ศูนย์ข่าวขอนแก่น - เวทีพลังเครือข่ายไหมและสิ่งทอ เชื่อมโยงท้องถิ่นสู่สากลอย่างยั่งยืน ร่วมแสดงความอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง ขณะที่ชาวบ้านเล่าความประทับใจ "พระพันปีหลวงชอบผ้าไหมสีเม็ดมะขาม สร้างงาน สร้างอาชีพให้ชาวบ้าน ลืมตาอ้าปากได้จนถึงทุกวันนี้"
วันนี้ (25 ต.ค.) ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น สมาคมไหมไทยและสิ่งทอ จ.ขอนแก่น จัดงานพลังเครือข่ายไหมและสิ่งทอ เชื่อมโยงท้องถิ่นสู่สากลอย่างยั่งยืน ก่อนจัดงาน นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา ฐานะนายกสมาคมไหมไทยและสิ่งทอ จ.ขอนแก่น พร้อมผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนผ้าไหม ร่วมกันยืนสงบนิ่งแสดงความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา นายกสมาคมไหมไทยและสิ่งทอ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในฐานะนายกสมาคมไหมไทยและสิ่งทอ จ.ขอนแก่น พร้อมผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน ขอแสดงความอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งพระองค์ทรงมีคุณูปการนานานัปการต่อวงการไหมไทยและสิ่งทอทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่ จ.ขอนแก่น
"เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วพระองค์ท่านได้เรียกให้เข้าไปในพระราชวัง มีพระราชดำรัสให้พัฒนาผ้าไหม ในพื้นที่บ้านหัวฝาย ต.ปอแดง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เพื่อยกระดับทำลวดลายต่างๆ ขึ้นมา ทำให้ชาวบ้านเกิดอาชีพและรายได้ โดยทางสมาคมได้ยกระดับผ้าไหมตามพระราชดำรัสของท่าน ออกแบบลายผ้าประจำจังหวัดขึ้นมา และออกแบบแฟชั่นทั้งกระเป๋า เสื้อผ้า เพื่อให้ออกสู่สายตาชาวโลกได้ และเดือนหน้าจะนำผู้ประกอบการไปดูงานและเจรจาธุรกิจที่เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเมืองนี้มีชื่อเสียงด้านผ้าไหมอันดับหนึ่งของโลก"
“สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำรัสส่งเสริมอาชีพ ส่งเสริมรายได้ และยกระดับเกษตรกรผู้ทอผ้า พร้อมอนุรักษ์ภูมิปัญซาท้องถิ่นของไทยไว้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทย” นายภพพล เกษมสันต์ ณ อยุธยา กล่าว
ขณะที่นางสุภาณี ประชามูล ประธานวิสาหกิจชุมชนผ้าไหมมัดหมี่บ้านหัวฝาย ต.ปอแดง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น กล่าวด้วยว่า เมื่อนานมาแล้วเคยมีโอกาสมารับเสด็จพระองค์ท่านที่ อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เมื่อปี 2516 ท่านเสด็จฯ มาใกล้ๆ และได้พูดคุยกับแม่สงวน ซึ่งนั่งติดกันกับตนเอง ตอนนั้นเห็นแม่สงวนใส่ผ้าถุงสีเม็ดมะขาม “ลายน้ำฟองหน่วย” ท่านบอกว่าสวยจังเลย ทำไปให้หน่อยนะ ทำเองหรือเปล่า น้ำเสียงอ่อนหวานอบอุ่น แม่สงวนก็บอกว่าทำเองค่ะ
จากนั้นก็ได้ทอผ้าไหมส่ง หลังจากนั้นบ้านหัวฝาย อ.ชนบท ก็ได้เป็นสมาชิกส่งผ้าไหมให้สวนจิตรลดาตลอดมา เป็นสมาชิกทั้งหมู่บ้าน และนั่งรถไฟไปรับเส้นไหมที่สวนจิตรฯ มาทำด้วย เพราะไหมที่ชาวบ้านทำผลิตไม่ทัน เพราะที่นั่นมีเส้นไหมเยอะ ทำให้ชาวบ้านมีอาชีพ มีรายได้จนถึงทุกวันนี้
นางสุภาณีกล่าวอีกว่า "รู้สึกใจหายกับการเสด็จสวรรคตของพระองค์ท่าน พูดเมื่อไหร่น้ำตาไหล เพราะซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ท่านเป็นเหมือนแม่ เป็นผู้ให้ชีวิตในการทำผ้าไหม เมื่อก่อนชาวบ้านทอผ้าไม่มีที่ขาย แต่พอมาเจอพระองค์ท่านก็ได้รับผ้าไหมของชาวบ้าน ตลาดแรกที่ชาวบ้านขายคือสวนจิตรลดา ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้ก็เพราะพระองค์ท่าน"


