ผู้บริหารบลจ.ธนชาต ชี้หลังเลือกตั้งปลายปีนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์-อสังหาริมทรัพย์ขยายตัวได้ดี เหตุกลุ่มแบงก์ไม่ต้องแบกรับภาระกันสำรอง หลังจากดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว บวกกับปัญหาซับไพรม์ไม่บานปลาย พร้อมเสนอรัฐบาลใหม่เพิ่มแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจแทนการพึ่งพาส่งออกเพียงอย่างเดียว
นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัยพ์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาติ จำกัด กล่าวถึง แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังจากที่มีการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 และมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศว่า จะส่งผลให้หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ได้มีการตั้งสำรองเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่ต้องแบกรับภาระในการตั้งสำรองเพิ่มอีก บวกกับปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ที่เกิดในสหรัฐฯ ไม่ส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย
ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงาน แม้ราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่พี/อี เรโชของไทยยังต่ำกว่าในภูมิภาคเอเชีย ประกอบกับได้ข่าวดีสนับสนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ยิ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไป ขณะที่ในระยะยาวหุ้นกลุ่มพลังงานยังสามารถปรับขึ้นต่อไปได้อีก
สำหรับภาคอุตสาหกรรมถ้ามีการลงทุนเพิ่มเติม จะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ แต่รัฐบาลชุดใหม่จะต้องกำหนดนโยบายให้ชัดเจน
"การที่ประเทศไทยเน้นการส่งออกเพียงด้านเดียว ไม่สนใจด้านอื่น และการที่สามารถส่งออกได้น้อยลงจะทำให้ความน่าสนใจน้อยลงในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ เพราะการที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้าไปลงทุนในประเทศอื่นนั้น มักจะมองจากการเติบโตจากปัจจัยภายในมากกว่าปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ทำให้หลังจากนี้รัฐบาลควรเร่งพัฒนาเศรษฐกิจขาอื่นด้วย"
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ (บลจ.) ธนชาต กล่าวเพิ่มเติมว่า หุ้นขนาดใหญ่ยังสามารถไปได้ดี แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแรง และความได้เปรียบจากการส่งออกลดลง ทำให้เศรษฐกิจไทยยากที่จะเติบโตได้ เพราะประเทศไทยไปพึ่งพาการส่งออกมากจนเกินไป
"ประเทศไทยจะมีเงินไหลเข้ามา เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศแถบเอเชียยังมีราคาค่อนข้างถูก แต่มีจุดอ่อนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง"
ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังไม่อนุญาตให้ บลจ.ตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในหุ้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนั้น น่าจะเกิดความวิตกเรื่องความเสี่ยงของนักลงทุน ดังนั้นจึงจะพิจารณาจากความเหมาะสมในการลงทุนแต่ละประเภท
ด้าน Mr.Gerard Clancy, Director , Black Rock , Hong Kong กล่าวว่า การลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือกใหม่ เป็นโอกาสที่น่าสนใจในการลงทุน คือ ราคาพลังงานแบบดั้งเดิม เช่น ราคาน้ำมันสูงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ต้นทุนการผลิตพลังงานทางเลือกใหม่ลดลง โดยคาดว่าสถานการณ์น้ำมันในปีหน้าจะยิ่งตึงตัวยิ่งกว่าปี 2550 และคาดว่าราคาน้ำมันจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป
อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือกจะได้ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่ทุกประเทศทั่วโลกออกมาสนับสนุนให้มีการแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนและ ลดการใช้พลังงาน อาจจะทำให้กลุ่มพลังงานทางเลือกได้รับประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว หากทั่วโลกให้การสนับสนุนมาตรการนี้อย่างจริงจัง
นายตระกูลจิตร จิตตไสยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัยพ์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ธนชาติ จำกัด กล่าวถึง แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังจากที่มีการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 และมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศว่า จะส่งผลให้หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ได้มีการตั้งสำรองเรียบร้อยแล้ว ทำให้ไม่ต้องแบกรับภาระในการตั้งสำรองเพิ่มอีก บวกกับปัญหาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ที่เกิดในสหรัฐฯ ไม่ส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย
ส่วนหุ้นในกลุ่มพลังงาน แม้ราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา แต่พี/อี เรโชของไทยยังต่ำกว่าในภูมิภาคเอเชีย ประกอบกับได้ข่าวดีสนับสนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ยิ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นไป ขณะที่ในระยะยาวหุ้นกลุ่มพลังงานยังสามารถปรับขึ้นต่อไปได้อีก
สำหรับภาคอุตสาหกรรมถ้ามีการลงทุนเพิ่มเติม จะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถขยายตัวได้ แต่รัฐบาลชุดใหม่จะต้องกำหนดนโยบายให้ชัดเจน
"การที่ประเทศไทยเน้นการส่งออกเพียงด้านเดียว ไม่สนใจด้านอื่น และการที่สามารถส่งออกได้น้อยลงจะทำให้ความน่าสนใจน้อยลงในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ เพราะการที่นักลงทุนต่างชาติจะเข้าไปลงทุนในประเทศอื่นนั้น มักจะมองจากการเติบโตจากปัจจัยภายในมากกว่าปัจจัยภายนอกเป็นหลัก ทำให้หลังจากนี้รัฐบาลควรเร่งพัฒนาเศรษฐกิจขาอื่นด้วย"
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ (บลจ.) ธนชาต กล่าวเพิ่มเติมว่า หุ้นขนาดใหญ่ยังสามารถไปได้ดี แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแรง และความได้เปรียบจากการส่งออกลดลง ทำให้เศรษฐกิจไทยยากที่จะเติบโตได้ เพราะประเทศไทยไปพึ่งพาการส่งออกมากจนเกินไป
"ประเทศไทยจะมีเงินไหลเข้ามา เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์ในประเทศแถบเอเชียยังมีราคาค่อนข้างถูก แต่มีจุดอ่อนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง"
ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ยังไม่อนุญาตให้ บลจ.ตั้งกองทุนเพื่อลงทุนในหุ้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนั้น น่าจะเกิดความวิตกเรื่องความเสี่ยงของนักลงทุน ดังนั้นจึงจะพิจารณาจากความเหมาะสมในการลงทุนแต่ละประเภท
ด้าน Mr.Gerard Clancy, Director , Black Rock , Hong Kong กล่าวว่า การลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือกใหม่ เป็นโอกาสที่น่าสนใจในการลงทุน คือ ราคาพลังงานแบบดั้งเดิม เช่น ราคาน้ำมันสูงขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่ต้นทุนการผลิตพลังงานทางเลือกใหม่ลดลง โดยคาดว่าสถานการณ์น้ำมันในปีหน้าจะยิ่งตึงตัวยิ่งกว่าปี 2550 และคาดว่าราคาน้ำมันจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป
อย่างไรก็ตาม กลุ่มธุรกิจพลังงานทางเลือกจะได้ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการที่ทุกประเทศทั่วโลกออกมาสนับสนุนให้มีการแก้ไขปัญหาสภาวะโลกร้อนและ ลดการใช้พลังงาน อาจจะทำให้กลุ่มพลังงานทางเลือกได้รับประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว หากทั่วโลกให้การสนับสนุนมาตรการนี้อย่างจริงจัง