นครปฐม – ตำรวจเมืองนครปฐม นำกำลังบุกรวบแก๊งโจรกรรมรถยนต์ ได้พร้อมของกลางเป็นรถยนต์หลายคัน นำตัวไปสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (25 ก.ย.) เวลา 16.00 น.พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.อ.เมืองนครปฐม พร้อมด้วย พ.ต.ท.เจนณรงค์ สมเสถียร สว.สป. ร.ต.ท.อชิรวัตติ์ ถาวรเจริญวัฒน์ รอง สวป.และเจ้าหน้าชุดป้องกันและปราบปราม นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาแก๊งโจรกรรมรถรายใหญ่ที่ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายฉัตรเจริญพันธ์ หรือ มด ฉัตรเจริญพร อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.5 ต.แก้มอ้น อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งปัจจุบันได้มาพักอาศัยที่บ้านเลขที่ 25 ม.4 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมด้วยของกลางรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อออนด้าแจ๊ซ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สม 8052 กรุงเทพฯ 1 คัน รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ซ สีน้ำเงินหมายเลขทะเบียน ศจ 418 กรุงเทพฯ 1 คัน รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิไตรตัน สีแดง หมายเลขทะเบียน บฉ 5158 กระบี่ 1 คัน แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ที่ได้โจรกรรมมา 11 อัน และเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์อีกหลายสิบรายการ ตามหมายจับกุมของศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.957/2550 ลงวันที่ 24 ก.ย.2550 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม
ในการจับกุมดังกล่าว เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2550 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิทยุ สภ.อ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งจาก น.ส.กุลวรา เลิศสิทธิชัย อายุ 26 ปี นักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะการจัดการภาครัฐและเอกชน ว่า รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ซ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน สม 8052 กรุงเทพฯ ของตนเองที่ได้จอดไว้ในมหาวิทยาลัยได้หายไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนว่า ผู้เสียหายได้รู้จักกับ นายวิโรจน์ ฉัตรเจริญพร ซึ่งเป็นพ่อค้าขายรถยนต์มือสอง โดยได้แนะนำขายเครื่องเสียงติดรถยนต์พร้อมจอโทรทัศน์ให้ 1 ชุด ในราคา 7 พันบาท จึงได้มอบให้ไปติดตั้งแต่ไม่ทราบว่าเป็นที่ใด และรถยนต์ก็ได้มาสูญหายไปดังกล่าว
จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุม นายวิโรจน์ มาทำการสอบสวนและทราบว่ามีพี่ชาย คือ นายฉัตรเจริญพันธ์ ฉัตรเจริญพร ซึ่งมีพฤติกรรมทำตัวคุ้นเคยกับคนทั่วไป และจะตีสนิทกับเหยื่อหากรายใดให้ยืมรถยนต์ก็จะมีการนำไปปั๊มกุญแจ ก่อนจะติดตามมาโจรกรรมภายหลัง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบค้นไปยังบ้านเลขที่ 25 ม.4 ต.หนองงูเหลือม และพบเอกสารต่างๆ เป็นจำนวนมาก แต่ไม่พบว่า พฤติกรรมของนายวิโรจน์ ว่า เป็นผู้โจรกรรมจึงได้แกะรอยจากโทรศัพท์มือถือที่มีการติดต่อกับเหยื่อผู้เสียหาย และพบว่า เป็นของ นายวิโรจน์ จึงได้นัดหมายชายคนดังกล่าวที่นำโทรศัพท์มือถือมานัดพบกันที่ ริมถนนมาลัยแมน-สุพรรณบุรี ต.ทัพหลวง อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งมาพบ นายฉัตรเจริญพันธ์ สารภาพว่า เป็นน้องชาย แอบอ้างมายืมรถคันดังกล่าว และได้ปั๊มกุญแจไปให้นายเอก ไม่ทราบนามสกุล เป็นผู้ติดตามไปโจรกรรมรถคันดังกล่าว และขับไปจอดซ่อนทิ้งไว้ในลานจอดรถของ รพ.ศูนย์นครปฐม ก่อนจะมาถูกดักจับได้
จากการสอบสวนในการพบเอกสารและรถยนต์หลายคันที่ถูกโจรกรรมไป เชื่อว่า น่าจะมีขบวนการใหญ่ในการร่วมกันก่อเหตุ ซึ่งจะมีการสอบสวนหาข้อมูลผู้ร่วมขบวนการและเข้าจับกุมต่อไป ร่วมถึงจะติดต่อเจ้าของรถยนต์จำนวนนับสิบคันที่ถูกโจรกรรมไปก่อนหน้า เพื่อให้มาชี้ตัวและตรวจสอบเอกสารที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเป็นจำนวนมาก