พิษณุโลก - ชาวบ้านบุกถามนายอำเภอวังทอง ที่แท้ราษฎรบุกรุกหรือ จนท.รัฐรังวัดกลั่นแกล้ง!?..รัฐขีดเส้น “เขาสมอแคลง” เป็นที่สาธารณประโยชน์-ศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด นสล.ชอบแล้ว บอกชาวบ้านอยู่กันกว่า 2,000 ครัวเรือน วันนี้พอมีหลักฐานใหม่ หวังคณะกรรมการพิสูจน์สิทธิ์ฯ (คพร.) เปิดประชุมอีกรอบ
วันนี้ (4 พ.ย.) ร้อยเอก สมจิตร ฉ่ำมา อดีต สมาชิก อบจ.พิษณุโลก พร้อมกลุ่มชาวบ้าน ได้เดินทางเข้าพบนายอำเภอวังทอง เพื่อสอบถามถึงการแก้ปัญหาที่ดินเขาสมอแคลง ที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ 2,000 ครัวเรือนเศษ (หมู่ 8 ต.วังทอง 1,600 ครัวเรือน หมู่ 11 ต.วังทอง อีก 700 ครัวเรือน) แต่รัฐบอกเป็นที่สาธารณประโยชน์ จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังมาหลายสิบปี เรียกร้องมา 3 ผู้ว่าฯ กับ 4 นายอำเภอแล้วไม่มีความคืบหน้า
นายชาญชัย คมานิคม นายอำเภอวังทอง กล่าวว่า เขาสมอแคลงมีปัญหาสะสมมานาน ศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำพิพากษาตัดสินไปแล้วว่าเอกสารหนังสือสำคัญที่หลวง (นสล.) ที่ออกเมื่อปี พ.ศ. 2506-2508 ชอบด้วยกฎหมายแล้วทั้ง 3,960 ไร่เศษ หากจะคัดค้านวันนี้ก็ต้องมีหลักฐานใหม่ เป็นเอกสารที่ไม่เคยหยิบยกมาต่อสู้ หากมีหลักฐานใหม่ ตนยินดีจะนำเสนอ พร้อมรายงานไปยังจังหวัดฯ เพื่อให้คณะกรรมการพิสูจน์สิทธิในที่ดินของรัฐ (คพร.) เปิดประชุมทันที
ทั้งนี้ นายอำเภอวังทองได้แนะนำด้วยว่า หลักฐานใหม่นั้นต้องชี้จุดได้ชัดเจนว่า บริเวณใดถูกบุกรุกหรือทับที่ดินราชการ ทำให้รู้ว่าที่ดินของประชาชนรายใดไม่ได้อยู่ในประกาศของทางราชการ ซึ่งทางอำเภอฯ เตรียมสรุปภาพรวมเพื่อให้ คพร.จังหวัดเปิดประชุมเร็วๆ นี้
ขณะที่ชาวบ้านต้องการให้ยกเลิก หรือปรับปรุงแก้ไขประกาศอำเภอวังทอง ฉบับที่ 2020/2508 เพื่อคืนสิทธิกลับคืนมา หลังจากที่ผ่านมาภาครัฐยึดคำเดียวว่า บุกรุก ทั้งๆ ที่ผู้ร้องมีเอกสาร ส.ค.1 ปรากฏอยู่ พ.ศ. 2496 แต่ศาลปกครองเชื่อเจ้าพนักงานที่ดินมากกว่า ไม่สนหลักฐานของชาวบ้าน
ร้อยเอก สมจิตรระบุว่า ปี 2506 จังหวัดให้มีการสำรวจรังวัดที่ดินเพื่อออกคำสั่งประกาศของอำเภอวังทอง 2020/2508 ซึ่งช่วงนั้นเจ้าหน้าที่ทำการรังวัดภูเขาสมอแคลงโดยควบรวมชุมชนบ้านเขาสมอแคลงเข้าไปด้วย เหมือนเจตนากลั่นแกล้ง ซ่อนเร้นหรือมองไม่เห็นชาวบ้าน
“ผมจะไปแสดงต่ออนุกรรมการของอำเภอวังทองว่าพื้นที่เขาสมอแคลงไม่ได้อยู่ในพื้นที่ประกาศของอำเภอวังทอง จะต่อสู้ว่า ราษฎรไม่ได้อยู่ในประกาศ 2470 และปี 2508 ที่ออกประกาศของอำเภอวังทอง เพราะชาวบ้านอยู่มาก่อนแล้ว”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ภาครัฐยืนยันเขาสมอแคลงเป็นที่หลวง จึงแก้ไขโดยจัดโครงการจัดที่ดินชุมชน ให้ 3 หมู่บ้าน ทำการรังวัดออกแนวเขต จ่ายค่าเช่าแก่รัฐ ต่อสัญญาแต่ละคน มีประชาชนหมู่ที่ 8, 11 ต.วังทอง เข้าร่วมแล้วมากกว่า 533 ราย 630 แปลง ยกเว้นราษฎรเกือบ 1,000 คนที่บ้านเสือลากหาง หมู่ที่ 9 ต.วังทอง ยังมีความคิดเห็นขัดแย้งว่าควรจะได้รับเอกสารสิทธิ แม้ว่าปี 2508 รัฐออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง หรือ นสล.เรียบร้อยแล้ว และชาวบ้านร้องศาลปกครองให้เพิกถอนที่ นสล.แห่งนี้ แต่ศาลยกฟ้องไปแล้ว
อนึ่ง กระทรวงมหาดไทยได้ขึ้นทะเบียน 'ทุ่งเขาสมอแคลง’ เป็นพื้นที่หวงห้ามไว้เป็นที่เลี้ยงสัตว์พาหนะเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2470 มีความกว้างประมาณ 30 เส้น ความยาวประมาณ 80 เส้น เนื้อที่ประมาณ 2,400 ไร่ ต่อมา พ.ศ.2485 เปลี่ยนชื่ออำเภอป่าหมากเป็นอำเภอวังทอง ปี พ.ศ.2506 รังวัดเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับหลวง (นสล.) เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2506 โดยรังวัดรวมพื้นที่บริเวณเขาสมอแคลงให้เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์แปลงเดียวกันเนื้อที่ 3,960 ไร่ 1 งาน 23 ตารางวา


