กาญจนบุรี - เพจ “Thai Burma Railway” แฉเอกสาร-ภาพหลักฐานชัด หัวรถจักรไอน้ำ C5623 ที่ตั้งผุพังย่านสะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นทรัพย์สินที่อดีตทหารผ่านศึกญี่ปุ่นรวบรวมเงินซื้อจาก รฟท. แล้วมอบให้จังหวัดกาญจนบุรีตั้งแต่ปี 2520 ซัดหน่วยงานท้องถิ่นโยนความรับผิดชอบกันวุ่น ทั้งที่ รฟท. ตัดบัญชีทรัพย์สินไปนานแล้ว วอนเร่งซ่อมก่อนกลายเป็นอนุสรณ์แห่งความล้มเหลวของการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์
วันนี้ (22 พ.ย. ) เพจประวัติศาสตร์ “Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ” โพสต์ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีหัวรถจักรไอน้ำ C5623 ซึ่งตั้งแสดงสภาพผุพังอยู่บริเวณสวนสาธารณะใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี โดยระบุว่า หัวรถจักรคันดังกล่าวมิใช่กรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) อีกต่อไป แต่เป็นทรัพย์สินที่มอบให้จังหวัดกาญจนบุรีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520
เพจระบุว่า ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ อบจ. บางรายให้ข้อมูลว่าหัวรถจักรดังกล่าวเป็นของ รฟท. ทำให้ อบจ. ไม่มีสิทธิ์เข้าไปดำเนินการซ่อมแซมได้ ซึ่งเพจยืนยันว่าข้อมูลนี้ “ผิด” เพราะมีหลักฐานทั้งเอกสารเก่าและภาพถ่ายพิธีส่งมอบยืนยันชัดเจนว่า สมาคมผู้อนุรักษ์หัวรถจักรไอน้ำ C56 ของทหารผ่านศึกญี่ปุ่น ได้รวบรวมเงินซื้อหัวรถจักร C5623 จาก รฟท. แล้วบูรณะทำสีใหม่ ก่อนจะมอบให้เทศบาลเมืองกาญจนบุรีอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2520
ภายในพิธีส่งมอบมีนายกเทศมนตรีเมืองกาญจนบุรีพร้อมผู้แทน รฟท. และทูตญี่ปุ่นเข้าร่วมกว่า 80 คน หัวรถจักรถูกตกแต่งอย่างสวยงาม พร้อมป้าย “Best wishes for world peace and Thai–Japan friendship”
เพจยังเผยข้อมูลจากหนังสือ Distant Whistle และนิตยสาร The Railway Pictorial ปี 1977 ที่บันทึกขั้นตอนการซื้อ การบูรณะ และการส่งมอบ ซึ่งตรงกับข้อเท็จจริงที่ รฟท. เคยชี้แจงในที่ประชุมจังหวัดว่า C5623 ไม่มีเลขครุภัณฑ์ หมายความว่าถูกขายออกจากบัญชีทรัพย์สินไปแล้ว
เพจระบุว่า ปัจจุบันหัวรถจักร C5623 รวมถึงหัวรถจักรสมัยสงครามโลกอีก 1 คัน และรถบรรทุกทหารญี่ปุ่น Type 100 อยู่ในสภาพทรุดโทรมหนัก แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดรับเป็นเจ้าภาพซ่อมแซม ทั้งที่เป็นมรดกประวัติศาสตร์สำคัญด้านการท่องเที่ยวของกาญจนบุรี
“อย่าอ้างว่าที่ตั้งอยู่ในที่ดินการรถไฟเลยซ่อมไม่ได้ ถ้าหน่วยงานท้องถิ่นทำหนังสือขอ รฟท. ก็ไม่เคยปฏิเสธ แต่กลับโยนความรับผิดชอบกันเหมือนนักฟุตบอลทีมชาติ” เพจระบุ พร้อมขู่ว่าหากยังไร้ความคืบหน้า จะลงพื้นที่ไลฟ์สดประจานการละเลยของผู้รับผิดชอบ เพราะเรื่องนี้ “ไม่ใช่ของ รฟท. แต่คือสมบัติของชาวกาญจนบุรีทุกคน”
เพจย้ำว่าที่ผ่านมา รฟท. เคยขายหัวรถจักร C56 อื่น ๆ อีก เช่น C5631, C5644 รวมถึงคันที่ถูกใช้ถ่ายภาพยนตร์ของฉลอง ภักดีวิจิตร ซึ่งเป็นการขายแบบเปิดเผยตามขั้นตอน จึงไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย
ท้ายที่สุดเพจเรียกร้องให้จังหวัด อบจ. และเทศบาลเร่งตกลงกันว่าใครจะรับผิดชอบบูรณะ เพื่อไม่ให้หัวรถจักรสำคัญยุคสงครามโลกกลายเป็นเพียง “เศษเหล็กผุข้างแคว” ทั้งที่จังหวัดเองนำเรื่องรถไฟสายมรณะไปใช้ในการส่งเสริมท่องเที่ยวมาตลอด


