เชียงใหม่ - ชาวสวนลำไยเชียงใหม่เซ็งราคาตกต่ำหนัก ขณะที่ผลผลิตเพิ่มมากกว่าปีก่อนแต่คุณภาพแย่ลง ทำใจเตรียมรับสภาพขาดทุน ขณะที่พาณิชย์จังหวัดเร่งวางมาตรการช่วยเหลือส่งเสริมการจำหน่ายและกระจายผลผลิตสู่ตลาดผู้บริโภค
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า เกษตรกรชาวสวนลำไยในพื้นที่อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ต่างกำลังสำรวจขนาดผลผลิตลำไยที่เตรียมจะเก็บส่งขาย แต่พบว่าผลผลิตลำไยยังไม่สามารถเก็บได้ในช่วงนี้เนื่องจากยังไม่โตเต็มที่ ที่ราคารับซื้อตกต่ำลงทุกวัน ส่งผลกระทบต่อชาวสวนลำไยอย่างหนัก เนื่องจากผลผลิตลำไยโซนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่แรกที่สามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้ บางส่วนยังไม่โตเต็มที่ โดยในฤดูการปลูกปี 2568 คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตลำไยมากกว่า 200,000 ตัน มากกว่าปี 2567 ถึงร้อยละ 4 ซึ่งจะส่งผลทำให้ราคาลดลงกว่าปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับลำไยอบแห้งทั้งเปลือก เป็นผลผลิตที่ส่งออกไปยังประเทศจีนมากที่สุด ประมาณ 6,000 ตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้ปีนี้ผลผลิตลำไยจะออกมามากกว่าความต้องการของตลาด
ทั้งนี้ นายวัฒนา อิ่นแก้วมูล เกษตรกรชาวสวนลำไยในอำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ราคาผลผลิตลำไยในฤดูปีนี้ถือว่าตกต่ำอย่างหนัก เนื่องจากผลผลิตมีจำนวนมาก ปีนี้ติดดอกออกผลกันมากกว่าหลายปีที่ผ่านมาด้วยสภาพดินฟ้าอากาศ และปริมาณน้ำฝนที่เป็นใจ โดยเฉพาะพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ที่ปีนี้มีฝนมากกว่าปกติ ทำให้ปริมาณลำไยติดผลดก และผลผลิตทยอยออกพร้อมๆ กันส่งผลทำให้ราคารับซื้อตกต่ำ นอกจากนี้ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน ลดการนำเข้าลำไยลง ก็มีผลต่อราคารับซื้อด้วยเช่นกัน ทำให้ชาวสวนต้องพิจารณาอีกครั้งหากถึงวันเก็บผลผลิตจะคุ้มค่ากับเงินทุนที่ลงไปหรือไม่
ด้านนางสาวโสพิตย์ ฤทธิศร หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์ จังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ได้ จัดทำแผนกระจายผลผลิตลำไยในฤดู โดยการเชื่อมโยงผลผลิตลำไยรูดร่วง ร่วมกับสมาคมลำไยอบแห้งภาคเหนือ เป้าหมายกระจายผลผลิตลำไยสด 18,000 ตัน โดยกำหนดราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อนำไปแปรรูปและส่งออก ส่งเสริมการจำหน่ายออนไลน์และบริโภคภายในประเทศ เพื่อรองรับการกระจายผลผลิตที่มีมากกว่าปกติ และยังมีช่องทางจำหน่ายด้วยราคาที่เป็นทำกับเกษตรกรมากที่สุด
ขณะที่ข้อมูลจาก ผศ.พาวิน มโนชัย นักวิชาการด้านการผลิตลำไยคุณภาพ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ พบว่า ตามปกติผลผลิตลำไยจากประเทศไทยจะส่งไปที่ประเทศจีนเป็นหลัก การกำหนดราคารับซื้อจึงขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง และข้อสำคัญคือ ผลผลิตลำไยภาคเหนือยังไม่ได้มาตรฐานตามที่ตลาดต้องการจึงทำให้ราคาถูกกำหนดจากผู้ซื้อ และปัจจัยสำคัญปีนี้ผลผลิตมีมากกว่าความต้องการของตลาดทำให้ราคาตกต่ำ ซึ่งคาดการณ์ว่าลำไยนอกฤดูการผลิตปี 2569 จะมีราคาสูง แต่จะไม่เหลือต้นในการผลิตลำไยนอกฤดูในปี 2569 มากนัก จึงทำให้ลำไยนอกฤดูมีราคาสูงแต่จะมีผลผลิตน้อย
