xs
xsm
sm
md
lg

กบข.ปรับพอร์ตลุยหุ้นภาคบริโภคเผยปีหน้าสนใจลงทุนกองอสังหาฯเมืองนอก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กบข. เผยแผนปีหน้า เตรียมให้น้ำหนักลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศเพิ่ม หากเศรษฐกิจส่งสัญญาณขยายตัวชัดเจนหลังรัฐบาลใหม่นั่งเก้าอี้บริหารประเทศ ขณะเดียวกันยังสนใจลงทุนพร็อพเพอร์ตี้ฟันด์เมืองนอก และเพิ่มสัดส่วนหุ้นเอเชียด้วย มั่นใจผลงานทั้งปีนี้เข้าเป้า 8-9% ส่วนปีหน้าไม่ง่าย คาดมีลุ้น 6-6.5%

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า การลงทุนของกบข.ในปีหน้าจะให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ (Domestic Consumption) มากขึ้น หากมีสัญญาณที่ทำให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีขึ้นได้ ซึ่งคงต้องรอดูความชัดเจนราวเดือน ม.ค.-ก.พ.51 ว่าจะเลือกลงทุนในหุ้นตัวใดหรือหลังจากที่ได้รัฐบาลใหม่เข้ามาแล้ว ส่วนการลงทุนในกลุ่มพลังงานคงมีแนวโน้มเช่นเดียวกับทั่วโลกที่จะปรับลดสัดส่วนการลงทุนลง โดยจะให้น้ำหนักการลงทุนเท่ากับน้ำหนักของตลาด เนื่องจากเรามองว่าราคาของหุ้นกลุ่มพลังงานปรับขึ้นไปสูงสุดแล้ว

"ในปีหน้า คงจะมีการจัดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นใหม่ โดยจะเน้นกลุ่มที่มีรายได้อิงกับการบริโภคภายในประเทศเป็นหลักมากขึ้น ส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานอาจจะลดลัดส่วนลงบ้าง แต่ยังคงให้น้ำหนักตามน้ำหนักของตลาด อย่างไรก็ตาม อาจจะไม่เพิ่มการลงทุนในไทยมากกว่านี้ ยกเว้นในหุ้นที่มีการเติบโตจริงๆ"นายวิสิฐกล่าว

นอกจากนี้ กบข.จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนอยู่ประมาณ 15% ก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 20-25% โดยส่วนหนึ่งมองว่าการที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว เงินลงทุนในตลาดโลกจะไหลเข้ามาลงทุนเอเชียรวมถึงไทยมากขึ้น

สำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ในปีหน้าเราสนใจลงทุนผ่านกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ฟันด์) ในต่างประเทศ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องมากกว่ากองทุนที่มีอยู่ในประเทศ ขณะเดียวกันการลงทุนอสังหาฯ ในประเทศก็อาจจะมีบ้างเพราะยังเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงในอัตราถึง 7-8% โดยสินทรัพย์ที่สนใจมีทั้งโรงแรมที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวเป็นหลัก รวมถึงคอนโดมีเนียมด้วย ซึ่งหลังจากนี้ การเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์นั้น มองว่าไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของทั้ง 100% แต่เป็นแค่เพียงหุ้นส่วนก็ได้หากได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า

"ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ยากที่เราจะหาอสังหาริมทรัพย์ที่ดีได้แล้วเจ้าของพร้อมที่จะขายให้ ดังนั้นเราพร้อมที่จะเข้าไปในรูปแบบของพันธมิตรคือเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นเจ้าของอาจจะไม่ได้เป็นทั้ง 100% แต่สามารถที่จะสร้างมูลค่าให้กับเงินลงทุนได้เราก็พร้อมที่จะเข้าไปลงทุน"นายวิสิฐกล่าว

นายวิสิฐกล่าวถึงผลการดำเนินงานของกบข.ในปีนี้ว่า สามารถสร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างดีโดยเฉลี่ยประมาณ 8-9% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในนี้เราได้ประโยชน์จากการลงทุนในกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นกลุ่มที่นำตลาดให้ปรับตัวขึ้นมาในปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับผู้ลงทุนรายอื่นๆ ที่มีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนการลงทุนในปี 2551 มองว่า จะเป็นปีที่ไม่ง่ายนักสำหรับการลงทุน อย่างไรก็ตาม กบข.ตั้งเป้าที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับสมาชิกให้ได้เฉลี่ยในปีหน้าประมาณ 6-6.5%

นอกจากนี้ ยังได้ฝากถึงรัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศในปีหน้าว่า ควรจะวางรากฐานความมั่นคงแข็งแรงให้กับทั้งเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศ และเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ รวมทั้งสร้างความมั่นใจในกฎหมายต่างๆ ที่จะมีผลต่อเนื่องไปถึงนักลงทุน พร้อมกับมองว่าควรมีนโยบายที่จะเพิ่มหลักทรัพย์ในตลาดหุ้นให้มากขึ้น โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนเกินกว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อดึงดูดนักลงทุนและลดความผันผวนของตลาดหุ้น

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า กบข.จะเข้าไปซื้อหุ้น บมจ.อสมท.(MCOT) และธนาคารกรุงเทพ(BBL) ที่กระทรวงการคลังต้องการขายออกมาเพื่อระดมเงินทุนไปใช้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนธนาคารทหารไทย(TMB)นั้น ยืนยันว่าไม่เคยเจรจาซื้อหุ้น 2 ตัวดังกล่าวหรือไม่มีการพูดคุยกับกระทรวงการคลังแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น