xs
xsm
sm
md
lg

MFCไม่กังวลลูกหนี้‘สึนามิฟันด์’มั่นใจใน10ปีรับคืนทั้งต้นและดอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.เอ็มเอฟซี ปลื้มผลสำเร็จ “กองทุนสึนามิ รีคัฟเวอรี่ ฟันด์” ช่วยฟื้นฟูธุรกิจโรงแรมได้อย่างรวดเร็ว ลั่นไม่เกินต้นปีหน้าผู้ประกอบการทุกรายเปิดให้บริการครบ ล่าสุดยอดจองห้องพักคิวเต็มยาวจนถึงมกราคมปีหน้า "พิชิต" มั่นใจทุกรายจ่ายคืนทั้งต้นและดอกเบี้ยได้ตามระยะเวลาที่กำหนด 10ปีแน่ จากภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวไม่มีเบรก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารจัดการกองทุนเปิดเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูกิจการที่ได้รับผลกระทบจากสึนามิ หรือกองทุน สึนามิ รีคัฟเวอรี่ ฟันด์ ว่า ภายในต้นปี 2551 ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนจะสามมารถเปิดให้บริการได้ครบทั้งหมดจำนวน 20 รายแน่ โดยขณะนี้เหลืออีกเพียง 2 โรงแรมซึ่งอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการก่อสร้าง และคาดว่าจะเปิดให้บริการอย่างเร็วสิ้นภายในสิ้นปีนี้ หรือช้าที่สุดในต้นปีหน้า

ทั้งนี้ บลจ.เอ็มเอฟซี มั่นใจว่าผู้ประกอบการทุกรายจะสามารถจ่ายเงินคืนกองทุนได้ภายในระยะเวลา 10 ปีตามที่กำหนด เพราะเงินช่วยเหลือของกองทุนได้ช่วยให้ผู้ประกอบการทุกรายมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยในช่วง 5 ปีแรกที่มีอัตราเพียง 1% ก่อนปรับขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดในช่วง 5 ปีหลัง

“เราต้องให้เวลากับผู้ประกอบการเหล่านี้ เพราะพวกเขาได้รับผลกระทบจากสิ่งที่ไม่คาดฝัน ดังนั้นจึงต้องรีบปรับตัวและฟื้นฟูให้เร็ว โดยเราได้พิจารณาแล้วว่าเมื่อช่วยเหลือไปแล้ว ธุรกิจเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่เติบโตได้ เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการทุกรายสามารถจ่ายเงินดอกเบี้ยได้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนเมื่อครบ 10 ปีแล้วบางรายไม่สามารถจ่ายคืนได้ครบ เราก็อาจพิจารณาให้จ่ายแบบทบดอกเบี้ยไปในเดือนถัดไปได้เช่นกัน แต่เชื่อว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว จะมีน้อยรายมากที่ไม่สามารถจ่ายคืนได้ไม่ทันกำหนด”

กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจโรงแรมที่ประสบภัยสึนามิ โดยเฉพาะในพื้นที่เขาหลัก จังหวัดพังงา ว่า อัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติบริเวณ เขาหลัก อยู่ในระดับที่เป็นที่น่าพึงพอใจ และมีอัตราการติดต่อจองห้องพักเฉลี่ยสูงถึง 80% นอกจากนี้อัตราการจ้างพนักงานก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะเห็นว่าการเข้าช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามินั้น นอกจาก จะนำเงินเข้าร่วมลงทุนโดยตรงกับกิจการที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้กิจการฟื้นตัวได้แล้ว ยังส่งผลทางอ้อมก่อให้เกิดวงจรธุรกิจกลับคืนสู่พื้นที่การท่องเที่ยวอีกครั้งหนึ่ง อาทิ การจ้างงาน ร้านค้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่ากองทุนฯ มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากในการช่วยพลิกฟื้นและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในบริเวณเขาหลัก และพื้นที่ใกล้เคียงให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ปัจจุบัน ยอดจองห้องพักทั้งเกือบ 100% จะมาจากนักท่องเที่ยวเที่ยวโดยเฉพาะจากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ที่กลับมาใช้บริการ ขณะที่สัดส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยมีเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อถึงช่วงเทศกาลคริสมาสต์และเทศกาลปีใหม่ จำนวนห้องพักในพื้นที่เขาหลักจะมียอดจองเต็ม 100% จากการสั่งจองห้องล่วงหน้าของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ เพราะเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ

ขณะเดียวกัน มีการประเมินว่าภายในอีก 2 ปีข้างหน้า จำนวนห้องพักในพื้นที่เขาหลักจะมีถึง 6,000 ยูนิต เท่ากับในช่วง 3 ปีที่แล้ว หรือช่วงก่อนที่เกิดเหตุการณ์สึนามิ ขณะที่รายได้รวมของธุรกิจท่องเที่ยวปี 2550 ในพื้นที่เขาหลักจะอยู่ที่ 2 –3 พันล้านบาท และมีการคาดหมายว่าในปี 2551 จะเติบโตเพิ่มเป็น 4 – 5 พันล้านบาท และขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 7 –8 พันล้านบาทในปี 2552 ซึ่งจะใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ที่มีรายได้รวมประมาณ 9,000 ล้านบาท

สำหรับ กิจการที่กองทุนสึนามิ รีคัฟเวอรี่ ฟันด์ได้เข้าไปช่วยฟื้นฟูประกอบด้วย กิจการในจังหวัดกระบี่ 1 แห่ง จังหวัดพังงา 14 แห่ง และในจังหวัดภูเก็ต 5 แห่ง ซึ่งกองทุนได้ให้เงินกู้ยืมแก่ผู้ประกอบการทุกรายในลักษณะหุ้นกู้ ระยะเวลา 10 ปี อย่างไรก็ตามได้มี บริษัท บ้านร่มไม้ชายเล จำกัด และบริษัท พาวิลเลียน บีช รีสอร์ท จำกัด ซึ่งเป็น 2 รายแรกที่ได้ชำระเงินคืนกองทุนแล้วทั้งหมด เนื่องจากไม่สามารถดำเนินการตามแผนธุรกิจที่วางไว้ และอีกรายได้มีผู้มาติดต่อขอซื้อกิจการ
กำลังโหลดความคิดเห็น