ศูนย์ข่าวขอนแก่น - พี่สาวหลวงพ่ออลงกตแจงข้อมูลปีเกิดน้องชายชื่อเดิมคือ “เกรียงไกร เพ็ชรแก้ว” เกิดปี 2503 มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เผยไม่รู้เหตุผลทำไมต้องเปลี่ยนชื่อ ส่วนข้อมูลเกณฑ์ทหารไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเป็นระบบแฟ้ม จะถูกโละทิ้งหมดเมื่ออายุเกิน 20 ปี
หลังจากสืบค้นประวัติ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ พบว่าครอบครัวหลวงพ่ออลงกตเคยพักอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น พ่อเฉย ซึ่งเป็นพ่อของพระอลงกต ทำงานที่สำนักงานทางหลวงจังหวัดขอนแก่น กระทั่งพ่อเฉยเกษียณอายุราชการ และเสียชีวิต บรรดาพี่น้องต่างแยกย้ายครอบครัว โดยบ้านพักที่จังหวัดขอนแก่น ตกเป็นของพี่สาวหลวงพ่ออลงกต
ล่าสุดวันนี้ (25 ส.ค.) ที่บ้านของพี่สาวหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อยู่ในพื้นที่ตำบลพระลับ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยพี่สาวหลวงพ่ออลงกตปัจจุบันอายุ 70 กว่าปี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อมูลจากพี่สาวหลวงพ่ออลงกตให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวว่า ชื่อเดิมแต่แรกเกิดของหลวงพ่ออลงกตคือเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว ซึ่งเป็นนามสกุลของพ่อเฉย เพ็ชรแก้ว วันเดือนปีเกิด จำได้เพียง พ.ศ. เกิด คือ พ.ศ. 2503
ตอนที่พระอลงกตบวชนั้นไม่ได้บอกครอบครัว แต่มีลูกพี่ลูกน้องที่เป็นญาติกัน พาไปบวชแก้เคล็ดเพื่อที่จะเริ่มต้นทำมาหากินให้ราบรื่น ซึ่งเตรียมจะไปค้าขายที่กรุงเทพฯ พอสมควรแก่เวลาได้ไปชวนให้พระสึก%พื่อไปทำมาหากิน ปรากฏว่าหลวงพ่ออลงกตไม่ขอสึกขอเป็นพระต่อ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน แต่จำ พ.ศ. หรือจำอายุช่วงนั้นไม่ได้ว่าเท่าไหร่ เนื่องจากอายุมาก ความจำไม่ค่อยดี จำไม่ค่อยได้
ช่วงที่พระอลงกตเป็นพระอยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุนั้นตนได้ไปช่วยทำงานเป็นแม่ครัวดูแลเรื่องอาหารที่วัดประมาณ 3 ปี แต่สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงจึงกลับมาอยู่บ้านที่ขอนแก่น โดยบ้านหลังเดิมที่อยู่ชุมชนบะขามเกิดน้ำท่วมบ่อย จึงย้ายถิ่นฐานมาอยู่บ้านหลังปัจจุบันซึ่งลูกชายซื้อที่เอาไว้ให้ หลังจากตนไม่สบายสุขภาพไม่ค่อยดี กลับมาอยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้คุยติดต่อกับพระอลงกต นานทีได้คุยกันปีละครั้ง ช่วงที่พระอลงกตมาทำบุญที่ขอนแก่นทุกปีจะเจอกันครั้งหนึ่ง เป็นการทำบุญตามประเพณีของชาวอีสาน คือการทำบุญแจกข้าวอุทิศส่วนกุศลให้พ่อแม่ที่เสียชีวิต
พี่สาวพระอลงกตยังฝากถึงนักข่าวด้วยว่า อยากให้ทำหน้าที่ติดตามข่าวที่เป็นข้อเท็จจริง เผยแพร่ให้ตรงกับความเป็นจริง เพราะดูข่าวแล้วมีข้อมูลหลายอย่างไม่ตรง เช่นบอกว่ามีพี่น้องสองคน จริงๆ แล้วมีกันทั้งหมดหกคนและยังไม่มีใครเสียชีวิตโดยตนเป็นพี่สาวคนที่สอง ส่วนพระอลงกตเป็นน้องคนที่ห้า เรื่องการเปลี่ยนชื่อนั้นไม่ทราบว่าเอาชื่ออลงกต พลมุข มาจากไหนหรือเอาชื่อใครมา เปลี่ยนเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ มาทราบตอนมีข่าว และเหตุผลที่เปลี่ยนก็ไม่รู้เช่นกัน เพราะจะไม่ก้าวก่ายกัน ซึ่งจะมีคุณเฉลิมพล ประธานมูลนิธิธรรมรักษ์และเคยบวชมาด้วยกัน จะชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้ง
ส่วนการศึกษาพระลงกตนั้นเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย มาช่วยสร้างอาคารเรียนหลายอาคารแล้ว แต่จำ พ.ศ. จบไม่ได้ เรื่องเงินทองส่วนตัวก็ไม่ทราบเรื่องของพระอลงกต เพราะคงไม่มีใครมาชี้แจงหรือบอกว่าสร้างยังไง นำเงินไปทำอะไรแบบไหน ตนรู้เพียงว่ามาช่วยสร้างอาคารเรียนเท่านั้น
ส่วนที่วัดพระบาทน้ำพุ มีพี่ชายพระอลงกตอยู่ที่วัดด้วย เป็นพี่คนโตอยู่โครงการ 2,000 ไร่รักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ ที่ราชประชา 33 ช่วงที่พระอลงกตอยู่ขอนแก่นนั้น ตนไม่ค่อยทราบ หรือได้เกณฑ์ทหารหรือไม่ ล่าสุดที่เคยคุยกันคือปีนี้ช่วงเมษายนถึงพฤษภาคมที่พระอลงกตทำบุญที่ขอนแก่น ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบทั่วไป
พี่สาวพระอลงกตกล่าวต่อว่า หลังปรากฏเป็นข่าวก็ตกใจ ช่วงที่ตนอยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ มีการดองศพมีคนมาดูเป็นจำนวนมากก็ไม่เห็นมีอะไร เพิ่งจะมาเป็นเรื่องช่วงนี้ ที่ผ่านมาพระอลงกตทำแต่เรื่องดี สร้างตึกสร้างอาคารทำที่ 2,000 ไร่ให้ผู้ป่วยโรคเอดส์ แต่ข่าวที่เกิดขึ้นมีแต่ข่าวโจมตี ส่วนตัวไม่ได้ห่วงพระอลงกต เพราะพระอลงกตเป็นคนเก่ง ถ้าบอกไปถึงพระอลงกตได้ ก็คงบอกได้เพียงว่าช่วยอะไรไม่ได้ ก็ทำได้เพียงแต่พูดไปตามตรงที่เป็นความจริง
สำหรับประวัติทางทหารของพระอลงกตนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลทางทหาร ไม่พบข้อมูลของนายเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว หรือนายอลงกต พลมุข ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลว่าเนื่องจากเป็นระบบเก่าข้อมูลสมัยก่อนใช้วิธีการเก็บเอกสารเป็นแฟ้ม ยังไม่มีระบบเก็บเป็นข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบเก็บเป็นแฟ้มนั้นหากเกิน 20 ปีจะโละทิ้งตามอายุความ 20 ปี