ระยอง- ตร.วังจันทร์ ตามรวบยกแก๊ง 5 โจรแสบลักหม้อแปลงไฟฟ้าริมถนนสายเขาขุนอินทร์–ยุบตาเหน่ง อ.วังจันทร์ จ.ระยอง สร้างความเสียเป็นวงกว้าง อ้างทำเพราะตกงานซ้ำมีปัญหาหนี้สิน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ ( 22 ต.ค.) พ.ต.อ.ศุภกร มาตย์สมบัติผกก.สภ.วังจันทร์ พร้อมด้วย พ.ต.ท. เสกสิทธิ์ ทองถาวรวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.วังจันทน์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วังจันทร์ ได้เข้าจับกุมแก๊งคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุลักหม้อแปลงไฟฟ้า ริมถนนสายเขาขุนอินทร์–ยุบตาเหน่ง ม. 1 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง จนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
โดยมีผู้ต้องหา 5 รายประกอบด้วย นายยุรนันท์ อายุ 39 ปี ชาว จ.อุดรธานี, นายชุติพนธ์ หรือฟิว อายุ 20 ปี, นายณัฐพล หรือวุฒ อายุ 23 ปี, น.ส.กนกวรรณ หรือใหม่ อายุ 25 ปี ชาวระยอง และนายจักรี หรือโอ อายุ 39 ปี ชาวศรีสะเกษ พร้อมของกลางยาบ้า 9 เม็ด เครื่องมือช่างหลายรายการ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ รถยนต์เก๋ง และรถกระบะที่ใช้ในการก่อเหตุ
การจับกุมดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 22.00น.วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายก่อเหตุลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าริมถนนสายเขาขุนอินทร์–ยุบตาเหน่ง และเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบจากพลเมืองดีว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะย้อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง จึงวางกำลังซุ่มรอดัก
กระทั่งเวลาประมาณ 23.00น.คืนวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าผู้ต้องหาได้กลับมาก่อเหตุในจุดเดิม เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมคนร้ายได้ 2 รายก่อนขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มอีก 3 ราย รวมทั้งสิ้น 5 คน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เป็นเพื่อนรู้จักกันมานานราว 2 ปี ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งและมีหนี้สินจำนวนมาก จึงชักชวนกันออกตระเวนลักหม้อแปลงและตัดสายไฟขายเพื่อนำเงินใช้หนี้
โดยก่อนก่อเหตุจะขี่รถจักรยานยนต์วนดูลาดเลา เมื่อสบโอกาสจึงลงมือ แต่เนื่องจากหม้อแปลงที่ก่อเหตุมีขนาดใหญ่ จึงยกได้เพียงบางส่วนและวางแผนที่จะกลับมาเอาที่เหลือในคืนถัดมา แต่ถูกจับกุมได้ก่อน
ขณะที่ พ.ต.อ.ศุภกร มาตย์สมบัติ ผกก.สภ.วังจันทร์ เผยว่าการจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ต.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ที่กำชับให้ทุกสถานีตำรวจเร่งปราบปรามขบวนการลักตัดสายไฟและหม้อแปลงไฟฟ้า ที่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและทำให้ระบบไฟฟ้าในพื้นที่เสียหายเป็นวงกว้าง
เบื้องต้น ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย


