จับตา Crypto Dealer มิติใหม่เศรษฐกิจไทย! การจัดตั้งผู้ให้บริการ OTC Crypto ที่ถูกกฎหมาย ไม่เพียงป้องกันความเสี่ยงและฟอกเงิน แต่ยังเป็นโอกาสสร้างรายได้ภาษีใหม่ ดึงธุรกรรมตลาดมืดเข้าสู่ระบบ สนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล การท่องเที่ยวอัจฉริยะ และยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่เวทีโลก
ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยยังเผชิญความท้าทายด้านการกำกับดูแลและความเสี่ยงต่อผู้ลงทุน เห็นได้จากกรณีล่าสุดที่ สำนักงาน ก.ล.ต. ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เข้าตรวจสอบการให้บริการรับแลกเหรียญ Worldcoin (WLD) ณ จุดสแกนม่านตา พบผู้ให้บริการซึ่งเข้าข่ายเป็นการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับใบอนุญาต การกระทำดังกล่าวมีโทษตามพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดยพนักงานสอบสวนได้จับกุมผู้ต้องสงสัยเพื่อเข้าสู่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายต่อไป
นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่าการดำเนินการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการบังคับใช้กฎหมายและป้องกันผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึง ปกป้องผู้ใช้บริการจากความเสี่ยงการถูกหลอกลวง (scam) และการฟอกเงิน ก.ล.ต. ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการใช้บริการกับผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ได้รับใบอนุญาต และสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตได้ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน “SEC Check First”
ในตลาดคริปโตไทย ศูนย์ซื้อขาย เช่น Bitkub, Upbit และ Zipmex ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่จับคู่คำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล มีความโปร่งใสและอยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต. ผู้ใช้บริการต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และศูนย์ซื้อขายต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยสูง ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน แต่ยังมีข้อจำกัดด้านการถอนเงินบาทที่ล่าช้า หรือการรองรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติ
อีกหนึ่งช่องทางที่สำคัญคือ การซื้อขายแบบ OTC (Over-the-Counter) ซึ่งเป็นการตกลงซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรงระหว่างคู่สัญญา ไม่ผ่านตลาดกลาง ผู้ซื้อขายสามารถทำธุรกรรมเงินสดหรือซื้อขายล็อตใหญ่เพื่อลดผลกระทบต่อราคา ข้อดีของ OTC คือความยืดหยุ่นและเข้าถึงสภาพคล่องเงินสดได้รวดเร็ว แต่ข้อเสียสำคัญคือ ขาดการกำกับดูแล ทำให้เสี่ยงต่อการฉ้อโกงและอาชญากรรมทางการเงิน
ตามกฎหมายไทย ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลแบ่งเป็นสามประเภทหลัก ได้แก่ Exchange, Broker และ Dealer โดย Dealer คือผู้ค้าคริปโตในนามตนเอง คล้ายการให้บริการ OTC ปัจจุบันมีผู้ได้รับใบอนุญาต Dealer เพียง 4 ราย และยังไม่มีใครเปิดบริการ OTC หน้าเคาน์เตอร์อย่างถูกกฎหมาย ขณะที่ตลาด OTC ที่เป็นเงินสดยังดำเนินการนอกระบบและผิดกฎหมาย
จำนวนผู้ได้รับใบอนุญาต Dealer น้อย ส่วนหนึ่งเนื่องจากเกณฑ์กำกับดูแลเข้มงวด เช่น ระบบรักษาความปลอดภัย และโครงสร้างองค์กร ต้นทุนในการปฏิบัติตามมาตรฐานสูง ทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กไม่สามารถลงทุนได้เต็มที่ ส่งผลให้ตลาด OTC เถื่อนเติบโต และกลายเป็นช่องทางฟอกเงินหรือเชื่อมโยงกับอาชญากรรม เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ายาเสพติด
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาตลาด OTC นอกระบบ จึงมีข้อเสนอให้ จัดตั้งใบอนุญาต Licensed OTC Crypto Dealer ผู้ให้บริการต้องมีสถานที่ตั้งทางกายภาพ (Physical Counter) ดำเนินกระบวนการ KYC/CDD แบบพบหน้า บันทึกธุรกรรมและเก็บหลักฐานอย่างน้อย 5 ปี รวมถึงรายงานความเคลื่อนไหวสำคัญต่อหน่วยงานกำกับ แนวทางนี้มีเป้าหมายหลักเพื่อดึงธุรกรรม OTC เข้าสู่ระบบที่ ปลอดภัย โปร่งใส และถูกกฎหมาย
การจัดตั้ง Crypto Dealer ที่ได้รับอนุญาตจะช่วยปลดล็อก แหล่งรายได้ทางการคลังใหม่ จากตลาดมืด OTC ซึ่งมีเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาทต่อปีที่รัฐไม่สามารถเก็บภาษีได้ การนำธุรกรรมเหล่านี้เข้าสู่ระบบทำให้กรมสรรพากรสามารถเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลได้เต็มที่ และถือเป็น การปฏิรูปที่สร้างรายได้ (Revenue-Positive Reform) เพราะรายได้จากภาษีและค่าธรรมเนียมใบอนุญาตคาดว่าจะมากกว่าต้นทุนในการกำกับดูแล
นอกจากนี้ การกำกับดูแล Crypto Dealer ยังช่วยเปลี่ยนหนี้สินด้านการบังคับใช้กฎหมายให้กลายเป็น สินทรัพย์ทางคลัง ซึ่งสนับสนุนการบริหารจัดการรายได้ของรัฐอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ในมิติเศรษฐกิจดิจิทัล การมีช่องทางแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยและถูกกฎหมายช่วยสนับสนุน Digital Nomads และนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายและลงทุนในท้องถิ่นได้สะดวก ส่งผลต่อรายได้และการจ้างงาน รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
ในแง่ภาพลักษณ์และการบริหารแบรนด์ชาติ การกำกับดูแล Crypto Dealer เป็นเครื่องมือสำคัญในการ จัดการภาพลักษณ์เมืองอัจฉริยะ (Smart City) ช่วยลดข่าวเชิงลบเกี่ยวกับอาชญากรรมคริปโท ปกป้องมูลค่าโครงการ Phuket Smart City และแสดงถึงความวุฒิภาวะของไทยในการบริหารเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเป็นระบบ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนและนักท่องเที่ยวในระยะยาว
กล่าวโดยสรุปแล้ว การสร้างโมเดล Licensed OTC Crypto Dealer ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือจัดการความเสี่ยงด้านกฎหมายและความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการ แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการ เพิ่มรายได้ภาษีของรัฐ ดึงธุรกรรม OTC เข้าสู่ระบบ และส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและการท่องเที่ยวอัจฉริยะ อย่างยั่งยืน เป็นตัวอย่างของการปฏิรูปที่สร้างรายได้และส่งเสริมความน่าเชื่อถือของประเทศไทยในเวทีโลก


