ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ส.ส.แจ้” ปราจีนฯ สยบข่าวลือพรรคแตก ย้ำเลือดปราจีน อยู่กับพรรคชาติพัฒนาจนวินาทีสุดท้าย ลือหึ่ง “สุวัจน์” ยกก๊วนซบ เพื่อไทย เผย “สุวัจน์” นัดประชุมกก.บริหารพรรคและอดีต ส.ส.พรุ่งนี้ (18 ธ.ค.)เพื่อตัดสินอนาคตของพรรคว่าจะเดินหน้าลงสู่สนามเลือกตั้งต่อไปหรือยุบรวมกับพรรคอื่น
วันนี้ ( 17 ธ.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีกระแสการเมืองร้อนแรงในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อก่อนเข้าสู่การรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 27-31 ธันวาคม 2568 นี้ โดยล่าสุดมีกระแสข่าวว่าพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) แพแตก โดยก่อนหน้านั้น นายประสาท ตันประเสริฐ ส.ส.นครสวรรค์ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคขาติพัฒนาย้ายไปซบ พรรคภูมิใจไทย แล้ว วันนี้ 17 ธ.ค.68 ส.ส.แจ้ หรือ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปราจีนบุรี เขต 2 พรรคขาติพัฒนา ที่มีกระแสข่าวว่าจะย้ายไปอยู่พรรคกล้าธรรม ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ออกมาแสดงจุดยืนชัด สยบข่าวลือการย้ายขั้วทางการเมือง ยืนยันยังคงยืนหยัดเคียงข้าง พรรคชาติพัฒนา จนถึงวินาทีสุดท้าย ท่ามกลางกระแสอดีต ส.ส.หลายคนหลายพรรคการเมืองถูกทาบทามเข้าสังกัดพรรคใหญ่โดยมีการยื่นตัวเลขสูงถึงรายละ 50-70 ล้านบาท
นายวุฒิพงศ์ เปิดใจว่า ตนเป็น “คนเลือดปราจีนบุรี” พรรคอยู่ที่ใด ตนก็อยู่ที่นั่น พรรคไปทางไหน ตนก็ไปด้วย พร้อมตอกย้ำว่า ไม่มีวันทิ้งพรรคในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด
ส.ส.ปราจีนบุรี เขต 2 ระบุว่า เส้นทางการเมืองของตนผ่านประสบการณ์มาหลายพรรค จากพรรคใหญ่สู่พรรคขนาดเล็กอย่างพรรคชาติพัฒนา ในวันที่ตนเองกำลังเผชิญวิกฤติหนัก เปรียบเสมือน “กำลังจะจมน้ำ” แต่พรรคชาติพัฒนาได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ให้โอกาส ประคับประคองจนสามารถยืนหยัดในสนามการเมืองได้จนถึงวันนี้ ซึ่งถือเป็นบุญคุณที่ไม่อาจลืม
“วันนี้ผมทำได้เพียงทุ่มสุดกำลัง เพื่อกอบกู้และพาเรือลำนี้เดินหน้าให้ดีที่สุด ส่วนปลายทางจะเป็นอย่างไร คงต้องรอคำตอบจากการประชุมผู้บริหารพรรคชาติพัฒนาในวันพรุ่งนี้ 18 ธันวาคม 2568 ถ้าผลออกมาอย่างไรตนก็น้อมรับ นายวุฒิพงศ์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่าในวันพรุ่งนี้ 18 ธันวาคม 2568 เวลา 12.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนาได้นัดประชุมกรรมการบริหารพรรคและอดีต ส.ส.ของพรรคที่บ้านพักกรุงเทพมหานคร เพื่อตัดสินอนาคตของพรรคว่าจะเดินหน้าลงสู่สนามเลือกตั้งต่อไปหรือยุบรวมกับพรรคการเมืองอื่นหรือยังคงพรรคชาติพัฒนาเอาไว้แล้วให้ผู้บริหารและอดีต ส.ส.ของพรรคลาออกไปร่วมกับพรรคการเมืองที่ใหญ่กว่า เพราะหลายคนในพรรคเห็นตรงกันว่าการสังกัดพรรคการเมืองเล็กจะผลักดันนโยบายของพรรคไปสู่การปฏิบัติเป็นเรื่องที่ลำบากและโอกาสที่จะสอบตกมีค่อนข้างสูง
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ น่าจะเลือกวิธีการคงพรรคชาติพัฒนาเอาไว้ แต่ให้กรรมการบริหารพรรคและอดีต ส.ส.ของพรรคทั้ง ส.ส.เขตและส.ส.บัญชีรายชื่อย้ายไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ก็พรรคภูมิใจไทย รายงานข่าวระบุอีกว่าโอกาสที่จะไปอยู่พรรคเพื่อไทยมีสูงกว่าพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากนายสุวัจน์ มีความพันธ์ใกล้ชิดกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมากกว่า ถึงแม้ขณะนี้นายทักษิณ จะยังอยู่ในเรือนจำก็ตามและยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้นายสุวัจน์ และแกนนำพรรคชาติพัฒนาต้องตัดสินใจเลือกย้ายไปซบพรรคเพื่อไทยตามคำเชิญของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมาบ้านใหญ่โคราชเจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮงได้ชิงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 นครราชสีมา ในนามพรรคเพื่อไทยไปก่อนแล้วคือ นายจิรพิสิษฐ์ รุจน์เจริญ หลานชายนางยลดา ซึ่งพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 ของ จ.นครราชสีมาทับซ้อนเขตเดียวกับ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ที่ตกลงกับพรรคเพื่อไทยเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้สร้างความไม่พอใจให้กับนายสุวัจน์ เพราะถือเป็นการหักหน้าและไม่ให้เกียรติกัน
สำหรับผู้บริหารพรรคและอดีต ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนาที่จะย้ายไปพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย จ.นครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1, นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ,นายสมบัติ กาญจนวัฒนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 และ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา อดีต ส.ส.ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.ปราจีนบุรี และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนา นายอรัญ พันธุมจินดา



