บลจ.ธนชาตควักตังค์ประกาศจ่ายปันผล 2 กองพร้อมกัน กองพิบูลย์ทรัพย์ปันผล คืนกำไรหน่วยลงทุนละ 0.65 บาท ส่วน ไพบูลย์ทรัพย์ปันผล จ่ายปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.75 บาท ผู้ถือหน่วยเตรียมเฮรับพร้อมกัน 18 ตุลาคมนี้
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล (PISD) และกองทุนเปิดไพบูลย์ทรัพย์ปันผล (PASD) ได้มีมติในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาจ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่ 28/2550 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี สิ้นสุดวันที่ 27 กันยายน 2550 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2550
ทั้งนี้กองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.65 บาท และกองทุนเปิดเปิดไพบูลย์ทรัพย์ปันผลจะจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.75 บาท ซึ่งทั้ง 2 กองทุนบริษัทจะจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 18 ตุลาคม 2550
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2550 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 6.58% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 3.70% ส่วนย้อนหลัง 6 เดือนให้ผลตอบแทน 28.31% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 24.65% และย้อนหลัง 1 ปี 30.95% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 24.27% ส่วนการจ่ายเงินปันผลนั้น ทางบริษัทได้เคยจ่ายเงินปันผลไปแล้วในวันที่ 21 ตุลาคม 2548 จำนวน 0.50 บาท ต่อหน่วย
ทั้งนี้สัดส่วนในการลงทุนของกองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2550 มีการจัดสรรการลงทุนในหลักทรัพย์ของกลุ่มพลังงาน ในสัดส่วน 31.79% , ธนาคาร สัดส่วน 20.81% , พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 8.85% , เคมีภัณฑ์และพลาสติก สัดส่วน 7.23% , สื่อสาร สัดส่วน 6.32% นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในพันธบัตรวิสาหกิจ สัดส่วน 1.47%
โดยหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 4.90% 2. ธนาคารกรุงเทพ คิดเป็น 7.98% 3.บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 7.30% 4. ธนาคารกสิกรไทย คิดเป็น 6.10% และ
5.บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 5.56%
ส่วนผลการดำเนินงานดำเนินงานของกองทุนเปิดไพบูลย์ทรัพย์ปันผล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2550 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.94% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.73% ส่วนย้อนหลัง 6 เดือนให้ผลตอบแทน 18.83% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 11.47% และย้อนหลัง 1 ปี 24.45% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 14.54% ส่วนการจ่ายเงินปันผลนั้น ทางบริษัทได้เคยจ่ายเงินปันผลไปแล้วในวันที่ 21 ตุลาคม 2548 จำนวน 0.25 บาท ต่อหน่วย
โดยสัดส่วนในการลงทุน ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2550 มีการจัดสรรการลงทุนในหลักทรัพย์ประกอบด้วย กลุ่มพลังงาน สัดส่วน 27.97% , ธนาคาร สัดส่วน 15.49% วัสดุก่อสร้างและตกแต่ง สัดส่วน 3.99% , พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 3.75% สื่อสาร สัดส่วน 2.85% และอื่นๆ สัดส่วน 8.41% นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชน สัดส่วน 11.26% และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ สัดส่วน 7.74% และหุ้นกู้สถาบันการเงิน 5.15%
ขณะเดียวกันหลักทรัพย์ที่กองทุนเปิดไพบูลย์ทรัพย์ปันผลลงทุน 5 อันดับแรก ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2550 ประกอบด้วย 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 12.82% 2. ธนาคารกสิกรไทย คิดเป็น 5.17% 3. ธนาคารกรุงเทพ คิดเป็น 4.97% 4. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 4.41% และ 5. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 3.99%
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล (PISD) และกองทุนเปิดไพบูลย์ทรัพย์ปันผล (PASD) ได้มีมติในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาจ่ายผลตอบแทนกองทุนรวม ครั้งที่ 28/2550 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี สิ้นสุดวันที่ 27 กันยายน 2550 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อปรากฎอยู่ในสมุดทะเบียน ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2550
ทั้งนี้กองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.65 บาท และกองทุนเปิดเปิดไพบูลย์ทรัพย์ปันผลจะจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.75 บาท ซึ่งทั้ง 2 กองทุนบริษัทจะจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 18 ตุลาคม 2550
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2550 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 6.58% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 3.70% ส่วนย้อนหลัง 6 เดือนให้ผลตอบแทน 28.31% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 24.65% และย้อนหลัง 1 ปี 30.95% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 24.27% ส่วนการจ่ายเงินปันผลนั้น ทางบริษัทได้เคยจ่ายเงินปันผลไปแล้วในวันที่ 21 ตุลาคม 2548 จำนวน 0.50 บาท ต่อหน่วย
ทั้งนี้สัดส่วนในการลงทุนของกองทุนเปิดพิบูลย์ทรัพย์ปันผล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2550 มีการจัดสรรการลงทุนในหลักทรัพย์ของกลุ่มพลังงาน ในสัดส่วน 31.79% , ธนาคาร สัดส่วน 20.81% , พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 8.85% , เคมีภัณฑ์และพลาสติก สัดส่วน 7.23% , สื่อสาร สัดส่วน 6.32% นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในพันธบัตรวิสาหกิจ สัดส่วน 1.47%
โดยหลักทรัพย์ที่กองทุนลงทุน 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 4.90% 2. ธนาคารกรุงเทพ คิดเป็น 7.98% 3.บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 7.30% 4. ธนาคารกสิกรไทย คิดเป็น 6.10% และ
5.บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 5.56%
ส่วนผลการดำเนินงานดำเนินงานของกองทุนเปิดไพบูลย์ทรัพย์ปันผล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2550 ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือน 3.94% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 1.73% ส่วนย้อนหลัง 6 เดือนให้ผลตอบแทน 18.83% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 11.47% และย้อนหลัง 1 ปี 24.45% เมื่อเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานที่ 14.54% ส่วนการจ่ายเงินปันผลนั้น ทางบริษัทได้เคยจ่ายเงินปันผลไปแล้วในวันที่ 21 ตุลาคม 2548 จำนวน 0.25 บาท ต่อหน่วย
โดยสัดส่วนในการลงทุน ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2550 มีการจัดสรรการลงทุนในหลักทรัพย์ประกอบด้วย กลุ่มพลังงาน สัดส่วน 27.97% , ธนาคาร สัดส่วน 15.49% วัสดุก่อสร้างและตกแต่ง สัดส่วน 3.99% , พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 3.75% สื่อสาร สัดส่วน 2.85% และอื่นๆ สัดส่วน 8.41% นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชน สัดส่วน 11.26% และพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ สัดส่วน 7.74% และหุ้นกู้สถาบันการเงิน 5.15%
ขณะเดียวกันหลักทรัพย์ที่กองทุนเปิดไพบูลย์ทรัพย์ปันผลลงทุน 5 อันดับแรก ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2550 ประกอบด้วย 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 12.82% 2. ธนาคารกสิกรไทย คิดเป็น 5.17% 3. ธนาคารกรุงเทพ คิดเป็น 4.97% 4. บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 4.41% และ 5. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) คิดเป็น 3.99%