สมุทรสงคราม – ชาวสวนลิ้นจี่มีความหวัง! สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) จับมือเครือข่ายสภาเกษตรกรและท้องถิ่นสมุทรสงคราม ทดลองใช้ “สเปรย์น้ำ–ฮอร์โมน” กระตุ้นการออกดอกของลิ้นจี่พันธุ์ค่อม หวังช่วยให้ติดผลเพิ่ม ฟื้นเศรษฐกิจเกษตรกรในพื้นที่กว่า 5,000 ไร่
นายชัยยันต์ เจียมศิริ ประธานกลุ่มเครือข่ายสภาเกษตรกรปรับปรุงคุณภาพไม้ผลจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมสมุทรสงครามถือเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมาให้ผลผลิตไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการออกดอกต้องต่ำกว่า 18 องศาเซลเซียสต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพอากาศปัจจุบันที่ร้อนขึ้น ทำให้ลิ้นจี่บางปีออกดอกเพียงบางส่วน หรือดอกร่วงก่อนติดผล ส่งผลให้เกษตรกรขาดรายได้ หลายรายต้องโค่นต้นลิ้นจี่หันไปปลูกพืชอื่นแทน เช่น มะพร้าวและส้มโอ
ล่าสุด กลุ่มเครือข่ายสภาเกษตรกรฯ ได้ร่วมกับศูนย์วิจัยชุมชนตำบลแควอ้อม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม และ สวก. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนิน โครงการวิจัย “กระตุ้นเพิ่มเปอร์เซ็นต์การติดดอกออกผลของลิ้นจี่ค่อมสมุทรสงคราม” โดยคัดเลือกพื้นที่สาธิตจำนวน 4 แปลง ในอำเภออัมพวาและอำเภอบางคนที รวมต้นลิ้นจี่กว่า 250 ต้น เพื่อทำการทดลองใช้เทคโนโลยีใหม่ช่วยกระตุ้นการออกดอก
การวิจัยแบ่งเป็น 2 แนวทาง ได้แก่ การสเปรย์น้ำฉีดพ่นในสวน เพื่อสร้างสภาวะอากาศเย็นชื้นจำลองให้เหมาะกับการออกดอก การฉีดพ่นฮอร์โมนพืชชนิดใหม่ ที่ช่วยให้ดอกสมบูรณ์ ขั้วเหนียว ลดการร่วง และเพิ่มอัตราการติดผล
นอกจากนี้ ยังมีแผนเดินทางศึกษาดูงานที่จังหวัดนครพนมในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อเรียนรู้เทคนิคการปลูก “ลิ้นจี่พันธุ์นครพนม 1” ซึ่งสามารถออกดอกและให้ผลผลิตได้แม้อุณหภูมิสูงถึง 20–22 องศาเซลเซียส โดยนักวิจัยจะนำพันธุ์นครพนม 1 และพันธุ์ค่อมสมุทรสงครามมาทดลอง “เสียบยอด” เพื่อวิเคราะห์การสังเคราะห์แสงและความสามารถในการติดผลในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน
นายชัยยันต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ สวก. และผู้ร่วมวิจัยอยู่ระหว่างการติดตั้งระบบสเปรย์น้ำและอุปกรณ์ในแปลงทดลองทั้ง 4 แห่ง คาดว่าเดือนธันวาคมนี้จะจัดอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรชาวสวนลิ้นจี่กว่า 200 คน เพื่อเผยแพร่เทคนิคการดูแลต้นลิ้นจี่อย่างถูกวิธี
“ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมสมุทรสงครามมีรสชาติหวานหอมไม่เหมือนที่ใด เพราะปลูกในพื้นที่สามน้ำ — น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม จึงควรอนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์ หากการทดลองนี้สำเร็จ เกษตรกรจะกลับมามีรายได้มั่นคง และลิ้นจี่สมุทรสงครามจะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง” นายชัยยันต์กล่าว
 
                    

