บุรีรัมย์- ร้านค้า สถานประกอบการ ปั๊มน้ำมันพื้นที่ชายแดน อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กลับมาเปิดค้าขาย และให้บริการปกติเกือบ 100 % หลังครบกำหนดลงนามหยุดยิง 72 ชม. ไร้เสียงปืน ร้านอาหารทะเลลงทุนนับแสนสั่งของไว้ขายปีใหม่ หลังช่วงสู้รบขาดรายได้หลายหมื่น บางคนแอบกังวลเขมรไม่รักษาคำพูด จึงเตรียมพร้อมอพยพตลอดเวลาหลังผ่านเหตุปะทะมาแล้ว 2 รอบ
วันนี้ (31 ธ.ค.68) บรรยากาศในตัวอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอำเภอที่ทางการมีคำสั่งให้ทั้งสถานที่ราชการ ร้านค้า ประชาชน อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ และให้งดเดินทางเข้าพื้นที่ ในช่วงที่มีการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนบรรยากาศในอำเภอบ้านกรวดกลายเป็นเมืองร้าง แต่หลังจากที่มีการลงนามหยุดยิง 72 ชั่วโมง และเมื่อวานนี้ครบกำหนดตามข้อตกลง ก็ไม่มีเสียงปืนจากการยิงปะทะกันแต่อย่างใด
ทำให้ร้านค้า สถานการณ์ประกอบการ สถานีบริการน้ำมัน ที่ปิดบริการไปก่อนหน้านี้ กลับมาเปิดให้บริการ และค้าขายเป็นปกติอีกครั้ง มีประชาชนที่กลับเข้ามาใช้ชีวิตในพื้นที่ต่างออกมาจับจ่ายซื้อของไปบริโภคในชีวิตประจำวัน รวมถึงซื้อไปไว้ประกอบอาหารเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่สถานีบริการน้ำมันก็มีประชาชนนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์มาเข้าคิวรอเติมน้ำมันตลอดทั้งวันเช่นกัน
นายสมศักดิ์ ยืนยิ่ง พ่อค้าร้านอาหารทะเลใน อ.บ้านกรวด บอกว่า ช่วงที่มีการสู้รบกันต้องปิดร้านเพื่ออพยพออกจากพื้นที่ ทำให้อาหารทะเลที่สั่งมาไว้ขายต้องแจกให้เจ้าหน้าที่ บางส่วนก็เสียหาย ทำให้ขาดทุนไป 5 – 6 หมื่นบาท แต่หลังจากที่มีการเจรจาหยุดยิงก็กลับมาขายเหมือนเดิม และเมื่อครบกำหนด 72 ชั่วโมงตามข้อตกลงก็ไม่มีเสียงปืนจากการยิงปะทะ จึงตัดสินใจลงทุนสั่งอาหารทะเลกว่า 1 แสนบาท เพื่อมาไว้ขายช่วงปีใหม่ ก็หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ปะทะเกิดขึ้นอีก แต่ในใจก็ยังแอบกังวลว่าจะเขมรจะไม่รักษาคำพูด ก็กลัวจะมีการปะทะรอบสามอีก
ด้าน น.ส.สุภาพร นาคประโคน ผู้ช่วยผู้จัดการสถานีบริการน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.บ้านกรวด บอกว่า ช่วงที่มีการสู้รบต้องปิดให้บริการไปกว่า 1 สัปดาห์ ก็ได้รับผลกระทบ หลังจากเสียงปืนเบาบางลงก็เริ่มกลับมาเปิดแต่ก็ปิดเร็วกว่าช่วงปกติ กระทั่งมีการลงนามตกลงหยุดยิงก็เพิ่งเปิดให้บริการตามปกติ ส่วนที่ครบกำหนด 72 ชั่วโมง ก็ไม่มีการยิงปะทะกันก็ดีใจเพราะทั้งผู้ประกอบการ และประชาชนจะได้ใช้ชีวิตเป็นปกติ
แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวก็ยังกังวลว่ากัมพูชาจะไม่รักษาคำพูด อาจจะแอบตลบหลังไทยอีก จึงต้องมีการเตรียมพร้อมอพยพไว้ตลอดเวลา เพราะผ่านประสบการณ์มาแล้ว 2 ครั้ง แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก เพราะส่งผลกระทบกับหลายๆ ด้าน


