รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.อ่างทอง เพื่อรู้จักตายายคู่หนึ่งที่ไม่เพียงอยู่ในวัยอ่อนล้าจากโรคภัยที่ถามหา โดยเฉพาะตา ซึ่งเคยถึงขั้นป่วยติดเตียง แต่พยายามลุกขึ้นสู้ ในฐานะหัวหน้าครอบครัว โดยมีความยากจนเป็นแรงผลักดัน ทั้งยังมีลูกเป็นออทิสติก ที่ต้องการการดูแล
เป็นเวลา 40 ปีแล้วที่คุณตาวิชาญ กับวัย 75 และคุณยายวัตนี พงสุวรรณ์ กับวัย 68 ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา โดยมีพยานรักด้วยกัน 1 คน คือ วัชราภรณ์ ที่แม้วันนี้จะอายุ 36 แล้ว แต่ด้วยภาวะออทิสติกและพัฒนาการล่าช้า ทำให้พ่อแม่ต้องดูแล แทบไม่ต่างจากเด็กคนหนึ่ง
โรคประจำตัวรุมเร้าตา-ยาย!
“ตาก็มีเบาหวาน ความดัน นัดที่แล้ว หมอนัดวันที่ 24 ตังค์ไม่มี ไม่ได้ไปหาหมอเลย”
“ยายมีเยอะโรคประจำตัว มีโรคไต เบาหวาน ความดัน ไขมัน ยายเป็นสมองตีบบางครั้ง ตอนนี้ยายชอบเวียนหัว เวลาก้มหัว หน้าจะมืด เวียนหัว”
แม้ร่างกายของลูกสาวจะเติบโตตามวัย แต่ความบกพร่องทางสมอง ส่งผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้และการสื่อสาร ทำให้ลูกยังต้องการการดูแลจากพ่อแม่
“เขาช่วยเหลือตัวเองได้ ก็หากับข้าวไว้ให้ เขาก็หากินเอง ใส่ตู้ไว้ให้ เขาก็หากินเอง ตักกินเองได้ (ถาม-เขาสื่อสารหรือใช้ชีวิตได้เหมือนเด็กปกติไหม?) ได้ คุยกับใครได้ รับรู้ (ถาม-เขาสามารถไปใช้ชีวิตกับสังคมภายนอกได้ไหม?) ไม่ได้ เดินไกลไม่ได้ (ถาม-แต่เห็นผิวหนังของน้อง เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงลายเต็มไปหมดเลย?) ยุงกัดบ้าง มดบ้าง (ถาม-เขาคันไหม?) ไม่คัน เป็นเม็ดใสๆ ก่อน (ถาม-ได้ไปหาหมอไหม?) ไป”
เมื่อก่อน ช่วงที่ร่างกายยังแข็งแรง ตาและยายหาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพขับรถ ซึ่งความเป็นผู้หญิงไม่ได้เป็นอุปสรรคต่ออาชีพนี้ของยายแต่อย่างใด
“ตาขับรถสองแถวอยู่วัดไผ่ เช่าเขาบ้าง ซื้อรถเก่าๆ มาซ่อมเองบ้าง อยู่มาก็ มันไม่ไหว สองแถว มอเตอร์ไซค์ออกมา สองแถวเลยเจ๊งเลย จอดทิ้งไว้ ไม่รู้จะไปไหน เลยมาขับรถดัมพ์ดินอยู่พักหนึ่ง เที่ยวละ 5 บาท วันหนึ่ง 20 เที่ยว ก็ 200 กว่าบาท ยายก็ขับรถสองแถวอยู่ ตอนหลังก็ขับรถพ่วงของ ปตท. (ถาม-ยายขับรถพ่วง?) เขาเก่ง ขับรถปิคอัพ ขับรถเก๋ง”
ตายายกับชีวิตที่ต้องดิ้นรนเข้ามาทำงานในเมืองหลวง!
แม้ในวัยที่อายุเลย 60 แล้ว แต่ข้อจำกัดด้านฐานะ ทำให้ตาและยายไม่สามารถหยุดทำงานได้ กระทั่งความหนักหน่วงของเนื้องาน เริ่มส่งผลต่อสุขภาพ
“ขับรถด้วยส่งน้ำตามบ้าน เลาะไปเรื่อย ตามแพ ไม่มีเงินเดือน วันหนึ่งก็หลายตังค์เหมือนกัน (ถาม-ทำไมถึงหยุด?) มันอายุมากขึ้น ไม่มีใครช่วยยก เรายกแขนเดียวแขนขวา แขนซ้ายยกไม่ได้ (ถาม-เป็นอะไร?) หัวไหล่หลุด”
“ก็เพิ่งมาเริ่มไม่ไหวตอน 3-4 ปี ยายขับรถส่งน้ำ น้ำถังโพลาริส (ถาม-60 กว่าก็ยังทำอยู่หรือ?) ทำ ตาเขาขับไม่ไหว แกเป็นเกาต์ เดี๋ยวขาบวมบ้าง ยายก็ขับแทน ยกแทน”
ปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้ตายายตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านที่อ่างทองอีกครั้ง พร้อมหารายได้ด้วยอาชีพคัดเหล็ก ซึ่งสามารถทำงานที่บ้านได้
“วันหนึ่งได้ไม่กี่ตังค์หรอก แต่ก็ยังดียังพอมีกินบ้าง (ถาม-เหล็กมันต้องใช้แรง ยายไหวหรือ?) ใช้แรง เส้นขึ้นเต็มไปหมดเลย”
“(ถาม-เหล็กที่ทำเป็นเหล็กอะไร?) เหล็กเส้น เขาตัดมาให้ยาวแค่นี้ เราก็มาดัดเป็นสี่เหลี่ยม (ถาม-วันหนึ่งทำได้เยอะไหม?) ถุงหนึ่ง 35 โล ได้ 105 บาท วันหนึ่งก็ประมาณ 2 ถุง 100 กว่าบาท ทำถึง 4-5 ทุ่ม นั่งจนไม่รู้จะนั่งยังไง ตีทั้งวันเลย”
รายได้ไม่พอ 3 ชีวิต ต้องพึ่งข้าววัดบ้าง เพื่อนบ้านบ้าง!
“อยู่อย่างนี้ ก็ไม่รู้จะทำอะไรที่มีรายได้ เผื่อไม่ได้อาหารคนโน้น ทางวัดไม่ได้เอามาให้ เราก็ติดตัวบ้าง 40-50 บาท แม่ค้าผ่านไปผ่านมาก็ซื้อนิดๆ หน่อยๆ ไว้กินบ้าง (ถาม-รายได้ถือว่าน้อยมากสำหรับการใช้ชีวิต 3 คน เคยขาดแคลนหรือถึงกับขาดมือไหม?) ก็ขาด แต่ไม่รู้จะทำยังไง บางทีก็ขอข้าวเขา 1-2 ถ้วยมาหุง 2-3 มื้อกิน บางทีก็ต้มข้าวต้ม (ถาม-จะไปหยิบยืมหรือกู้หนี้มาใช้?) กลัวไม่มีรายได้ไปใช้หนี้เขา (ถาม-เคยมีครั้งไหนต้องอดหรือให้ลูกกินก่อนไหม?) ก็มี ปลากระป๋อง มาม่ามาแจก ก็เอาไว้ให้สำหรับลูก”
โรคภัยทำคุณตาเสียดวงตา 1 ข้าง!
“(ถาม-ตาเป็นอะไร?) เขาบอกเป็นต้อกระจก ไปผ่าแล้ว แล้วหมอที่ผ่าตัด กระจกตามันแตกอยู่ 2 เม็ด แตกแล้วมันฝัง ไม่ยอมออก เวลาเราก้ม น้ำตาร่วง น้ำตาร่วงแล้วมันเจ็บ (ถาม-เพราะฉะนั้นตาขวาของตาจะไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว?) ครับ ไม่เห็นเลย (ถาม-เป็นมานานหรือยัง?) ก็ 8 เดือน นอนติดเตียง 8 เดือน กินข้าวได้ 2-3 ช้อน จะอ้วก นอนกิน (ถาม-ตอนติดเตียงป่วยจากโรคอะไร?) เหมือนตามอายุขัย ไม่มีแรงเฉยๆ”
“(ถาม-ในวันที่ตาป่วยเป็นยังไงบ้าง ความเป็นอยู่ตอนนั้น?) ยายหาค่ารถ หาแทบไม่มี มีค่ารถ แต่ไม่มีกิน”
ในวันที่เสาหลักอย่างตาล้มป่วยติดเตียง ยายต้องทำหน้าที่เสาหลักแทน!
“ยายก็วิ่ง ไปๆ มาๆ เช้าเย็นๆ เพราะต้องดูลูกสาวด้วย ลูกสาวอยู่คนเดียวไม่ได้ (ถาม-แล้วการหารายได้ของยายในช่วงนั้น?) ตอนนั้นยายก็ทำเหล็กนี่แหละ (ถาม-แล้วมีเวลาทำหรือ?) กลางคืนยายก็นั่งทำ ยายอุ้มเขาก็ไม่ค่อยไหว ตอนที่เขานอนติดเตียง อุ้มแล้วยายปวดหลังไปหมดเลย ยายก็เป็นโรคไตระยะที่ 3 นะ ตอนนี้”
“(ถาม-ในภาวะที่เรายากลำบากที่เลี้ยงลูกมา เคยคิดจะเอาลูกไปฝากคนอื่นเลี้ยงหรือส่งมูลนิธิสงเคราะห์เลี้ยงไหม?) ไม่เคยเลย นอกจากตายแล้ว (ถาม-ทำไมคิดว่าจะต้องดูแลเอง?) เพราะเราก็ไม่รู้ เกิดลูกไปลำบาก เราไม่เห็น อยู่กับเรา อดบ้างกินบ้างก็ยังเห็นอยู่ ยังได้มองกันดูกัน”
หลังป่วยติดเตียงอยู่ 8 เดือน ตาพยายามรวบรวมกำลังและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้งเพื่อครอบครัว
“(ถาม-เคยคิดไหมว่าจะต้องกลับมาเดินได้ตอนนั้น?) ไม่เคยคิด (ถาม-แล้วทำไมจู่ๆ เดินได้?) ก็บอกผีบ้านผีเรือนเจ้าที่เจ้าทาง เทวดาฟ้าดิน ถ้าจะล้มหมอนนอนเสื่อ ขอให้ไป อย่าให้คนอื่นเขามาลำบาก”
“(ถาม-ตาฟื้นฟูตัวเองด้วยวิธีการไหนบ้าง?) ตอนแรกเดินไม่ได้ ก็หัดก้าวขาขึ้นลงบันได แล้วก็นั่งตรงโน้น และมายืนตรงนี้ ยืนก้าวขาสลับขาให้ขามันยืด ไม่อย่างนั้นมันจะงออย่างเดียว (ถาม-ความพยายามเห็นผล ใช้เวลานานไหมจากผู้ป่วยติดเตียงกลับมาเดินได้?) 3 เดือน”
มียายช่วยเป็นกำลังใจ!
“แกหัดยืนเป็นอาทิตย์ กว่าจะยืนได้ พอยืนได้ก็หัดก้าว พอก้าวได้ก็ดีใจใหญ่ (ถาม-แล้วยายให้กำลังใจตายังไงบ้างในช่วงที่แกพยายามฝึกเดิน?) ยายก็บอกว่า สู้กันไป ชีวิตเรายังไม่จบ เรายังอยู่ สู้ไป เขาบอก เขาก็สู้อยู่แล้วทุกวันนี้”
ด้าน “ฉัตรชัย เย็นทรวง” ปลัดอำเภอป่าโมก เผยถึงความยากลำบากของครอบครัวตายาย ทำให้หน่วยราชการและเพื่อนบ้านต้องยื่นมือช่วยเหลือ
“เท่าที่เห็นคือ ตาจะเป็นกำลังหลักของบ้าน นอกจากแขนขาไม่มีแรงแล้ว ตาข้างหนึ่งก็เสีย มีโรคประจำตัวอีก เพราะตอนที่ผมเอาไปส่ง รพ.หมอตรวจเลือดมา ก็ยังพบว่ายังมีโรคประจำตัวอีกเยอะ ตอนนี้ทำอะไรหนักๆ ไม่ได้ นอกจากผูกเหล็ก ได้ไม่กี่ร้อยหรอก ก็อาศัยชาวบ้านแถวนี้และทางหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือดูแลเรื่องสาธารณูปโภคเพิ่มเติม และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับคุณตา”
ยายยังห่วง ถ้าตาหรือยายเป็นอะไรไป คนที่เหลือจะอยู่ยังไง!
“(ถาม-ถึงวันนี้ยาย 68 ปี ประเมินกำลังตัวเองว่าจะสามารถทำหน้าที่ของแม่ได้อีกนานแค่ไหน?) ยายยังนึกอยู่ว่า เกิดมาวูบปุ๊บปั๊บตาย ทำยังไงเนี่ย ใจคิด มีอยู่ครั้งหนึ่ง ยายก็ไม่รู้ยายเป็นอะไร หัวใจมันวืดไป พอมันวืดไป ยายไม่รู้ตัวเลยว่ายายนอนคลุกดินอยู่ ยายนั่งคิดเหมือนกัน ถ้าใครตาย ทำยังไง ตาไป แล้วยายทำยังไง นอนคิดเหมือนกัน ยายคิดว่ายังไงก็ต้องอยู่ได้ เมื่อชีวิตยังอยู่”
ขณะที่ตา ยอมรับว่า หากอนาคตดูแลลูกสาวไม่ไหวแล้ว ก็คงต้องให้สถานสงเคราะห์ดูแล
“ก็ส่งเขาไปที่สถานสงเคราะห์ ที่นี่ไม่มี มีอ่างทอง เขามีบัตรพิการอยู่ บัตรพิการทำมาไว้แล้ว (ถาม-คนมีลูกก็ต้องรักลูกรักครอบครัว สำหรับตามีลูกพิการ และมีชีวิตที่ยากลำบาก ความรักของเราน้อยลงหรือรู้สึกว่าสิ่งที่ลูกเป็นอยู่เป็นภาระไหม?) ไม่เป็นภาระอะไร ต้องดูแลไม่ให้เขาอดอยาก เรายังไงก็กินกันไป มีพริกป่นน้ำปลาเหยาะๆ ไปราดข้าว ดีกว่ากินข้าวเปล่าๆ ผูกพัน ก็เป็นห่วงเขา”
หากท่านใดต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนครอบครัวตาวิชาญ สามารถโอนไปได้ที่ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี วิชาญ พวงสุวรรณ์ เลขที่บัญชี 980-0-92384-5
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “เสาหลักที่โคลงเคลง”
https://www.youtube.com/watch?v=yMIo241THRo
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 618 / กล่อง True ID ช่อง 19)
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos