xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งพม่าเหิม! ลักลอบขุดดินร่อนทองกลางป่าต้นน้ำชั้น 1A เจ้าหน้าที่อุทยานทองผาภูมิดักซุ่ม 3 คืน จับได้ 1 รายพร้อมของกลาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กาญจนบุรี – แก๊งพม่าข้ามชายแดนลักลอบขุดดินร่อนหาแร่ทองคำกลางผืนป่าต้นน้ำลุ่มน้ำชั้น 1A บ้านปิล๊อกคี่ อ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่อุทยานทองผาภูมิสุดอึด เดินเท้ากว่า 16 กิโลเมตรซุ่มกลางป่านาน 3 คืน ก่อนตะครุบผู้ต้องหาได้ 1 ราย ส่วนที่เหลืออาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทางหลบหนีรอดไปได้

วันนี้ (9 พ.ย.) นายยุทธพงค์ ดำศรีสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ภายใต้นโยบายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เน้นย้ำให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้บุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เจ้าหน้าที่จึงได้เพิ่มความเข้มข้นในการลาดตระเวนพื้นที่ป่าต้นน้ำชั้น 1A ซึ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศของประเทศ

ที่ผ่านมาภายใต้การอำนวยการของนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ ร่วมกับ พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผู้บังคับกองร้อย ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตชด.135 และตำรวจ สภ.ปิล๊อก สามารถจับกุมผู้ลักลอบขุดร่อนทองคำได้แล้ว 43 ราย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าวจากประเทศเมียนมา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับสัญญาณเตือนจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ตรวจยึดกว่า 13 ไร่ บริเวณบ้านปิล๊อกคี่ หมู่ 4 ต.ปิล๊อก พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยประมาณ 15–20 คน เดินขึ้นลงเขาในเวลากลางคืน คาดเป็นขบวนการร่อนทองคำ จึงจัดกำลังนำโดยนายบัญชา กาญจนพันธ์ พนักงานพิทักษ์ป่า ออกลาดตระเวนซุ่มจับกุม

เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเดินทางกว่า 16 กิโลเมตร ทั้งทางเรือและเท้าผ่านหุบเขาสูงชัน ก่อนพบกลุ่มผู้ต้องหาในคืนวันที่ 7 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 22.30 น. แต่ขณะเข้าจับกุม กลุ่มคนร้ายไหวตัวทัน ใช้ความมืดและความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่กระจายกำลังตรวจค้นจนพบชายหนึ่งรายซ่อนตัวในหลุมขุดดิน

ทราบชื่อต่อมาคือ นายโซเอะเกตุ ชาวเมียนมา อายุ 34 ปี พร้อมของกลางกระสอบบรรจุดินแร่ทองคำหนัก 8 กิโลกรัม มีดดาบ เครื่องกระสุนปืน .22LR จำนวน 5 นัด โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และอุปกรณ์ร่อนทองอีกกว่า 10 รายการ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวส่ง สภ.ปิล๊อก ดำเนินคดีตามกฎหมาย 6 ข้อหา ทั้งบุกรุกพื้นที่ป่า ลุ่มน้ำชั้น 1A ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และครอบครองอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายยุทธพงค์กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่ที่ถูกบุกรุกกว่า 27 ไร่ เป็นป่าต้นน้ำลุ่มน้ำชั้น 1A ที่ห้ามเปลี่ยนแปลงพื้นที่โดยเด็ดขาด การขุดร่อนแร่ทองคำสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศอย่างร้ายแรง ทางอุทยานจะเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวน และดำเนินคดีผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด โดยไม่ละเว้น












กำลังโหลดความคิดเห็น