นครสวรรค์ - คณะเจ้าหน้าที่ทั้ง บก.ปปป.-ป.ป.ท.-ชุดสืบสวน ตร.สอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบเอกสาร-เส้นเงินวัดนครสวรรค์ โยงอดีตเจ้าอาวาส-สีกาที่เกี่ยวข้อง ระบุต้องดูเพิ่มอีกรอบวันนี้ ขณะที่สาวนิรนามโผล่อ้างลูกน้องคนทำความสะอาด-แม่บ้านในวัดบอกมักมีสาวคนสนิทดูมีฐานะขึ้นกุฏิกลางดึกเป็นประจำ
กรณีอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ต้องแหกพรรษาลาสิกขากลางดึกเกือบเที่ยงคืน หลังถูกร้องเรียนปมความสัมพันธ์กับสีกาและการทุจริตเงินวัดจำนวนมากนั้น เมื่อเวลาเย็นวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 พ.ต.อ.สมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ท. และชุดสืบสวนจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบภายในวัดนครสวรรค์เพื่อรวบรวมเอกสารทางการเงินของวัด พร้อมตรวจเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงถึงอดีตเจ้าอาวาส-สีกาที่เกี่ยวข้อง
พระครูสุธาธรรมบัณฑิต ดร. ผู้ช่วยเจ้าอาวาส พร้อมคณะกรรมการวัดและพระลูกวัด ได้นำเอกสารบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะกระจายกำลัง 3 ชุดตรวจค้นเอกสารจากสำนักงานเจ้าอาวาส สำนักงานขายวัตถุมงคล และพื้นที่สำนักงานชั่วคราวของรองอธิการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์
พ.ต.อ.ศานุวงษ์เปิดเผยว่า ดูเอกสารระยะ 10 ปีย้อนหลัง ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินหรือเอกสารที่ชัดเจน แต่มีบางปี/บางรายการเอกสารสูญหาย ต้องรอตรวจสอบต่อในวันรุ่งขึ้น (22 ก.ค.) พร้อมยืนยันว่า ป.ป.ป.จะเรียกผู้เกี่ยวข้องอย่างน้อย 4-5 ราย รวมถึงไวยาวัจกรวัด มาให้ปากคำ โดยยังไม่อายัดทรัพย์ เพียงห้ามเคลื่อนย้ายก่อนการสอบสวนแล้วเสร็จ
นอกจากนี้จะมีการขยายผลไปยังโครงการก่อสร้างพุทธอุทยานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตนครสวรรค์ ที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง-การเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งต้องตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด
ขณะเดียวกัน เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ขณะผู้สื่อข่าวกำลังปักหลักรายงานข่าวอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์อยู่นั้น ได้มีหญิงสาวรายหนึ่ง สวมเสื้อคลุมสีเขียวอ่อนออกเหลือง สวมหน้ากากอนามัย เดินเข้ามาหาสื่อมวลชน พร้อมระบุว่าตนมีข้อมูลพฤติกรรมไม่เหมาะสมของอดีตเจ้าอาวาส
หญิงนิรนามรายดังกล่าวอ้างว่าเคยมีลูกน้อง ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านในวัด มายืนยันว่าช่วงกลางดึกมักมีหญิงสาวดูมีฐานะเข้า-ออกกุฏิอดีตเจ้าอาวาสอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะช่วง 4-5 ทุ่ม และพฤติกรรมดังกล่าวกลายเป็นที่กล่าวขานของชาวบ้านในละแวกวัดจนหลายคนไม่กล้าเข้ามาทำบุญ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นร้องเรียนเกี่ยวกับค่าเช่าที่ดินของวัด โดยหญิงรายนี้ระบุว่า มีการเรียกเก็บค่าเช่าสูงเกินจริง และไม่โปร่งใส เนื่องจากเงินค่าเช่าที่ชาวบ้านโอนให้วัดแต่ละเดือนมีจำนวนมาก แต่กลับไม่มีความชัดเจนว่าเงินเหล่านั้นถูกนำไปใช้ประโยชน์ใด
“ที่น่าผิดหวังคือ ได้ยินมาว่าเงินค่าเช่าเหล่านี้ส่วนหนึ่งอาจถูกนำไปให้สีกาคนสนิท ทำให้ชาวบ้านจำนวนมากเริ่มไม่พอใจ และรู้สึกว่าเงินทำบุญไม่ได้ถูกนำไปใช้ในทางศาสนาอย่างแท้จริง” หญิงนิรนามกล่าว
สำหรับการตรวจสอบครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ป.ยืนยันว่าจะเร่งรวบรวมหลักฐานและเอกสารให้ครบถ้วน ก่อนพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย หากพบความผิดชัดเจนจะลงโทษทั้งทางอาญา และวินัยสงฆ์ต่อไป