สุรินทร์ - ชุด EOD เข้าตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานมัดเขมรยิงปืนใหญ่ จรวด BM-21 ถล่มบ้าน ชุมชน วัด รพ.พนมดงรัก กว่า 140 ลูก เพื่อเสนอข้อเท็จจริงต่อชาวโลก หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน อ.พนมดงรัก ปราสาทตาเมือนธม-ตาควาย เงียบไร้เสียงปืนเป็นวันที่สาม แต่ยังวางใจสถานการณ์ไม่ได้ ควบคุมตัวอีก 3 ชาวจีนลอบเข้าพื้นที่ชายแดนไม่แจ้ง เตรียมส่ง 18 เชลยทหารเขมรพรุ่งนี้
วันนี้ (31 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ สถานการณ์โดยทั่วไปยังคงปกติ ไม่มีเสียงปืนหรือเสียงการปะทะกันเกิดขึ้นที่ปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย เป็นวันที่สามแล้ว หลังมีการเจรจาหยุดยิง แต่ยังคงมีการเฝ้าระวังและจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ยังคงไว้วางใจไม่ได้ ทหารไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ในขณะเดียวกัน บรรยากาศโดยทั่วไปตามหมู่บ้านชุมชนต่างๆ ที่อำเภอพนมดงรัก บ้านเรือนประชาชนก็ยังคงปิดรวมไปถึงร้านค้าต่างปิดเป็นส่วนใหญ่ ส่วนผู้อพยพส่วนมากยังคงอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางการจัดไว้ให้ โดยผู้อพยพในขณะนี้ยังคงมีกำลังใจที่ดีส่วนมากอยากจะกลับเข้าบ้านแต่ต้องรอคำสั่งจากเจ้าหน้าที่เพื่อความปลอดภัย แต่มีบางรายกลับเข้าบ้านเนื่องจากเป็นห่วงสัตว์เลี้ยง ซึ่งได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า มีความมั่นใจเหตุการณ์สู้รบจะสงบลง แต่ถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงอีกครั้งก็พร้อมอพยพกลับไปที่ศูนย์พักพิงโดยทันที
ในช่วงบ่ายเดียววันนี้ เวลา 16.00 น. นายอำเภอพนมดงรัก ผู้กำกับการ สภ.ดงรัก เจ้าหน้าที่ทหาร ได้นำชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD จากหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ลงตรวจสอบพิสูจน์ทราบบริเวณจุดกระสุนตกในโรงพยาบาลอำเภอพนมดงรัก ซึ่งได้รับความเสียหายจากลูกกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกลงมาจำนวน 3 ลูก สร้างความเสียหายแก่อาคารพังเสียหาย ส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก จนต้องเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล ออกจากพื้นที่เร่งด่วนเพื่อความปลอดภัย ถือเป็นหนึ่งในจุดที่แสดงให้เห็นชัดเจนของฝ่ายทหารกัมพูชาที่ยิงกระสุนปืนมุ่งหวังเข้าทำร้ายประชาชนพลเรือนผู้บริสุทธิ์ รวมทั้งโรงพยาบาล ซึ่งไม่เคยมีประเทศไหนในโลกนี้ทำกัน พร้อมกันนี้ยังได้นำเจ้าหน้าที่ชุด EOD เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานยังบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายในพื้นที่อำเภอพนมดงรักทั้งหมดด้วย
ทั้งนี้ เพื่อเก็บรวบรวมเป็นพยานหลักฐานที่จะนำเสนอต่อเจ้าหน้าที่ประชาคมโลกให้ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการกระทำของทหารกัมพูชา มีข้อมูลจากอำเภอพนมดงรัก ซึ่งเป็นอำเภอที่จังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้เป็นเขตให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน จากที่เกิดความขัดแย้งชายแดน จนนำมาสู่การเปิดฉากปะทะกันด้วยอาวุธหนักที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. 2568 มาถึงวันที่ 28 ก.ค. 68 หลังจากมีการเจรจาหยุดยิงเกิดขึ้น พบว่ามีกระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกลงมาในพื้นที่ใกล้ชุมชน หมู่บ้าน เบื้องต้นกว่า 140 ลูก ตกลงในพื้นที่สร้างความเสียหายให้กับชุมชน บ้านเรือนราษฎร ที่สาธารณะ เช่น วัด กว่า 10 แห่ง แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยทางอำเภอ เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนในขณะนี้
นายเอกอนันต์ ศรีอินทร์ นายอำเภอพนมดงรัก กล่าวว่า เป็นเศษชิ้นส่วนของระเบิดที่ระเบิดแล้วจากการตรวจสอบทราบว่า การปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชาระหว่างวันที่ 24-28 กรกฎาคมที่ผ่านมาพบว่ามีจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของกัมพูชาตกลงมาในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก ที่ตรวจสอบเห็นเบื้องต้นจำนวน 140 ลูกและยังเหลือที่ยังไม่ได้ตรวจสอบอีกจำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.68) เวลา 10.00 น. ทหารไทยจะนำเชลยทหารกัมพูชาทั้ง 18 นายมาส่งมอบให้ทางการกัมพูชาที่ประตูด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
รายงานข่าวแจ้งว่า นักข่าวชาวจีน 3 คนที่ถูกจับตรวจสอบได้ที่อำเภอกาบเชิง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ถูกควบคุมตัวอีกรอบแล้วที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และได้ส่งให้ฝ่ายทหารสอบสวนแล้วเช่นกัน เพราะเข้าไปในพื้นที่โดยไม่แจ้งและผิดปกติ