นครสวรรค์ - พ่อเฒ่าชาวลาดยาวหวิดดับสังเวย..หลานวัยโจ๋พัวพันเด็กอายุ 14 แฟนสาวหนุ่มฉกรรจ์ เรื่องแดง-โดนแบล็กเมล์รีดเงินหลักร้อยหลายครั้ง ก่อนขยับเรียกค่าเสียหาย 80,000 บาทแลกไม่แจ้งความคดีพรากผู้เยาว์ พอไม่ได้ กลับหิ้วระเบิดผูกรั้วหน้าบ้าน ตาวัย 70 เปิดประตูตอนเช้าบึ้มสนั่นทันที
วันนี้ (24 พ.ย. 68) พ.ต.ท.นิภัทร์ มีมุสิมธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ลาดยาว รับแจ้งจากนางธัญพร บางสนิท อายุ 45 ปี ว่ามีมือมืดลอบนำระเบิดมาผูกไว้บริเวณประตูรั้วด้านหน้าบ้านเลขที่ 22/10 หมู่ 29 ต.บ้านไร่ อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ และเกิดระเบิดขึ้นแล้ว แต่โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบทันที
จุดเกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น มีรั้วรอบพื้นที่บริเวณหน้าประตูรั้วพบร่องรอยการผูกด้วยด้ายเส้นเอ็นยาว พร้อมเศษเหล็ก ตะปู และนอตกระจายเต็มพื้นหน้าบ้าน
จากการสอบถามนายสมชาย สนเม้า อายุ 70 ปี บิดาของนางธัญพร ให้ข้อมูลว่าออกมาเปิดประตูรั้วตามปกติช่วงเช้าตรู่ จู่ๆ ได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด พร้อมแรงสะเก็ดกระแทกประตูรั้วและพื้นถนน ทำให้ตกใจมาก โชคดีขณะเปิดประตูได้ดึงเข้าด้านใน จึงช่วยให้ไม่ถูกสะเก็ดระเบิด อีกทั้งประตูรั้วมีลวดตะแกรงถี่ติดอยู่ ทำให้ช่วยป้องกันอันตรายไว้ได้ หากยืนอยู่ด้านนอกคาดว่าจะได้รับบาดเจ็บหนักจากแรงระเบิดที่พุ่งเข้าหาประตูโดยตรง
ส่วนนางธัญพรเล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงบึ้มดังสนั่นจึงรีบออกมาดู พบควันสีขาวฟุ้งเต็มหน้าบ้าน และพบพ่ออยู่ในอาการตกใจ จึงถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานก่อนแจ้งตำรวจ โดยยืนยันว่าที่บ้านส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุอาศัยอยู่ และไม่เคยมีปัญหากับใคร จึงไม่ทราบว่าใครนำระเบิดมาลอบวาง
เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดทำเอง จุดประสงค์เชื่อว่าเพื่อทำร้ายคนในบ้าน และได้นำตัวบุตรชายของนางธัญพร อายุ 15 ปี มาสอบปากคำ หลังมีข้อมูลว่ามีปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นอีกหมู่บ้านหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องชู้สาวและข่มขู่แบล็กเมล์ ซึ่งอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความโกรธแค้นและนำไปสู่การลอบวางระเบิดดังกล่าว
ล่าสุด พ.ต.ท.นิภัทร์ รอง ผกก.สส. สภ.ลาดยาว พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายแบงค์ วัย 16 ปี หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ หลังตรวจสอบพบว่า นายแจ๊ก อายุ 15 ปี บุตรชายของนางธัญพร มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับแฟนสาววัย 14 ปีของนายเก่ง อายุ 23 ปี ชาวตำบลห้วยน้ำหอม กระทั่งถูกฝ่ายชายจับได้และมีการข่มขู่เรียกเงินครั้งละ 200-300 บาท หลายครั้ง ต่อมาเพิ่มระดับเป็นการติดต่อไปยังมารดาของนายแจ๊ก อ้างเป็นญาติฝ่ายหญิง พร้อมเรียกค่าเสียหาย 80,000 บาทเพื่อแลกกับการไม่แจ้งความคดีพรากผู้เยาว์ เมื่อไม่ได้ตามที่ต้องการจึงมีการวางระเบิดหน้าบ้าน โดยมีนายแบงค์ร่วมอยู่ในเหตุการณ์
นายแบงค์ให้การเบื้องต้นว่าตนไปกับนายเก่งจริง แต่ไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการนำระเบิดไปผูกที่ประตูบ้านของนายแจ๊ก และถูกบังคับให้ไปเป็นเพื่อนเท่านั้น ส่วนหลังเกิดเหตุนายเก่งได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ทันที
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจรายงานว่าสามารถควบคุมตัวนายเก่งได้แล้วในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


