xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจบ้านดุงโชว์ผลงานเด่น รวบ 2 ผู้ต้องหาขนไอซ์หนักกว่า 448 กิโลฯ มูลค่ากว่า 224 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ตำรวจ สภ.บ้านดุงตามจับกุมผู้ต้องหาขนไอซ์ 448 กิโลกรัม ได้ทั้ง 2 ราย
อุดรธานี - พ่อเมืองอุดรนำทีมประกาศผลแถลงจับคดีใหญ่ รวบ 2 ผู้ต้องหาขนไอซ์ 448 กก. มูลค่ากว่า 224 ล้าน ป.ป.ส.ภาค 4 เผยปีที่ผ่านมาตรวจยึดยาไอซ์ได้กว่า 3 ตัน ส่วนปีนี้ยึดได้แล้วถึง 9 ตัน


วันที่ 22 กันยายน 2568 ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับนายพงษ์ศิริ ชื่นบาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4, พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, นายสุริยนต์ ดอนสมจิตร นายอำเภอบ้านดุง, พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.บ้านดุง นายวีระพล รักษ์เสมอวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองบ้านดุง
และเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.บ้านดุง ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายกันตพงษ์ หรือ “ทิว” วงษ์สุวรรณ อายุ 20 ปี และนายชัยณรงค์ ศรีอินทร์ หรือเอฟ อายุ 27 ปี ข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายโดยการมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์)
ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้ คือ
ยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 448 ห่อ ห่อละ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนัก 448 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 224,000,000 บาท พร้อมรถยนต์ยี่ห้อ KIA สีดำ ทะเบียน กล 7728 อุดรธานี มูลค่า 200,000 บาท




ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคืนวันที่ 20 กันยายน เวลาประมาณ 22.40 น. ศูนย์วิทยุ สภ.บ้านดุงรับแจ้งเหตุรถยนต์ประสบอุบัติเหตุในพื้นที่บ้านเหล่าอุดม ตำบลบ้านจันทน์ อำเภอบ้านดุง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบรถยนต์ต้องสงสัย ภายในบรรทุกห่อยาไอซ์จำนวนมาก โดยผู้ขับขี่ได้หลบหนีไป ก่อนที่ชุดสืบสวนจะติดตามและสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมาเวลาประมาณ 03.30 น.ต่อเนื่องถึง 15.00 น.

นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานีได้กำหนดยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นขั้นตอน และขับเคลื่อนงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบูรณาการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งด้านการป้องกัน การปราบปราม รวมถึงการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด สำหรับการตรวจยึดและจับกุมเครือข่ายยาเสพติดครั้งนี้ ถือเป็นผลสำเร็จของการบูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องที่ที่เข้ามามีบทบาทตั้งแต่เกิดเหตุ ไปจนถึงการสืบสวนติดตามจนสามารถปิดคดีได้สำเร็จ


พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยต่อว่า ขบวนการลักลอบขนยาเสพติดเครือข่ายนี้มีการทำงานกันเป็นทีม มีผู้บงการซึ่งใช้ชื่อเล่นว่า “นายโจ” เป็นผู้สั่งการจากที่ไหนสักแห่งผ่านการส่งพิกัดเป็นระยะๆ ให้กับผู้ลำเลียงยาเสพติด ล็อตนี้ยาเสพติดถูกลำเลียงมาจากชายแดนจังหวัดบึงกาฬ โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมให้การว่า ไม่ทราบจุดหมายปลายทางแน่ชัด ต้องรอรับคำสั่งจากนายโจเป็นช่วงๆ ว่าจะให้ขับรถไปส่งที่ใด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สืบทราบแล้วว่าผู้บงการรายดังกล่าวคือใคร และมีชื่อ-นามสกุลจริงชัดเจนแล้ว พนักงานสอบสวน สภ.บ้านดุงเตรียมขอศาลออกหมายจับต่อไป อย่างไรก็ตาม คาดว่าผู้ต้องหาหลักอาจหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส.จะเข้ามาดำเนินการติดตามขยายผลต่อไป


นายพงษ์ศิริ ชื่นบาน ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 เปิดเผยว่า การสืบสวนและจับกุมครั้งนี้เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เล็ดลอดเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ภาคใต้ หรือถูกลักลอบส่งออกไปต่างประเทศ หากหลุดรอดไปได้จะสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวและสังคมอย่างมหาศาล “ปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตรวจยึดยาไอซ์ได้กว่า 3 ตัน ส่วนในปีนี้ ยึดได้แล้วถึง 9 ตัน ยังไม่รวมล็อตล่าสุดอีก 448 กิโลกรัมที่เพิ่งจับกุมได้ นับว่าเป็นปริมาณที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ทุกคดี จะถูกส่งไปตรวจพิสูจน์ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อยืนยันความถูกต้อง โดยย้ำชัดว่าไม่มีการนำของกลางมาเวียนใช้เพื่อแถลงข่าว และเมื่อสิ้นสุดกระบวนการจะมีการเผาทำลายทั้งหมด โดยศูนย์ ป.ป.ส.จะจัดพิธีเผาทำลายยาเสพติดอย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง “ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าของกลางทุกรายการที่ยึดได้จะถูกตรวจสอบตามขั้นตอนและถูกทำลายทั้งหมด ไม่มีการนำกลับมาใช้ซ้ำ” นายพงษ์ศิริกล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น