เชียงราย - ตำรวจไซเบอร์แกะรอยทลายเครือข่ายพนันออนไลน์-แก๊งคอลฯ..รวบคู่ผัวเมียกับพวกรับจัดหาบัญชีม้า-ม้ากดเงิน พบทั้งหลอกทั้งข่มขู่/ทำร้ายเด็ก-เยาวชน เปิดบัญชีขาย “คอกม้าใหญ่แม่สาย” ที่รวบรวมขายนายทุนทำกำไรเป็นทอดๆ
วันนี้ (14 ต.ค.) พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ (กก.) 3 และ กก.4 กองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 (บก.สอท.4) นำหมายศาลเข้าจับกุมเครือข่ายบัญชีม้า-ม้ากดเงิน ให้กับเว็บพนันออนไลน์ รวมถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หลังสืบสวนทราบว่ามีผู้ลักลอบเปิดบัญชีธนาคารขายให้เว็บไซต์การพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-เมียนมา และ อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว-เมียนมา โดยมีการหลอกลวงเหยื่อเป็นเด็กและเยาวชนหลายรายด้วย
และเมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบก็พบสามีภรรยาคู่หนึ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ นายขจร และ น.ส.วราลี ซึ่งมี น.ส.วิชญาพร เป็นผู้ร่วมขบวนการ มักไปเบิกเงินเข้าออกบัญชีธนาคารอยู่เป็นประจำ รวมทั้งมีเบาะแสบ่งชี้ว่าเป็นเงินที่มาจากเว็บไซต์การพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.จึงได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับทั้ง 3 คนดังกล่าว
ทั้งนี้ ตามแนวทางสืบสวนยังทราบว่าเครือข่ายของทั้ง 3 คนเป็นเด็กและเยาวชนซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดำเนินคดีแต่ได้สืบสวนข้อมูลเพื่อขยายผลจนทราบว่านายขจรและ น.ส.วราลี เป็นผู้ทำหน้าที่กดเงินให้กับเว็บพนันออนไลน์ ส่วน น.ส.วิชญาพร เป็นผู้จัดหาบัญชีธนาคารจากบุคคลอื่นหรือบัญชีม้า โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชนที่หลงเชื่อแล้วไปเปิดบัญชีธนาคารแลกกับเงินจำนวน 3,000 บาทต่อราย ซึ่งในรอบ 2 เดือนมานี้ยังมีพฤติกรรมข่มขู่-ทำร้ายร่างกายเด็กและเยาวชนเพื่อให้ปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับด้วย
เมื่อ น.ส.วิชญาพรได้บัญชีธนาคารมาแล้วก็จะนำไปขายให้นายทุนใหญ่ในพื้นที่ชายแดน อ.แม่สาย และ อ.เชียงแสน เพื่อทำกำไรบัญชีละ 9,000 บาท จากนั้นนายทุนซึ่งเรียกว่า "คอกม้าใหญ่" ก็จะนำไปขายต่อให้กับเว็บไซต์พนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในราคาบัญชีละ 30,000 บาท หรือทำกำไรกันเป็นทอดๆ
ทั้งนี้ หลังจากบัญชีไปถึงปลายทางจะมีเงินโอนเงินหมุนเวียนรวมกันทั้งหมดมากกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายขจร น.ส.วราลี และ น.ส.วิชญาพร ดำเนินคดีและขยายผลไปถึงคอกม้าใหญ่ที่เกี่ยวข้องต่อไป



