มหาสารคาม - ประชาชนและผู้ประกอบการในมหาสารคามดีใจและตั้งตารอโครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาล ใช้สิทธิ์จ่ายคนละครึ่ง วันละ 200 บาท เชื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน หนุนเศรษฐกิจที่ซบเซาให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
นางโสภา ไชยสมคุณ (เสื้อลาย) ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า รอคอยโครงการคนละครึ่งอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเชื่อว่าจะช่วยพยุงรายจ่ายของประชาชนในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ได้มาก เพราะเงินที่เติมจากรัฐบาลเข้ามาช่วยครึ่งหนึ่งถือว่ามีค่ามากในภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้ อยากให้โครงการแบบนี้เกิดขึ้นเร็วๆ เพราะคนที่ยากจนไม่มีเงินจริงๆ
บางวันซื้อข้าวได้แค่กิโลฯ หรือสองกิโลฯ กินไปวันๆ ถ้ามีเงินช่วยจากรัฐ เช่นโครงการคนละครึ่ง กำลังใจของประชาชนก็ดีขึ้น
ซึ่งเงินที่เติมมาให้ 200 บาทต่อวันมีค่ามากสำหรับคนรายได้น้อย เพราะสามารถนำไปซื้อข้าวสาร อาหารแห้ง หรือของจำเป็นในชีวิตประจำวันได้ “ถ้ามีโครงการแบบนี้ บรรยากาศการซื้อขายก็จะคึกคักขึ้น คนมีเงินซื้อของเพิ่มขึ้น ส่วนคนขายก็ขายได้มากขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง อยากขอบคุณรัฐบาลที่คิดช่วยเหลือประชาชน และอยากให้โครงการนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว”
ด้านนางขวัญจิต ศรีมาลุน (เสื้อสีเทา) เจ้าของร้านอู่ข้าวสารคาม บริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ตนและร้านค้าหลายแห่งในตลาดต่างเตรียมพร้อมเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เพราะเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีและช่วยลดรายจ่ายของประชาชนได้จริง “ตอนนี้มีลูกค้ามาถามบ่อยว่าร้านเข้าร่วมโครงการไหม เพราะคนก็รอกันเยอะ เราเองก็เตรียมทำป้ายติดหน้าร้านว่า ‘ยินดีรับคนละครึ่ง’ เพื่อรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาจะได้ใช้สิทธิ์นี้
ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดี ตลาดเงียบมาก แต่เชื่อว่าเมื่อโครงการคนละครึ่งเริ่มจะช่วยให้ผู้คนออกมาจับจ่ายมากขึ้น เพราะทุกวันนี้ของกินของใช้แพงขึ้นเยอะ บางคนไม่มีเงินพอจะซื้อหลายอย่างในครั้งเดียว ถ้ามีคนละครึ่งก็มาช่วยได้มาก อย่างน้อยลดภาระครึ่งหนึ่ง และทำให้ตลาดกลับมาครึกครื้นอีกครั้ง



