กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ เดินหน้าใส่เงินลงทุนในธุรกิจพลังงานแล้ว 1 บริษัทจากเป้าสิ้นปี 3-4 รายด้วยวงเงิน 1,000 ล้านบาท "พิชิต" มั่นใจระยะยาว เป็นผลดีต่อภาพรวมการใช้พลังงานของประเทศ และสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ลงทุน เล็งอีก 1 ปีข้างหน้า ระดมทุนเต็มมูลค่า 4,000 ล้านบาท พร้อมจัดสรรวงเงิน 20% ลุยพลังงานประเทศเพื่อนบ้าน
นายพิชิต อัคราทิตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการลงทุนของกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ ว่า ขณะนี้บริษัทได้เริ่มทยอยเข้าไปลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานแล้ว 1 บริษัท จากเป้าหมายทั้งหมด 3-4 บริษัทที่กองทุนตั้งเป้าจะลงทุนให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ โดยการลงทุนดังกล่าวคิดเป็นจำนวนเงินลงทุนรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท จากจำนวนเงินทุนที่สามารถระดมมาได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมา มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานและพลังงานทดแทนติดต่อเข้ามาให้กองทุนเข้าไปร่วมลงทุนแล้วประมาณ 20 บริษัท โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานทดแทน ทั้งพลังงานไบโอดีเซล เอทานอล พลังงานแสงแดง ลม พลังงานขยะ รวมถึงบริษัทที่เกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต (บริษัทที่สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศ)
"การลงทุนของกองทุนหลังจากนี้ เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อภาพรวมของเรื่องการใช้พลังงานภายในประเทศ ซึ่งการที่สามารถนำพลังงานทดแทนมาใช้มากขึ้นน่าจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะช่วยลดการน้ำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ในส่วนของผู้ลงทุนเอง ก็จะได้ประโยชน์จากผลตอบแทนที่เกิดจากการลงทุน ซึ่งน่าจะอยู่ในระดับสูง เนื่องจากธุรกิจประเภทนี้ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย ประกอบกับยังมีการลงทุนไม่มาก"นายพิชิตกล่าว
นายพิชิตกล่าวต่อว่า ปัจจุบันกองทุนพลังงานมีเงินร่วมลงทุนรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการที่ยื่นขอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จำนวน 4,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแผนจะระดมทุนให้ได้เต็มมูลค่าโครงการภายใน 1 ปีหลังจากนี้ โดยในช่วงที่ผ่านมา มีนักลงทุนสถาบันหลายรายแสดงความสนใจเข้ามาร่วมลงทุนกับกองทุนดังกล่าว ทั้งธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน บริษัทประกันชีวิตและประกันภัย รวมถึงหน่วยงานขององค์กรระหว่างประเทศด้วย ซึ่งนักลงทุนกลุ่มนี้ อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะ เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการลงทุนขององค์กรก่อน
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรเงินลงทุนประมาณ 20% ของมูลค่าโครงการ เพื่อลงทุนในธุรกิจพลังงานในต่างประเทศด้วย โดยเบื้องต้นจะเน้นลงทุนในประเทศที่มีความเกี่ยงข้องกับการใช้พลังงานในประเทศไทยหรือธุรกิจพลังงานที่ไทยเข้าไปลงทุน เช่น ในประเทศพม่า ลาว เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งประเทศเหล่านี้เองมีความเกี่ยวข้องทางด้านพลังงานของไทยพอสมควร เช่น ประเทศลาว ที่ขายพลังงานไฟฟ้าให้กับไทย
สำหรับกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอนเนอร์จี ฟันด์ เป็นกองทุนที่มีนโยบายหลักในการลงทุนโดยตรงในบริษัทที่ดำเนินกิจการเกี่ยวข้องกับพลังงาน พลังงานทดแทนและธุรกิจที่มีส่วนสนับสนุนนโยบายของรัฐด้านพลังงานที่มีขนาดเงินลงทุนราว 50-500 ล้านบาท เพื่อช่วยพัฒนาพลังงานหมุนเวียนจากแหล่งทรัพยากรในประเทศ ซึ่งลักษณะการลงทุนของกองทุนดังกล่าว จะเป็นการเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัทนอกตลาด โดยกองทุนจะมีอายุ 10 ปี ซึ่งในช่วง 5 ปีแรกจะเป็นช่วงของการระดมทุนเพื่อเข้าไปลงทุนในบริษัทนั้นๆ ส่วนอีก 5 ปีจะเป็นช่วงที่กองทุนเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุน โดยในเบื้องต้นคาดว่ากองทุนดังกล่าวจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ไม่ต่ำกว่า 15% หรือสูงกว่า
โดยเงินลงทุนจำนวน 3,000 ล้านบาท มาจากผู้ลงทุนสถาบันทั้งหมด 7 ราย ประกอบด้วย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยใส่เงินลงทุนรวม 800 ล้านบาท บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) 400 ล้านบาท บริษัท บางจากปิโตรเลียม 200-400 ล้านบาท บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 400 ล้านบาท นอกจากนี้มี ธนาคารออมสิน ซึ่งใส่เงินลงทุนรวม 500 ล้านบาท ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 50 ล้านบาท บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด 50 ล้านบาท และยังมี สำนักงานประกันสังคม รวมถึง บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ด้วย