สระแก้ว- สิ้นหวังรัฐบาลกัมพูชา แรงงานเขมรครึ่งร้อยหวังตายเอาดาบหน้า ดอดเข้าไทยบริเวณชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว สารภาพจำใจกลับบ้านเกิดเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมาแต่สุดท้ายไม่ได้รับการเหลียวแล จนต้องยอมเสียค่าหัวรายละ 5,000-6,000 บาทให้ผู้นำพา ลอบพาเดินผ่านช่องทางธรรมชาติ แต่ไม่รอดสายตาทหารกองกำลังบูรพา
วันนี้ ( 8 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังบูรพา ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และกองร้อยทหารพรานที่ 1206 เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณท้ายหมู่บ้านกุดหิน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังได้รับรายงานจากสายข่าวว่ามีการลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย
จากการตรวจสอบพบแรงงานเขมรจำนวน 50 คน เป็นชาย 33 คน และหญิง 17 คน กำลังพากันเดินเท้าข้ามแดนจากกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทยบริเวณท้ายหมู่บ้านกุดหิน ในสภาพอิดโรยและหิวโซ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้งหมดเพื่อสอบถามข้อมูล ซึ่งในเบื้องต้นทุกคนสารภาพตรงกันว่า เคยเข้ามาทำงานในประเทศไทย แต่เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ต้องจำใจกลับประเทศบ้านเกิดจากมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการเข้าออกของทั้งสองประเทศ
แต่เมื่อกลับไปแล้วกลับไร้งานทำ ไม่มีรายได้ และไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ จากรัฐบาลกัมพูชา จึงตัดสินใจหนีอดตายกลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้ง โดยยอมจ่ายเงินค่าจ้างให้กับผู้นำทางชาวเขมรด้วยกันหัวละ 5,000–6,000 บาท เพื่อให้พาข้ามแดนตามเส้นทางธรรมชาติ
และระหว่างที่กำลังเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทยก็ถูกจับกุมส่วนผู้นำทางทั้ง 3 คน ได้อาศัยความชุลมุนวิ่งหลบหนีเข้าไปในไร่อ้อย ทิ้งพวกตนให้ถูกควบคุมตัวส่ง สภ.คลองน้ำใส เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ เปิดเผยว่าตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. – 8 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมาหลังมีคำสั่งปิดด่านชายแดน หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ สามารถจับกุมแรงงานชาวเขมรที่ลักลอบเข้าเมืองแล้วถึง 84 ครั้ง รวมจำนวน 329 คน
การจับกุมแต่ละครั้งสะท้อนให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากและสิ้นหวังของชาวกัมพูชา ที่ถูกกดดันให้กลับประเทศ แต่กลับไม่มีมาตรการรองรับจากรัฐบาลบ้านเกิดจนทำให้ต้องดิ้นรนกลับเข้ามาหางานในประเทศไทยแม้จะต้องเสี่ยงต่อการถูกจับกุมก็ตาม