได้เป็นคนในวงการที่ข้องเกี่ยวกับการเมืองใดๆ แต่เมื่อไปปิดกั้นช่องทางของเขา คนที่ไม่เคยรับรู้ หรือถึงรับรู้ก็ไม่แสดงออก ก็อาจจะเป็นการเร่งเร้าให้คนเหล่านี้ลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลได้ ยิ่งสกัดจะยิ่งทำให้คนลุกขึ้นมาเร็วขึ้น”
“วิษณุ” เฉไฉปิดเว็บผู้จัดการ-ยกคำขู่ “ใครฮึดฮัดเชือดฟันให้บรรลัย”
ทัศนะ นศ.ต่อกรณี “กรมกร๊วกพยายามปิดเว็บผู้จัดการ”
“กรมกร๊วก” บีบ กสท บล็อกเว็บ “ผู้จัดการ”!!
แถลงการณ์ “ผู้จัดการ” (17 พ.ย. 2548)
คุกคามสื่อ!
“ยงยุทธ” ลั่นศัตรู “สนธิ” เดือดข่าวเกณฑ์ม็อบป่วนขู่ฟ้อง-ปิดเว็บผู้จัดการ
รัฐบาลปิดปาก “เอกยุทธ” สบช่องแก้ กม. - ตั้งทีมคุมทุกเว็บ
รุมจวกยับ “คุกคามสื่อ”หลังสั่งบีบปิดเว็บผู้จัดการ
หาเหตุสั่งปิดไม่พบ เว็บ “ผู้จัดการ”ยังอยู่!
วัวสันหลังหวะ! – จวกรัฐกลัวความจริง ใช้อำนาจมืดปิดสื่อผู้จัดการ
“กสท” เครียด! ปิดเว็บผู้จัดการ - “หมอเลี้ยบ” ชี้ควรเตือนก่อน
“เด็กทักษิณ” บีบ “กสท” ปิดเว็บไซต์ผู้จัดการ