นครปฐม – กรมทรัพย์สินทางปัญญาตรวจเยี่ยมแหล่งผลิต “ฝรั่งสามพราน” GI หนึ่งเดียวของไทย ผลผลิตเฉลี่ยปีละกว่า 11,000 กก. สร้างรายได้ชุมชนทะลุ 350 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าต่อยอดสู่ตลาดพรีเมียมในประเทศ–ต่างประเทศ
วันนี้( 12 ธ.ค.) นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นำคณะผู้บริหารและสื่อมวลชน ลงพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนบ้านหัวอ่าว ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม ตรวจเยี่ยมกระบวนการผลิตสินค้า GI “ฝรั่งสามพราน” พร้อมหารือหน่วยงานท้องถิ่น เกษตรกร และผู้ประกอบการถึงแนวทางยกระดับผลผลิต GI ในปี 2569 โดยมีนายสมาวิษฏ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และคณะให้การต้อนรับ
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ระบุว่า สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นสินค้าที่มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่และภูมิปัญญาท้องถิ่น ทำให้มีอัตลักษณ์เฉพาะและสร้างมูลค่าเพิ่มได้สูง รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการพัฒนา GI ตามนโยบาย Quick Big Win ของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อสร้างแต้มต่อทางการแข่งขันและผลักดันสินค้าไทยสู่ตลาดโลก
คณะได้ลงพื้นที่สวนปานเจริญ โดยมีนางประหยัด ปานเจริญ ประธานศูนย์ฯ นำชมการผลิตและพิสูจน์คุณภาพ “ฝรั่งสามพราน” ซึ่งขึ้นทะเบียน GI เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2568 มีทั้งหมด 7 สายพันธุ์ ได้แก่ กิมจู, สุ่ยมี่, แป้นสีทอง, สาลี่ทองไร้เมล็ด, หงเป่าสือ, เฟิ่นหงมี่ และพันธุ์แตงโม
ฝรั่งสามพรานปลูกเฉพาะใน อ.สามพราน และ อ.นครชัยศรี พื้นที่ลุ่มแม่น้ำนครชัยศรีที่อุดมด้วยตะกอน–แร่ธาตุ น้ำมีความเค็มพอเหมาะ ระบบชลประทานสมบูรณ์ ส่งผลให้เนื้อกรอบล่อน สีขาวหรือชมพูตามสายพันธุ์ หวานหรือหวานอมเปรี้ยว ไม่ฝาด ได้คุณภาพสูงสุดในฤดูหนาว
ผลผลิตรวมกว่า 11,631 กก./ปี ส่งขายตลาดใหญ่ทั้งตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดเมืองทอง ร้านค้าเครือข่าย Lemon Farm รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำรายได้ชุมชนกว่า 350 ล้านบาทต่อปี
กรมทรัพย์สินทางปัญญายังคงส่งเสริมระบบควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด โดยเดือนตุลาคม 2568 ได้อนุญาตให้ 36 ผู้ประกอบการ ใช้ตรา GI ไทยอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้ราคาฝรั่งสามพรานเพิ่มขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 50–70 บาท จากเดิมเฉลี่ย 30 บาทต่อกิโลกรัม เพิ่มขึ้นกว่า 1.7–2.3 เท่า
ผู้ประกอบการในพื้นที่ยังต่อยอดแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เช่น น้ำฝรั่งสกัดเย็น ฝรั่งแผ่นอบกรอบ ชาใบฝรั่ง พร้อมพัฒนาสวนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เพิ่มรายได้ให้ชุมชน นครปฐมมีสินค้า GI รวม 4 รายการ มูลค่ากว่า 1,040 ล้านบาทต่อปี นอกจากฝรั่งสามพรานแล้ว จังหวัดนครปฐมยังมีสินค้า GI อีก 3 รายการ ได้แก่ ส้มโอนครชัยศรี มะพร้าวน้ำหอมสามพราน เนื้อโคขุนกำแพงแสนสร้างรายได้รวมกว่า 1,040 ล้านบาทต่อปี ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม
อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ระบุถึงแนวทางสำคัญปี 2569 ได้แก่ พัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ทั้งด้านการผลิต การควบคุมคุณภาพ การใช้ตรา GI การตลาด ออนไลน์ และการสร้างแบรนด์ ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ GI ไทย ผ่านสื่อหลากหลายช่องทาง ขยายตลาดใน–ต่างประเทศ ร่วมกับห้างค้าปลีก แพลตฟอร์มออนไลน์ และตลาดพรีเมียม บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในประเทศและนานาชาติ เพื่อผลักดัน GI ไทยสู่ตลาดสากลอย่างยั่งยืน
กรมทรัพย์สินทางปัญญามั่นใจว่าการยกระดับสินค้า GI จะช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร เสริมเศรษฐกิจฐานราก และสร้างความแข็งแรงให้ชุมชนในยุคการแข่งขันสูงอย่างต่อเนื่อง.


