ราชบุรี – ปลัดอำเภอนำทีมปกครอง สนธิกำลังหลายหน่วยงาน บุกจู่โจมตรวจค้นโรงเผากะลามะพร้าว หลังชาวบ้านร้องเรียนผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสงสัยใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย ผลปฏิบัติการกวาดจับแรงงานเถื่อนได้ 1 ราย พร้อมรวบวัยรุ่นพกยาบ้า 8 เม็ด ปืนเถื่อน 1 กระบอก ย้ำเดินหน้านโยบายรัฐบาลปราบปรามยาเสพติดและจัดระเบียบสังคมต่อเนื่อง
วันนี้ (21 ก.ค.) นายวัชรชัย สมีรักษ์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอปากท่อ ประกอบด้วย นายลือชา วงศ์เปี่ยม ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง, นายธีระเกียรติ ทะแพงพันธ์ ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) ฝ่ายความมั่นคง
พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดราชบุรี, เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชบุรี (กอ.รมน.จว.รบ.), เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.), กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ตำบลยางหัก และประชาชนจิตอาสา ลงพื้นที่ตรวจสอบการประกอบกิจการเผากะลามะพร้าว บริเวณบ้านห้วยศาลา หมู่ที่ 7 ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ภายหลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย
จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่เตาเผาถ่านกะลามะพร้าว เจ้าหน้าที่พบกลุ่มบุคคลที่มีลักษณะคล้ายแรงงานต่างด้าวกำลังปฏิบัติงานอยู่จำนวนหนึ่ง และบางส่วนพยายามหลบหนีเข้าไปในป่ารกข้างเคียง แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ทั้งหมดประมาณ 20 ราย
ต่อมา เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดราชบุรีได้ทำการคัดกรองแรงงาน พบว่ามี นายโลน สัญชาติกระเหรี่ยง กระทำความผิดฐานทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน โดยให้การว่าได้รับค่าจ้างเฉลี่ย 1,000 – 2,000 บาท ทุก 15 วัน เป็นระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561
ขณะเดียวกัน ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอปากท่อและเจ้าหน้าที่ ชรบ.อ.ปากท่อ ได้ขยายผลการตรวจค้นในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบชายวัยรุ่นอายุประมาณ 19 ปี ไม่ทราบชื่อและสัญชาติ มีท่าทางต้องสงสัย จึงทำการตรวจค้น พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 8 เม็ด, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์แบบแก๊ป 1 กระบอก พร้อมด้วยดินปืน ดินประสิว และแก๊ปจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับยาเสพติดและกฎหมายควบคุมอาวุธปืนต่อไป
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบว่าพื้นที่บางส่วนของโรงงานเผากะลาได้บุกรุกเข้าไปในเขตพื้นที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดพื้นที่คืน เพื่อดำเนินการตามระเบียบของกรมป่าไม้ต่อไป พร้อมทั้งจัดทำบันทึกผลการปฏิบัติการเพื่อส่งมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมาย
นายวัชรชัย กล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลจากการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ทั้งฝ่ายปกครอง สำนักงานจัดหางาน กอ.รมน. และหน่วยงานอื่นๆ ในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการจัดระเบียบสังคม ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม แรงงานผิดกฎหมาย และการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่อย่างจริงจัง เพื่อสร้างความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงให้กับประชาชนในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน และจะเดินหน้ากวาดล้างยาเสพติดอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
