ผู้จัดการออนไลน์ – สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรอนาคตสดใส มีโอกาสทางการศึกษาเพิ่มขึ้น กระทรวงศึกษา กระทรวงเกษตรเปิดช่องทางเข้าสู่วงการศึกษาพัฒนาตนได้ เผยใช้ประสบการณ์ในการทำงานสามารถเทียบโอนระดับชั้นการศึกษาได้ เป้าโครงการหวังสร้างภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แก่สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตร
น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคน จึงได้จัดให้มีการลงนามความร่วมมือในการดำเนินงานโครงการยกระดับการศึกษาให้แก่ประชากรวัยแรงงานในภาคเกษตรกรขึ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2549 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังให้เกษตรกรมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยสำนักบริหารงานศึกษานอกโรงเรียนร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้จัดทำแผนการดำเนินงานร่วมกันวิเคราะห์หลักสูตรต่างๆ ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอบรมให้สมาชิกสหกรณ์ แล้วนำมาวิเคราะห์ให้ค่าน้ำหนักความรู้ความสามารถ ประสบการณ์และทักษะเพื่อเข้าสู่หลักสูตรในหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียน เป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกสหกรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรสามารถนำความรู้ความสามารถและประสบการณ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และยกระดับการศึกษาให้ตนเอง เพื่อให้พร้อมที่จะพัฒนาชุมชน และสังคมต่อไป
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรที่ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน สามารถนำความรู้และประสบการณ์มาขอเทียบโอนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของผลการเรียน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียน หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 (ฉบับปรับปรุง) พ.ศ.2548 ได้ และเพื่อยกระดับการศึกษาของสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรให้สามารถนำไปศึกษาในระดับสูงต่อไปได้
“คุณสมบัติของผู้เทียบโอนนั้นมีอยู่ 4 ประการด้วยกัน คือ 1.ต้องไม่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษาในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาหรือระดับเทียบเท่าของสถานศึกษาอื่น 2.ต้องขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 3.ต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตร และ 4.ในกรณีที่สมาชิกที่เป็นหรือเคยเป็นผู้นำสหกรณ์ภาคการเกษตร ต้องมีหลักฐานรับรองจากสหกรณ์”
น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักฐานในการเทียบโอนนั้นผู้มาทำการเทียบโอนจะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเป็นสมาชิกสหกรณ์ หรือผู้นำสหกรณ์ภาคการเกษตร และรับรองการทำกิจกรรม โดยประธานกรรมการดำเนินการ หรือกรรมการที่ได้รับมอบหมายของสหกรณ์ และเทียบโอนให้ในระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือระดับมัธยมศึกษาตอนปลายระดับใดระดับหนึ่งเท่านั้น โดยต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรไม่น้อยกว่า 1 ปี และผลการเรียนจากการเทียบโอนให้ระดับผลการเรียนเป็น ผ่าน
“ในการดำเนินการของโครงการนี้เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554) ในการเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในหลายบริบทของสังคม และเพื่อให้สามารถปรับตัวพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและการใช้ชีวิตอย่างรู้เท่าทันโลกาภิวัตน์ ตลอดถึงการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทุกภาคส่วนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย” น.ส.สุพัตรา กล่าว
น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคน จึงได้จัดให้มีการลงนามความร่วมมือในการดำเนินงานโครงการยกระดับการศึกษาให้แก่ประชากรวัยแรงงานในภาคเกษตรกรขึ้นเมื่อวันที่ 8 กันยายน พ.ศ.2549 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังให้เกษตรกรมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยสำนักบริหารงานศึกษานอกโรงเรียนร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้จัดทำแผนการดำเนินงานร่วมกันวิเคราะห์หลักสูตรต่างๆ ที่กรมส่งเสริมสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดอบรมให้สมาชิกสหกรณ์ แล้วนำมาวิเคราะห์ให้ค่าน้ำหนักความรู้ความสามารถ ประสบการณ์และทักษะเพื่อเข้าสู่หลักสูตรในหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียน เป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกสหกรณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรสามารถนำความรู้ความสามารถและประสบการณ์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และยกระดับการศึกษาให้ตนเอง เพื่อให้พร้อมที่จะพัฒนาชุมชน และสังคมต่อไป
โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้สมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรที่ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาการศึกษานอกโรงเรียน สามารถนำความรู้และประสบการณ์มาขอเทียบโอนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของผลการเรียน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียน หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2544 (ฉบับปรับปรุง) พ.ศ.2548 ได้ และเพื่อยกระดับการศึกษาของสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรให้สามารถนำไปศึกษาในระดับสูงต่อไปได้
“คุณสมบัติของผู้เทียบโอนนั้นมีอยู่ 4 ประการด้วยกัน คือ 1.ต้องไม่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษาในระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาหรือระดับเทียบเท่าของสถานศึกษาอื่น 2.ต้องขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษาตามหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการศึกษานอกโรงเรียนหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 3.ต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตร และ 4.ในกรณีที่สมาชิกที่เป็นหรือเคยเป็นผู้นำสหกรณ์ภาคการเกษตร ต้องมีหลักฐานรับรองจากสหกรณ์”
น.ส.สุพัตรา ธนเสนีวัฒน์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักฐานในการเทียบโอนนั้นผู้มาทำการเทียบโอนจะต้องมีหลักฐานรับรองว่าเป็นสมาชิกสหกรณ์ หรือผู้นำสหกรณ์ภาคการเกษตร และรับรองการทำกิจกรรม โดยประธานกรรมการดำเนินการ หรือกรรมการที่ได้รับมอบหมายของสหกรณ์ และเทียบโอนให้ในระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือระดับมัธยมศึกษาตอนปลายระดับใดระดับหนึ่งเท่านั้น โดยต้องเป็นสมาชิกสหกรณ์ภาคการเกษตรไม่น้อยกว่า 1 ปี และผลการเรียนจากการเทียบโอนให้ระดับผลการเรียนเป็น ผ่าน
“ในการดำเนินการของโครงการนี้เป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 (พ.ศ.2550-2554) ในการเตรียมความพร้อมของบุคลากรเพื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในหลายบริบทของสังคม และเพื่อให้สามารถปรับตัวพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตและการใช้ชีวิตอย่างรู้เท่าทันโลกาภิวัตน์ ตลอดถึงการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับทุกภาคส่วนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย” น.ส.สุพัตรา กล่าว