พระนครศรีอยุธยา – ทหารร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เร่งยกบังเกอร์ป้องกันน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา หน้า วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดเก่าแก่สำคัญของจังหวัด หลังระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง เหลือเพียง 30 เซนติเมตรถึงแนวเขื่อน หวั่นกระทบพื้นที่สำคัญทางศาสนา
วันนี้( 9 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกอบกับการที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนในอัตรา 2,750 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง กระทบพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งบ้านเรือนประชาชนและวัดวาอารามหลายแห่ง
ที่ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และมีชื่อเสียง โดยเฉพาะ หลวงพ่อโต หรือเจ้าพ่อซำปอกง ที่พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวจีนให้ความเคารพนับถือ ทางจังหวัดได้เร่งดำเนินการป้องกันน้ำเข้าพื้นที่วัดอย่างเร่งด่วน
นายเดชาธร เชาว์เลขา ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับมอบหมายจากนายประพันธ์ ตรีบุบผา รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำกำลังสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) จำนวน 100 นาย จาก 12 หน่วย พร้อมกำลังทหาร เข้าดำเนินการยกพนังกั้นน้ำและเสริมแนวบังเกอร์ตลอดแนวรั้ววัดพนัญเชิงวรวิหาร เพื่อป้องกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่สำคัญ
โดยได้จัดกำลังออกเป็น 2 ชุดปฏิบัติงาน คือ ชุดแรกเปิดแผ่นคอนกรีตแนวบังเกอร์เดิมออก ส่วนชุดที่สองซึ่งประกอบด้วยพระภิกษุและสามเณรของวัด ได้ช่วยกันติดตั้งแผงบังเกอร์น็อกดาวน์สูง 2.60 เมตร รวมระยะทางกว่า 700 เมตร เพื่อเสริมแนวป้องกันให้มั่นคง รองรับระดับน้ำที่ยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ จากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนพระราม 6 ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณท่าน้ำหน้าวัด ซึ่งเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำทั้งสองสาย เหลือระยะเพียง 30 เซนติเมตรถึงขอบแนวเขื่อน ทางจังหวัดและทางวัดจึงเร่งดำเนินการติดตั้งแนวป้องกันอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดแนวแม่น้ำบางส่วนเริ่มได้รับผลกระทบ น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบางจุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือแล้ว
อย่างไรก็ตาม วัดพนัญเชิงวรวิหารยังคงเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะหลวงพ่อโตภายในพระอุโบสถได้ตามปกติ โดยพื้นที่ลานจอดรถและถนนหน้าโบสถ์ยังไม่ถูกน้ำท่วม ส่วนบริเวณโป๊ะให้อาหารปลา ทางวัดได้ปิดพื้นที่เฉพาะจุดที่จำเป็น และขอให้ผู้มาสักการะใช้ความระมัดระวังในการเดินบริเวณท่าน้ำเพื่อความปลอดภัย


