สระแก้ว- เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 2 เร่งเคลียร์พื้นที่เสี่ยงบริเวณชายแดนสระแก้ว เดินหน้าเก็บกู้วัตถุระเบิดที่อาจหลงเหลือจากเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ก่อนคืนพื้นที่ให้ประชาชนได้กลับภูมิลำเนาในวันที่ 31 ธ.ค.นี้
วันนี้( 29 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 2 ได้ลงพื้นที่บ้านคลองแผง อ.อรัญประเทศ ,บ้านตาพระยา อ.ตาพระยา และบ้านหนองหญ้าแก้ว -บ้านหนองจานะอ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อแสกนทุกพื้นที่เสี่ยงและดำเนินการเก็บกู้วัตถุระเบิดที่อาจหลงเหลือจากเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.- 12.00 น.วันที่ 27 ธ.ค.2568 ที่มีการลงนามหยุดยิง หวังสร้างความปลอดภัยสูงสุดให้ประชาชนชายแดน ก่อนคืนพื้นที่ให้กลับภูมิลำเนาในวันที่ 31 ธ.ค.นี้
การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปตามคำสั่งการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่มอบหมายให้ พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ระดมหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (EOD) ตำรวจภูธรภาค 2 ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อสแกนพื้นที่เสี่ยงและเก็บกู้วัตถุระเบิดที่อาจหลงเหลือ ก่อนเปิดทางให้ประชาชนทยอยกลับภูมิลำเนา
สำหรับกำลังพล EOD ในครั้งนี้ระดมมาจากตำรวจภูธรภาค 2 และนอกพื้นที่ รวม 8 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี ตราด ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก รวมถึงตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เข้าปฏิบัติภารกิจตรวจค้นและเก็บกู้วัตถุระเบิด อาทิ กระสุนปืน ค.40 ค.60 ค.82 อาวุธ RPG และจรวด BM-21 ที่ยังไม่ทำงาน เพื่อป้องกันอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
โดยมีพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการปฏิบัติการ ได้แก่ บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง และบ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว รวมถึงหมู่บ้านใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนก่อนเดินทางกลับเข้าพื้นที่
การปฏิบัติการรองรับแผนการทยอยให้ผู้พักพิงจากศูนย์อพยพและศูนย์พักพิงต่าง ๆ เดินทางกลับภูมิลำเนาได้ภายในวันที่ 31 ธ.ค.2568 ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอชายแดน พร้อมตอกย้ำบทบาทของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชนอย่างเต็มกำลัง


