นครปฐม – พรรคพลังแม้ว พปช.มีแววคว้าเก้าอี้ 4 ที่นั่งจาก 5 เก้าอี้ ส.ส.เมืองส้มโอค่อนข้างแน่นอน
วันที่ 23 ธ.ค.50 เวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าว รายงานบรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมี 2 เขตการเลือกตั้ง โดยการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ในพื้นที่เขตที่ 1 ซึ่งประกอบด้วย อำเภอเมืองนครปฐม อำเภอนครชัยศรี และอำเภอกำแพงแสน มี ส.ส.ได้ 3 คน
โดยล่าสุดอันดับที่ 1 ได้แก่นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร หมายเลข 10 จากพรรคชาติไทย ได้คะแนน 111,233 คะแนน อันดับที่ 2 นายอนุชา สะสมทรัพย์ (น้องคนเล็กตระกูลสะสมทรัพย์ อดีต สว.นครปฐม) หมายเลข 4 จากพรรคพลังประชาชน ได้ 109,921 คะแนน อันดับที่ 3 ได้แก่ นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ หมายเลข 6 จากพรรคพลังประชาชน ได้ 77,583 คะแนนตามมาด้วย นายสุเทพ เข้มแข้งปรีชานนท์ หมายเลข 1 จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 72,569 คะแนน ส่วน ร.ต.ชยกฤต ประทุมารักษ์ จากพรรคพลังประชาน หมายเลข 65,414 คะแนน ซึ่งทั้ง 3 อันดับแรก เป็นไปตามคาดที่ตั้งเป้าหมาย คือพรรคพลังประชาชน กวาดไป 2 เก้าอีจาก 3 เก้าอี้ในเขตที่ 1
ส่วนเขตที่ 2 ประกอบด้วย อำเภอบางเลน อำเภอดอนตูม อำเภอสามพราน อำเภอพุทธมณฑล มี ส.ส.ได้ 2 คน ซึ่ง อันดับที่ 1 ได้แก่นายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร ผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชน หมายเลข 12 ได้คะแนน 79,902 คะแนน อันดับที่ 2 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ (พี่ชายคนโตตระกูลสะสมทรัพย์) ผู้สมัครหมายเลข 11 พรรคพลังประชาชน ได้รับคะแนน 75,530 คะแนน ตามมาด้วย นายปฐมพงษ์ สูญจันทร์ ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคชาติไทย ได้รับคะแนน 38,754 คะแนน
โดยถึงขณะนี้ค่อนข้างจะแน่นอน แล้วว่า นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร (พรรคชาติไทย) นายอนุชา สะสมทรัพย์ (พรรคพลังประชาชน) นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ (พรรคพลังประชาชน) จะได้รับตำแหน่ง ส.ส.เขตที่ 1 และนายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร (พรรคพลังประชาชน) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ (พรรคพลังประชาชน) นั้นได้รับตำแหน่ง ส.ส.ในเขตที่ 2 โดย พรรคพลังประชาชน นั้นได้รับการเลือกตั้ง 4 คน จาก 5 คนในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งก่อน หน้า ตระกูลสะสมทรัพย์ นั้นสามารถสอบผ่านการเลือกตั้งไปได้อีกสมัย หลังจากเมื่อสมัยที่ผ่านมา ตระกุลสะสมทรัพย์ นั้นสามารถนำส.ส. จากอดีตพรรคไทยรักไทย คว้าตำแหน่งเก้าอี้ ส.ส.ได้ครบทุกตำแหน่งมาแล้ว
ส่วนการนับคะแนนส.ส.แบบสัดส่วน ในพื้นที่เขต 7 การนับคะแนนล่าสุด จนถึงเวลา 20.00 น. อันดับที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับคะแนน 1,305,644 คิดเป็นร้อยละ 47.75 คะแนน อันดับที่ 2 พรรคพลังประชาชน ได้รับคะแนน 760,263 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 27.8 อันดับที่ 3 พรรคชาติไทย ได้รับคะแนน 410,980 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 15.03 อันดับที่ 4 พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้รับคะแนน 63,176 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 2.31 เปอร์เซ็นต์ อันดับที่ 5 พรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้รับคะแนน 39,737 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 1.45 ซึ่งในจังหวัดนครปฐม ยังมี นายไชยา สะสมทรัพย์ นั้นลงสมัครในนามพรรคประชาชน อันดับที่ 2 พื้นที่เขต 7 คาดว่าจะมีตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่อีกด้วย
โดย นายชนินทร์ บัวประเสริฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่าหลังปิดหีบเลือกตั้งเมื่อเวลา 15.00 น. ได้มีการตรวจสอบยอดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซึ่งจังหวัดนครปฐมมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกว่าร้อยละ 75 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการเลือกตั้งมา แสดงให้เห็นว่าคนนครปฐมตื่นตัวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อหวังเลือกคนดีเข้าไปทำหน้าที่ในสภา ส่วนปัญหาในการเลือกตั้งวันนี้พบว่ามีเพียงเรื่องความไม่เข้าใจในการใช้สิทธิเท่านั้น
ส่วนเรื่องของปัญหาเรื่องของการทุจริตพบว่านครปฐมเป็นพื้นที่ที่่ไม่มีปัญหาเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงทั้งนี้เนื่องจากทางจังหวัดเองได้มีการรณรงค์เรื่องของการไม่ซื้อสิทธิขายเสียงมาตลอด อีกทั้งยังเป็นจังหวัดแรกที่เดินหน้ารณรงค์ในเรื่องนี้ และที่สำคัญยังได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ให้มีการซื้อสิทธิ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากผู้สมัครและประชาชนทั่วไป จึงอยากขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ และท้ายสุดยังฝากไปถึงการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมของปีหน้าขอให้ประชาชนร่วมกันออกไปใช้สิทธิอีกครั้ง
วันที่ 23 ธ.ค.50 เวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าว รายงานบรรยากาศการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ ในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมี 2 เขตการเลือกตั้ง โดยการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ในพื้นที่เขตที่ 1 ซึ่งประกอบด้วย อำเภอเมืองนครปฐม อำเภอนครชัยศรี และอำเภอกำแพงแสน มี ส.ส.ได้ 3 คน
โดยล่าสุดอันดับที่ 1 ได้แก่นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร หมายเลข 10 จากพรรคชาติไทย ได้คะแนน 111,233 คะแนน อันดับที่ 2 นายอนุชา สะสมทรัพย์ (น้องคนเล็กตระกูลสะสมทรัพย์ อดีต สว.นครปฐม) หมายเลข 4 จากพรรคพลังประชาชน ได้ 109,921 คะแนน อันดับที่ 3 ได้แก่ นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ หมายเลข 6 จากพรรคพลังประชาชน ได้ 77,583 คะแนนตามมาด้วย นายสุเทพ เข้มแข้งปรีชานนท์ หมายเลข 1 จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 72,569 คะแนน ส่วน ร.ต.ชยกฤต ประทุมารักษ์ จากพรรคพลังประชาน หมายเลข 65,414 คะแนน ซึ่งทั้ง 3 อันดับแรก เป็นไปตามคาดที่ตั้งเป้าหมาย คือพรรคพลังประชาชน กวาดไป 2 เก้าอีจาก 3 เก้าอี้ในเขตที่ 1
ส่วนเขตที่ 2 ประกอบด้วย อำเภอบางเลน อำเภอดอนตูม อำเภอสามพราน อำเภอพุทธมณฑล มี ส.ส.ได้ 2 คน ซึ่ง อันดับที่ 1 ได้แก่นายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร ผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชน หมายเลข 12 ได้คะแนน 79,902 คะแนน อันดับที่ 2 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ (พี่ชายคนโตตระกูลสะสมทรัพย์) ผู้สมัครหมายเลข 11 พรรคพลังประชาชน ได้รับคะแนน 75,530 คะแนน ตามมาด้วย นายปฐมพงษ์ สูญจันทร์ ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคชาติไทย ได้รับคะแนน 38,754 คะแนน
โดยถึงขณะนี้ค่อนข้างจะแน่นอน แล้วว่า นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร (พรรคชาติไทย) นายอนุชา สะสมทรัพย์ (พรรคพลังประชาชน) นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ (พรรคพลังประชาชน) จะได้รับตำแหน่ง ส.ส.เขตที่ 1 และนายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร (พรรคพลังประชาชน) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ (พรรคพลังประชาชน) นั้นได้รับตำแหน่ง ส.ส.ในเขตที่ 2 โดย พรรคพลังประชาชน นั้นได้รับการเลือกตั้ง 4 คน จาก 5 คนในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งก่อน หน้า ตระกูลสะสมทรัพย์ นั้นสามารถสอบผ่านการเลือกตั้งไปได้อีกสมัย หลังจากเมื่อสมัยที่ผ่านมา ตระกุลสะสมทรัพย์ นั้นสามารถนำส.ส. จากอดีตพรรคไทยรักไทย คว้าตำแหน่งเก้าอี้ ส.ส.ได้ครบทุกตำแหน่งมาแล้ว
ส่วนการนับคะแนนส.ส.แบบสัดส่วน ในพื้นที่เขต 7 การนับคะแนนล่าสุด จนถึงเวลา 20.00 น. อันดับที่ 1 พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับคะแนน 1,305,644 คิดเป็นร้อยละ 47.75 คะแนน อันดับที่ 2 พรรคพลังประชาชน ได้รับคะแนน 760,263 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 27.8 อันดับที่ 3 พรรคชาติไทย ได้รับคะแนน 410,980 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 15.03 อันดับที่ 4 พรรคเพื่อแผ่นดิน ได้รับคะแนน 63,176 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 2.31 เปอร์เซ็นต์ อันดับที่ 5 พรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้รับคะแนน 39,737 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 1.45 ซึ่งในจังหวัดนครปฐม ยังมี นายไชยา สะสมทรัพย์ นั้นลงสมัครในนามพรรคประชาชน อันดับที่ 2 พื้นที่เขต 7 คาดว่าจะมีตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่อีกด้วย
โดย นายชนินทร์ บัวประเสริฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดเผยว่าหลังปิดหีบเลือกตั้งเมื่อเวลา 15.00 น. ได้มีการตรวจสอบยอดผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งซึ่งจังหวัดนครปฐมมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งกว่าร้อยละ 75 ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีการเลือกตั้งมา แสดงให้เห็นว่าคนนครปฐมตื่นตัวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ เพื่อหวังเลือกคนดีเข้าไปทำหน้าที่ในสภา ส่วนปัญหาในการเลือกตั้งวันนี้พบว่ามีเพียงเรื่องความไม่เข้าใจในการใช้สิทธิเท่านั้น
ส่วนเรื่องของปัญหาเรื่องของการทุจริตพบว่านครปฐมเป็นพื้นที่ที่่ไม่มีปัญหาเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียงทั้งนี้เนื่องจากทางจังหวัดเองได้มีการรณรงค์เรื่องของการไม่ซื้อสิทธิขายเสียงมาตลอด อีกทั้งยังเป็นจังหวัดแรกที่เดินหน้ารณรงค์ในเรื่องนี้ และที่สำคัญยังได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งไม่ให้มีการซื้อสิทธิ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากผู้สมัครและประชาชนทั่วไป จึงอยากขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ และท้ายสุดยังฝากไปถึงการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมของปีหน้าขอให้ประชาชนร่วมกันออกไปใช้สิทธิอีกครั้ง