สระบุรี - ภรรยานายแพทย์นิติเวชโพสต์คลิปวิดีโอแฉ จนท.รพ.รัฐ เมาแล้วขับรถหลวงพุ่งชนกลางเมืองสระบุรี ขณะปฏิบัติหน้าที่ กล้องหน้ารถจับภาพชัดเจน เป่าแอลกอฮอล์ได้ 126 mg แต่กลับเงียบ ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบ ชี้ค่าชดเชย 4 หมื่นไม่สมเหตุสมผล
วันนี้( 23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีผู้ใช้แพลตฟอร์ม TikTok ชื่อ yui_amonwan789 ได้โพสต์คลิปวิดีโอกล้องหน้ารถยนต์ พร้อมข้อความร้องขอความเป็นธรรมว่า “จะจัดการยังไงกับเจ้าหน้าที่ของรัฐขับรถหลวง (สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข) เมาแล้วขับขณะปฏิบัติหน้าที่ (เป่าได้ 126 mg) ยังไม่ได้รับความรับผิดชอบเลย” พร้อมแฮชแท็ก #เมาแล้วขับ #ถามหาความยุติธรรม
ภาพในคลิปดังกล่าว เป็นเหตุการณ์รถยนต์กระบะสีขาว ขับพุ่งออกมาจากซอยศาลหลักเมืองในตัวเมืองสระบุรี ด้วยความเร็ว ก่อนจะพุ่งชนเข้ากับรถเก๋งโตโยต้า แคมรี่ สีเทา อย่างแรง จนรถเก๋งพุ่งกระแทกติดกำแพงและได้รับความเสียหายหนัก โดยผู้โพสต์ระบุว่า คนขับรถกระบะเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐ ขณะปฏิบัติหน้าที่ และอยู่ในอาการมึนเมา
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและพบกับผู้เสียหาย คือ นางอมลวรรณ ลิ้มสุธรรมชน และ นายแพทย์ณัฐวุฒิ ลิ้มสุธรรมชน นายแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลสระบุรี ซึ่งเป็นเจ้าของรถเก๋งคันที่ถูกชน โดยทั้งสองได้นำคลิปเหตุการณ์ พร้อมหลักฐานต่าง ๆ มาเปิดเผย รวมถึงกลิ่นแอลกอฮอล์ในรถคู่กรณี และแก้วพลาสติกใส่น้ำลักษณะคล้ายเบียร์ ที่พบในรถเจ้าหน้าที่รัฐ
นางอมลวรรณ กล่าวทั้งน้ำตาว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะขณะอยู่ในหน้าที่ราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขซึ่งควรเป็นแบบอย่างแก่สังคม
“เราในฐานะคนทำงานด้านสาธารณสุข ก็สอนประชาชนว่าเมาไม่ขับ แต่คนในกระทรวงกลับทำเสียเอง ยังไม่พอ ยังไม่รับผิดชอบ แถมเสนอค่าชดเชยแค่ 40,000 บาท ทั้งที่รถของเรายังใช้งานดี มีคุณค่าทางใจมาก” นางอมลวรรณ กล่าว
ด้าน นายแพทย์ณัฐวุฒิ เล่าถึงเหตุการณ์ว่า เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ขณะขับรถกลับจากอู่ซ่อมรถ บริเวณถนนศาลหลักเมือง จู่ ๆ รถกระบะคู่กรณีขับพุ่งออกมาด้วยความเร็ว ทำให้ชนเข้าอย่างจังจนรถตัวเองกระแทกติดกำแพง ถุงลมระเบิด แว่นตาหลุดกระเด็นออกจากหน้า
“ตอนนั้นผมยังไม่ทันได้เหยียบเบรก ก็โดนชนแล้ว แรงกระแทกทำให้ประตูเปิดไม่ออก ต้องดันตัวเองออกมา พอไปดูคนขับอีกฝ่ายก็พบว่าอยู่ในอาการมึนงง มีกลิ่นแอลกอฮอล์ และพบแก้วเบียร์ในรถ”
ภายหลังแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าผู้ขับขี่รถหลวงรายดังกล่าวเป่าแอลกอฮอล์ได้ 126 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ขณะที่นายแพทย์ณัฐวุฒิ ผลตรวจเป็นศูนย์ชัดเจน และได้ดำเนินการตามขั้นตอนเรียบร้อย
ผู้เสียหายเผยอีกว่า หลังเกิดเหตุ ได้รับการติดต่อจากหัวหน้าพยาบาล และต่อมามีการนำกระเช้ามาเยี่ยม พร้อมเสนอค่าชดเชย 40,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวมองว่าไม่เหมาะสม เพราะรถเก๋งคันดังกล่าวยังใช้งานได้ดี และมีคุณค่าทางใจมากกว่าตัวเลขที่เสนอ
“ผมแค่ต้องการรถใหม่ในรุ่นเดิม เพราะรถนี้เราใช้งานจริง เป็นแคมรี่ที่ดูแลมาดีมาก ไม่ใช่แค่ทรัพย์สิน แต่มันคือความรู้สึก มันเจ็บมากที่ต้องมานั่งรับผิดแทนความผิดของคนอื่น” นายแพทย์ณัฐวุฒิ กล่าว
ทั้งสองจึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ กระทรวงสาธารณสุข เร่งดำเนินการรับผิดชอบอย่างเหมาะสม อย่าให้เรื่องเงียบหรือปล่อยให้ประชาชนที่ทำถูกต้องต้องแบกรับภาระเพียงฝ่ายเดียว
