นครปฐม - พ่อเลี้ยงโหดหวงลูกสาว วัย 15 ปี ที่ติดมาจากภรรยาเกินเหตุ ใช้มีดแทงอาการสาหัส ส่วนเจ้าตัวหลังก่อเหตุซดยาฆ่าหญ้าผูกคอหวังหนีความผิด อาการร่อแร่ ฝ่ายแม่ของเด็กหญิงเผยก่อนเกิดเหตุบุตรสาวได้บอกช่วงปิดเทอมจะชวนเพื่อนชายที่สนิทกันมาเที่ยวที่บ้าน ทำให้พ่อเลี้ยงไม่พอใจ พอเผลอจึงได้ก่อเหตุขึ้น
วันนี้ (2 ต.ค.) เวลา 11.50 น.เจ้าหน้าที่วิทยุกู้ชีพโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม รับแจ้งจาก รพ.สามพราน ว่า จะมีผู้ป่วย 2 รายถูกนำตัวส่งมารักษาตัว ซึ่งรายแรกเป็นหญิงถูกแทงด้วยมีดเข้าที่ใต้ราวนมซ้าย ส่วนอีกรายเป็นชายกินยาฆ่าหญ้าและผูกคอตายอาการสาหัส จึงได้ประสานทีมแพทย์พยาบาลไว้ เพื่อให้การช่วยเหลือ
โดยเมื่อรถของ รพ.สามพราน 2 คัน นำผู้ป่วยมาส่งที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ศูนย์นครปฐม ทราบชื่อผู้ป่วยรายแรก น.ส.สุดารัตน์ งาสวัสดิ์ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนสามพรานวิทยา มีบาดแผลถูกแทงด้วยมีดเข้าที่บริเวณใต้ราวนมซ้าย เฉียดใต้หัวใจทะลุปอด 1 แผล อาการสาหัส ส่วนฝ่ายชายทราบชื่อ คือ นายดำเนิน โทป้อมอ่อน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.1 ต.โคกสูง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ มีร่องรอยถูกรัดด้วยเชือกที่รอบลำคอ และอาการดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมาน น้ำลายฟูมปาก เนื่องจากดื่มยาฆ่าหญ้าเข้าไปเป็นจำนวนมาก
ทีมแพทย์พยาบาลได้ช่วยปฐมพยาบาล น.ส.สุดารัตน์ จนอาการอยู่ในขั้นปลอดภัย แต่ยังอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิด ส่วน นายดำเนิน นั้นหมดสติ ซึ่งอาการยังน่าวิตกเป็นตายเท่ากัน
นางสุจิตรา ยิ้มสำราญ อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่บ้านเลขที่ 40/2 ม.1 ต.สามพราน อ.สามพราน จ.นครปฐม เล่าด้วยน้ำตานองหน้า ว่า น.ส.สุดารัตน์ เป็นบุตรสาวของตนเอง กับสามีเก่า ส่วน นายดำเนิน อายุ 40 ปี เป็นสามีใหม่ และเป็นพ่อเลี้ยงของ น.ส.สุดารัตน์ ซึ่งอยู่กินกันมานาน 5 ปี โดยก่อนเกิดเหตุ ช่วงเช้า ตนได้เตรียมตัวเพื่อจะออกจากบ้าน เพื่อจะไปบ้านพี่สาว ซึ่ง น.ส.สุดารัตน์ ลูกสาวได้มาบอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมจะชวนเพื่อนชายที่มีความสนิทสนมกันมาเที่ยวที่บ้านเพื่อให้พ่อแม่รู้จัก
เมื่อ นายดำเนิน ได้ยินเข้าจึงได้หันไปถามลูกเลี้ยงด้วยน้ำเสียงโมโห ว่า จะชวนเพื่อนชายมาที่บ้าน ทำไม ซึ่งตนได้ทักท้วงไปว่า ไม่น่าจะเป็นอะไรและทั้งคู่ก็ได้คุยกันเป็นปกติหยอกล้อกันเหมือนเดิม ส่วนตนก็ได้ออกจากบ้านไป โดยไม่มีสิ่งผิดปกติใดๆ
นางสุจิตรา เล่าอีกว่า กระทั่งเวลา 11.30 น.บุตรชายคนเล็ก ซึ่งเป็นลูกของตนได้วิ่งหน้าตื่นมาบอกว่า น.ส.สุดารัตน์ ถูกพ่อเลี้ยงเอามีดแทง ด้วยความตกใจจึงวิ่งจากบ้านพี่สาวมาดู ปรากฏว่า พบลูกสาว นอนอยู่ฟุบที่หน้าบ้านโดยเอามือกุมอยู่ที่บาดแผล และบอกว่า ถูกพ่อเอามีดแทง และสลบไปตนจึงได้บอกให้ญาติโทร.ตามตำรวจ ส่วนตนวิ่งเข้าไปดูในบ้านก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่า นายดำเนิน ได้ผูกคอตัวเองห้อยกับขื่อบ้านตรงกลางบ้าน มีน้ำลายฟูมปาก และมียาฆ่าหญ้า และมีดปอกผลไม้ตกอยู่ตรงพื้นบ้าน จึงได้ให้ญาติมาช่วยกันนำตัวลงมาส่ง รพ.สามพราน และเห็นว่า ทั้งคู่อาการสาหัส จึงได้ส่งตัวมารักษาอาการที่ รพ.ศูนย์นครปฐม
นางสุจิตรา เล่าอีกว่า หลังจากนั้น ตนได้พบตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์มาที่บ้านพักและได้แนะนำให้เอามีดไปที่ สภ.อ.สามพราน เพื่อแจ้งความเป็นหลักฐาน กระทั่งไปพบร้อยเวรและได้แจ้งเรื่องให้ทราบ แต่พบว่านายตำรวจคนดังกล่าวกลับไม่สนใจ และหันไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานแบบไม่สนใจ ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว จึงได้ทิ้งมีดไว้ที่โรงพักและรีบมาดูลูกสาว และระหว่างที่รอดูอาการบุตรสาวก็ยังไม่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาหาตนแต่อย่างใด โดยไม่เข้าใจว่า ทำไมจึงไม่ได้รับความสนใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นจากการสอบถามคาดว่า หลังจาก นางสุจิตรา ได้ออกมาจากบ้านพักทั้งคู่น่าจะมีปากเสียงกันต่อจนนายดำเนิน นั้นเกิดอารมณ์โมโห จึงได้คว้ามีดแทงลูกเลี้ยงและคิดว่าคงจะเสียชีวิต ก่อนจะกลัวความผิดและไปคว้ายาฆ่าหญ้ามาดื่มก่อนจะใช้เชือกผูกคอตาย แต่ก็ยังต้องรอสอบถาม น.ส.สุดารัตน์ หลังจากอาการดีขึ้น เนื่องจากทางญาติๆ นั้นยังสงสัยว่าจะมีเรื่องชู้สาวเข้าไปพัวพันด้วยหรือไม่ เนื่องจากปมขัดแย้งมาจากเรื่องการเปิดตัวเพื่อนหนุ่มของ น.ส.สุดารัตน์ หากทะเลาะกันปกติคงไม่รุนแรงถึงขั้นนี้