Mitsubishi Motors เผยโฉม Mitsubishi Destinator อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมประกาศชัดเจนว่าจะวางจำหน่ายในตลาดสำคัญทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงภูมิภาคเอเชียใต้ ละตินอเมริกา และตะวันออกกลาง โดยอินโดนีเซียจะเป็นประเทศแรกที่ได้สัมผัสรถรุ่นใหม่นี้ ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายทันทีภายในเดือนกรกฎาคม ก่อนทยอยเปิดตัวในประเทศอื่นๆ ต่อไป
Destinator ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มลูกค้า SUV และ MPV โดยมิตซูบิชิวางตำแหน่งให้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Honda CR-V, Mazda CX-5 และรถ MPV ขวัญใจตลาดอย่าง Toyota Innova Zenix
Destinator มาพร้อมรูปลักษณ์แข็งแกร่งตามแบบฉบับ SUV และให้พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง ด้วยมิติตัวถัง: ยาว 4,680 มม. ,กว้าง 1,840 มม. ,สูง 1,780 มม. ,ฐานล้อ 2,815 มม. ระยะความสูงจากพื้นถึงตัวรถ 214 มม. (มากที่สุดในกลุ่ม)
ขุมพลังและระบบขับเคลื่อน Destinator ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบรหัส 4B40: ความจุ 1.5 ลิตร (Turbo Direct Injection) กำลังสูงสุด 161 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร เกียร์ CVT ความจุถังน้ำมัน 45 ลิตร
นอกจากนี้ ยังติดตั้งโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ ได้แก่ Normal, Tarmac, Wet, Gravel และ Mud พร้อมระบบ Active Yaw Control เพิ่มความมั่นใจในการควบคุม
ภายในห้องโดยสารและเทคโนโลยี ห้องโดยสารจัดวางแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง มาพร้อมจุดเด่นดังนี้ หน้าจอคู่: มาตรวัดขนาด 8 นิ้ว และจออินโฟเทนเมนต์กลางขนาด 12.3 นิ้ว ,ระบบเสียง Yamaha Premium (เฉพาะรุ่นสูง) ,ไฟ Ambient Light และหลังคาซันรูฟพาโนรามา ,คอนโซลกลางดีไซน์เน้นใช้งานง่ายแบบเดียวกับ Triton และ XForce
ความปลอดภัย มาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง ติดตั้งมาให้แบบจัดเต็ม: ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ,ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ,ระบบเตือนจุดบอด (BSM) ,ระบบเตือนรถตัดผ่านขณะถอยหลัง (RCTA) ,ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ,ฟีเจอร์ Emergency Call (เฉพาะบางประเทศ)
การจัดจำหน่าย Mitsubishi ยืนยันแล้วว่า Destinator จะวางจำหน่ายทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเริ่มที่อินโดนีเซียในเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งจะเป็นฐานการผลิตหลักของรุ่นดังกล่าว ก่อนขยายสู่ตลาดสำคัญอื่นๆ อย่างฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม รวมถึงประเทศไทยในอนาคตอันใกล้
Destinator นับเป็นการกลับมาสู่ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์แบบ 3 แถวของ Mitsubishi อย่างจริงจัง และดูเหมือนคู่แข่งหลายค่ายอาจต้อง “มีหนาว” อย่างแน่นอน
