xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป)กลัวฆาตกรถูกรุมตึ๊บ ตำรวจพาทำแผนฆ่า “เจ๊หน่อง”ในห้องแอร์แทน ญาติตะโกนสาปแช่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุดรธานี– หวั่นถูกรุมตึ๊บ! ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาฆ่าชิงทรัพย์ “เจ๊หน่อง”เจ้าของร้านชำกลางตลาดอำเภอเพ็ญทำแผนฯในห้องแอร์แทน เจ้าตัวน้ำตาคลอ เสียใจและขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ด้านญาติเจ๊หน่องรุดดูหน้า ตะโกนด่าและสาปแช่ง ต้องรับโทษประหาร ตำรวจแจ้งข้อหาหนักชิงทรัพย์และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา


                             

วันนี้ (19 ก.ย.) ที่ สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายธนชัย โพธิ์นิล หรือนาย ผู้ต้องหาคดีฆ่านางสาวเพชราพร สีดาคำ หรือเจ๊หน่อง เจ้าของร้านขายของ ภายในตลาดสดเพ็ญ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในห้องประชุม สภ.เพ็ญ เนืองจากเกรงจะถูกชาวบ้านและญาติที่โกรธแค้นรุมประชาทัณฑ์ พ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล ผกก.สภ.เพ็ญ อำนวนการปฏิบัติ ระหว่างการทำแผนที่ชั้น 2 ของโรงพัก ผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียดและน้ำตาคลออยู่ตลอดเวลา

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความรู้สึก นายธนชัยพยักหน้าตอบสั้น ๆ ว่า “กังวล” พร้อมยอมรับว่าที่ร้องไห้เพราะรู้สึกเสียใจและสำนึกผิดกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป

หลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้ต้องหาได้กล่าวขอโทษต่อญาติของผู้เสียชีวิตทุกคน พร้อมยอมรับว่า ในครั้งแรกที่ก่อเหตุขโมยเงินนั้น ได้นำเงินไปซื้อโทรศัพท์มือถือและนำไปใช้จ่ายเป็นค่างวดรถ

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านหมูกระทะในตัวเมืองอุดรธานี มีรายได้วันละประมาณ 200–300 บาท แต่ไม่แน่นอน บางวันมีงานจ้าง บางวันก็ไม่มี จึงทำให้ขัดสนทางการเงิน สาเหตุที่ตัดสินใจก่อเหตุก็เพราะต้องการเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว


ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังตลาดสดเพ็ญ พบว่า มีชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าต่างมารอการทำแผน ต่างผิดหวังที่ตำรวจไม่พาตัวผู้ต้องหามาทำแผน จังหวะเดียวกันนี้ ได้พบนางไร อายุ 59 ปี เพื่อนสนิทของเจ๊หน่อง ได้เดินทางมาบอกลา ไว้อาลัยยังจุดที่เจ๊หน่อง เสียชีวิต โดยนางไร บอกว่า ขอให้เพื่อนไปดีนะ ไม่ต้องห่วง อย่ามาหลอกฉันนะ ฉันกลัว เมื่อคืนที่ไปหาฉันคืนวาน ฉันกลัว ขอให้ไปดี เดี๋ยวฉันจะไปส่งดวงวิญาณที่วัด

นางไร เล่าว่า ตนกับ“เจ๊หน่อง” เป็นเพื่อนรักกัน โตมาด้วยกัน เรียนมาด้วยกัน ผูกพันกันมาตลอด วันเกิดเหตุนั้นตนอยู่ที่บ้าน โดยช่วงแรกหลายคนสงสัยว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไปสอบปากคำ แต่เมื่อมีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ ตำรวจก็ได้ปล่อยตัวไป ตนขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ และไม่ทราบเรื่องราวใด ๆ

“คืนหลังเกิดเหตุ เวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า เจ๊หน่องได้มาหาฉันที่บ้านในลักษณะเหมือนวิญญาณมาปรากฏตัว โดยนำเศษดินมาวางไว้ที่หัวนอน ตนจึงเชื่อว่าเพื่อนรักอาจจะมาบอกว่า ตายแล้วนะ”นางไรเล่า


รายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำนายธนชัยหรือนาย (ผู้ต้องหา) เสร็จสิ้น ได้ควบคุมตัวขึ้นรถเพื่อนำตัวไปฝากขังต่อศาล ในจังหวะเดียวกัน ญาติของเจ๊หน่อง ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สภ.เพ็ญ เพื่อดูหน้าคนก่อเหตุ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่นำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ ต่างตะโกนด่าและสาปแช่งตลอดเวลา สร้างบรรยากาศตึงเครียดและโศกเศร้าในที่เกิดเหตุ

นางสาวเบส อายุ 29 ปี หลานสาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ในฐานะครอบครัวตนไม่สามารถให้อภัยคนที่ก่อเหตุฆ่าน้าได้ แม้หลายคนจะบอกให้ให้อภัยหรือให้โอกาส น้าถูกคนร้ายใช้จอบตีศีรษะจนเสียชีวิต ไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้องขอชีวิตสักคำเดียว ตนและครอบครัวจึงต้องการให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษประหาร แม้กฎหมายไทยไม่สามารถบังคับใช้โทษประหารชีวิตได้จริง แต่ในฐานะญาติผู้เสียหายก็ไม่อาจให้อภัยได้

ขณะเดียวกัน นางสาวหงส์ อายุ 19 ปี แฟนสาวของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เพิ่งทราบความจริงว่าแฟนของตนเป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อวานนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไปสอบถาม ทำให้รู้สึกตกใจอย่างมาก เพราะหลังจากก่อเหตุแล้ว แฟนหนุ่มก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ได้แสดงท่าทีผิดปกติแต่อย่างใด


ด้านพ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล ผกก.สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุฆ่าโหดภายในตลาดสดอำเภอเพ็ญเมื่อวานนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนและตรวจสอบจากหลักฐานภาพวงจรปิด พบว่ามีชายต้องสงสัย 1 ราย ทราบต่อมาว่าคือ นายธนชัย หรือนาย ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ และแจ้งข้อหาชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

จากการสอบสวน ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า นอกจากก่อเหตุครั้งนี้แล้ว ยังเคยเข้าไปก่อเหตุที่ร้านดังกล่าวมาแล้ว 2-3 ครั้ง โดยก่อนหน้านี้เคยขโมยเงินไปกว่า 20,000 บาท ส่วนในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาตั้งใจจะเข้าไปลักทรัพย์ แต่ผู้เสียชีวิตตื่นขึ้นมาเจอหน้าผู้ก่อเหตุ และเนื่องจากผู้ตายเคยรู้จักผู้ต้องหามาก่อน ทำให้ผู้ก่อเหตุลงมือทำร้ายจนเสียชีวิต

ทั้งนี้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ทำแผนประกอบคำรับสารภาพในพื้นที่เกิดเหตุจริง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย อาจถูกประชาชนทำร้าย จึงนำผู้ต้องหามาทำท่าทางประกอบคำรับสารภาพในห้องแอร์ของสถานีตำรวจแทน โดยยืนยันว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมฝากเตือนประชาชนให้ดูแลทรัพย์สินและเก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย


กำลังโหลดความคิดเห็น