xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มครูอุดรฯแต่งชุด “พันตำรวจเอก” เซอร์ไพรส์แฟนรับปริญญา เจอข้อหาหนัก “แต่งกายเลียนแบบเจ้าพนักงาน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายต้าย (นามสมมติ) ถูกดำเนินคดีข้อหา แต่งกายเลียนแบบเจ้าพนักงาน
อุดรธานี-ครูหนุ่ม หวังเซอร์ไพรส์แฟนสาว เดินเข้าร้านขายเครื่องแบบซื้อชุดตำรวจยศใหญ่ โอนจ่ายค่าชุดยังไม่เข้าบัญชีร้าน แต่รีบออกไปโผล่ใส่ชุดเต็มยศในงานรับปริญญาแฟนสาว จนร้านต้องแจ้งความเอาผิด ตำรวจสืบพบไม่ใช่ตำรวจจริง แจ้งข้อหา แต่งกายเลียนแบบเจ้าพนักงาน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ดูแลร้าน “บุญส่งข้าราชการ” ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเครื่องแบบข้าราชการทุกหน่วยงานในเขตเทศบาลนครอุดรธานี มีชายคนหนึ่งเข้ามาสั่งซื้อเครื่องแบบตำรวจ ยศพันตำรวจเอก พร้อมสแกนชำระเงิน แต่เงินไม่เข้า หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้น และแนะนำให้ผู้ดูแลร้านไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ตรวจสอบว่าชายคนดังกล่าวเป็นตำรวจจริงหรือไม่ หากเป็นจริงก็ให้ช่วยประสานมาชำระค่าชุดเครื่องแบบ จำนวนเงิน 12,000 บาท

ภายหลังการแจ้งความ ผู้ดูแลร้านได้พยายามติดต่อชายคนดังกล่าว แจ้งว่าเงินไม่เข้าและขอให้รีบนำมาชำระ หากยังไม่จ่ายจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อมาในช่วงค่ำวันเดียวกัน ชายคนดังกล่าวได้กลับมาแสดงตัวและขอชดใช้ค่าชุดให้เรียบร้อย จากการตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าวไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตามกฎหมาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “แต่งกายเลียนแบบเจ้าพนักงาน” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ทางร้านจำหน่ายเครื่องแบบข้าราชการยืนยันว่า ไม่ติดใจเอาความเพิ่มเติม

ด้านนางสาวปูเปรี้ยว อายุ 40 ปี (นามสมมุติ) พนักงานร้าน เล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันก่อนหน้า มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน สอบถามหาชุดเครื่องแบบข้าราชการตำรวจ ตนจึงถามว่า ต้องการชุดสายตรวจหรือชุดปฏิบัติการ ชายรายนั้นตอบว่า “ชุดปฏิบัติการ” โดยระบุว่ายศ พันตำรวจเอก และเร่งให้จัดให้โดยด่วน อ้างว่ากำลังจะนำไปใส่ในงานรับปริญญาของแฟนสาว

เมื่อจัดชุดให้เรียบร้อย ชายคนดังกล่าวได้เปลี่ยนชุดที่ร้าน ก่อนออกไปโดยโอนเงินชำระผ่านมือถือ แต่ภายหลังพบว่าเงินไม่เข้าบัญชี ตนจึงพยายามโทรติดต่อ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขณะนั้นชายรายดังกล่าวอ้างว่าอยู่ที่ สภ.โนนสะอาด

พนักงานสาวกล่าวว่า หากติดตามเงินไม่ได้จริงๆตนต้องรับผิดชอบเอง เพราะยอดเงิน 12,000 บาทนั้น เป็นเงินเดือนทั้งเดือน ต่อมาจึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรธานี จนกระทั่งชายคนดังกล่าวกลับมาชำระเงินคืน ทางร้านจึงไม่ติดใจดำเนินคดี

ขณะเดียวกันนางสาวมดตะนอย อายุ 28 ปี แฟนสาวของชายคนดังกล่าว เล่าว่าวันเกิดเหตุเป็นวันรับปริญญาของตนเอง ซึ่งแฟนได้มาร่วมงานด้วย แต่หลังจากเสร็จพิธี เขาขอตัวออกไปทำธุระ โดยไม่บอกว่าไปไหน กระทั่งกลับมาปรากฏตัวใน “ชุดเครื่องแบบตำรวจ” ซึ่งทำให้ตนรู้สึกงงและไม่พอใจ เพราะไม่ทราบว่าแต่งชุดนั้นมาทำไม

เธอกล่าวว่า คบกันมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 แฟนหนุ่มเป็นครู ไม่ใช่ตำรวจ และเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบทำเซอร์ไพรส์ เมื่อเห็นเขาใส่เครื่องแบบตำรวจในวันสำคัญเช่นนี้ จึงรู้สึกเสียใจและสับสน ไม่แน่ใจว่าเขาทำเพื่อถ่ายคอนเทนต์ตามที่อ้าง หรือมีเจตนาอื่นกันแน่




ส่วนนายต้าย อายุ 30 ปี (สงวนนามสกุล) ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่าก่อนหน้านี้แรงบันดาลใจอยากเป็นตำรวจ และในวันรับปริญญาของแฟนสาว เกิดอารมณ์ชั่ววูบ อยากแต่งเครื่องแบบตำรวจไปเซอร์ไพรส์แฟนสาว เพราะเห็นคนอื่นในงานใส่เครื่องแบบตำรวจมารับแฟนหลายคน จึงคิดว่าทำบ้างน่าจะดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่ว่าประชาชนทั่วไปไม่สามารถแต่งเครื่องแบบตำรวจได้ นายต้ายตอบว่า “ผมเคยเห็นในงานแสดงหมอลำ ในละครก็เห็นเขาใส่ เลยคิดว่าไม่น่ามีปัญหา”

ส่วนกรณีที่เงินโอนค่าชุดไม่เข้า ชี้แจงว่าตอนนั้นคิดว่าเงินเข้าบัญชีแล้ว แต่ระหว่างจะกลับไปเอาบัตรที่รถ แฟนโทรมาเร่งให้รีบกลับ เพราะโกรธที่หายไปนาน และต่อว่าเป็นวันสำคัญของแฟนสาว ทำไมหายไป ด้วยความรีบร้อน จึงขับรถออกจากร้านไปโดยไม่ตรวจสอบอีกครั้ง

หลังจากนำชุดไปใส่เซอร์ไพรส์แฟนสาวแล้ว นายต้ายรีบนำชุดมาคืน เพราะพนักงานโทรมาแจ้งว่าจะดำเนินคดีหากไม่คืน สุดท้ายได้พูดคุยตกลงกับร้าน โดยร้านไม่เอาเรื่อง แต่ขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย 20,000 บาท

“อยากขอโทษแฟน ขอโทษร้านชุด และขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน ที่ทำไป เพราะอยากให้แฟนดีใจเท่านั้น ตอนนี้ได้สติแล้ว เข้าใจว่าการแต่งเครื่องแบบของหน่วยงานใดๆ หากเราไม่ใช่เจ้าหน้าที่จริงๆ ถือว่าผิด และไม่ควรทำอย่างยิ่ง”นายต้าย กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น