พะเยา – อดีต ส.ส.ทรท.พะเยา ร่วมโหนกระแสต้านยักษ์ค้าปลีก หนุนชมรมพ่อค้า ปลุกสำนึกรักษ์ท้องถิ่น สนับสนุนคนไทย ขยายแนวร่วมเพิ่ม พร้อมเรียกร้องรัฐบาล - สภานิติบัญญัติ ผ่าน พ.ร.บ.ค้าปลีก รักษาผลประโยชน์ของชาติไทย จำกัดสิทธิทุนข้ามชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าของทุนขนาดใหญ่จะเข้ามาขยายสาขาในพื้นที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา ว่า หลังจากชมรมพ่อค้าอำเภอเชียงคำ อ.จุน อ.ปง ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดำเนินการต่อต้านไม่ให้มีการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมค้าปลีกค้าส่งของห้างโลตัส หรือห้างค้าปลีกข้ามชาติทุกชนิด พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ อ.เชียงคำ และอำเภอใกล้เคียงใช้ชีวิตภายใต้เศรษฐกิจแบบพอเพียง คนไทยสนับสนุนคนไทยด้วยกัน
นายชัยพร วงศ์สถาพรชัย ประธานชมรมพ่อค้าอำเภอเชียงคำ จ.พะเยา กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีคณะทำงานเกี่ยวกับการต่อต้านการค้าปลีกข้ามชาติ โดยประสานงานกันทั้ง อ.เชียงคำ อ.จุน อ.ปง และ กิ่ง อ.ภูซาง เบื้องต้นได้แบ่งงานกันทำทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เชิงรุก คือ การรณรงค์ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลเชียงคำ ให้รับรู้ถึงผลกระทบของการค้าปลีกข้ามชาติต่อประชาชนและวิถีชีวิตที่จะเปลี่ยนไปในทางที่ย่ำแย่ลง การรณรงค์กลุ่มผู้ค้าและประชาชนใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง สนับสนุนสินค้าไทยจากฝีมือคนไทยด้วยกัน
ที่สำคัญคือ ขณะนี้ได้มีการเคลื่อนไหวในระดับนโยบาย คือ การเร่งผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ค้าปลีก ผ่านสภานิติบัญญัติให้ออกเป็นกฎหมายมีผลบังคับใช้โดยเร็วเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคนในชาติไทยให้คงอยู่เป็นทรัพย์สินให้ลูกหลาน จำกัดสิทธิของกลุ่มทุนข้ามชาติ ซึ่งชมรมพ่อค้าได้จัดทำป้ายเชิญชวนผู้ประกอบการ ประชาชน ร่วมกันเป็นกำลังใจสนับสนุนและเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของความอยู่รอดของคนไทยทั้งมวลด้วยการเร่งออกกฎหมายการค้าปลีก
ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ อดีต ส.ส.พะเยา เขต 2 พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า แม้ว่าการเข้ามาของห้างข้ามชาติอาจจะเป็นผลดีกับผู้บริโภคที่มีทางเลือกในการบริโภคมากขึ้น แต่ก็เป็นการมองผลเชิงบวกของกลุ่มผู้บริโภคในระยะสั้นๆ เท่านั้น แต่ระยะยาวผลกระทบในเชิงลบจะเกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหงของประเทศ เพราะทุนข้ามชาติเหล่านี้แนวคิด คือ การแสวงหากำไร ไม่ยอมให้ขาดทุน หนักไปกว่านั้นซ้ำยังกอบโกยเงินจากประเทศไทยกลับประเทศแม่ทุกปีขณะที่เสียภาษีให้กับประเทศไทยปีละไม่กี่ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นมาแล้วกับคนไทยหลายพื้นที่
ดังนั้น คนเชียงคำไม่เฉพาะกลุ่มชมรมพ่อค้าเท่านั้นที่จะต้องลุกขึ้นสู้ ตนพร้อมให้การสนับสนุนประชาชนในการต่อต้านทุนข้ามชาติที่จะมาแย่งชิงทรัพยากรในชาติไทยไป เพื่อรักษาเอกราชทางเศรษฐกิจให้คงอยู่
นายวิสุทธิ์ บอกว่า เบื้องต้นชมรมจะต้องทำข้อมูลและขยายแนวร่วมออกไปยังกลุ่มประชาชนรอบนอก กลุ่มผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน และประชาชน ทั้งในเชียงคำ และอำเภอใกล้เคียงให้ได้รับทราบถึงผลกระทบของกลุ่มทุนข้ามชาติหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการ และมนุษย์เงินเดือนจะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่สนับสนุนสินค้าของห้างข้ามชาติ สนับสนุนและส่งเสริมสินค้าจากฝีมือคนไทยอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีข้อมูลครบถ้วนถึงเวลาจะทำความเข้าใจกับประชาชน ตนพร้อมทีมงานจะช่วยประสานงานและออกไปร่วมสร้างสำนึกรักษ์ท้องถิ่นด้วย
พร้อมทั้งตนขอเป็นส่วนร่วมหนึ่งในการสนับสนุนให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเร่งผ่าน พ.ร.บ.ค้าปลีก โดยเร็วที่สุด เพื่อจะเป็นกฎหมายที่ใช้รักษาสิทธิของคนไทยไม่ให้ตกเป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจของประเทศใดๆ
นอกจากนี้ตนเห็นว่าอีกทางหนึ่งที่จะสามารถยื้อหรือชะลอการก่อสร้างห้างข้ามชาติออกไปได้คือ นายกเทศมนตรีตำบลเชียงคำ จะต้องไม่อนุมัติให้มีการก่อสร้างระหว่างที่ประชาชนยังไม่ได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจน ขอให้แจ้งไปยังผู้ประกอบการให้ชะลอไปก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าของทุนขนาดใหญ่จะเข้ามาขยายสาขาในพื้นที่ อ.เชียงคำ จ.พะเยา ว่า หลังจากชมรมพ่อค้าอำเภอเชียงคำ อ.จุน อ.ปง ได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดำเนินการต่อต้านไม่ให้มีการก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมค้าปลีกค้าส่งของห้างโลตัส หรือห้างค้าปลีกข้ามชาติทุกชนิด พร้อมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ อ.เชียงคำ และอำเภอใกล้เคียงใช้ชีวิตภายใต้เศรษฐกิจแบบพอเพียง คนไทยสนับสนุนคนไทยด้วยกัน
นายชัยพร วงศ์สถาพรชัย ประธานชมรมพ่อค้าอำเภอเชียงคำ จ.พะเยา กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีคณะทำงานเกี่ยวกับการต่อต้านการค้าปลีกข้ามชาติ โดยประสานงานกันทั้ง อ.เชียงคำ อ.จุน อ.ปง และ กิ่ง อ.ภูซาง เบื้องต้นได้แบ่งงานกันทำทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เชิงรุก คือ การรณรงค์ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลเชียงคำ ให้รับรู้ถึงผลกระทบของการค้าปลีกข้ามชาติต่อประชาชนและวิถีชีวิตที่จะเปลี่ยนไปในทางที่ย่ำแย่ลง การรณรงค์กลุ่มผู้ค้าและประชาชนใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง สนับสนุนสินค้าไทยจากฝีมือคนไทยด้วยกัน
ที่สำคัญคือ ขณะนี้ได้มีการเคลื่อนไหวในระดับนโยบาย คือ การเร่งผลักดันให้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ค้าปลีก ผ่านสภานิติบัญญัติให้ออกเป็นกฎหมายมีผลบังคับใช้โดยเร็วเพื่อรักษาผลประโยชน์ของคนในชาติไทยให้คงอยู่เป็นทรัพย์สินให้ลูกหลาน จำกัดสิทธิของกลุ่มทุนข้ามชาติ ซึ่งชมรมพ่อค้าได้จัดทำป้ายเชิญชวนผู้ประกอบการ ประชาชน ร่วมกันเป็นกำลังใจสนับสนุนและเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของความอยู่รอดของคนไทยทั้งมวลด้วยการเร่งออกกฎหมายการค้าปลีก
ด้าน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ อดีต ส.ส.พะเยา เขต 2 พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า แม้ว่าการเข้ามาของห้างข้ามชาติอาจจะเป็นผลดีกับผู้บริโภคที่มีทางเลือกในการบริโภคมากขึ้น แต่ก็เป็นการมองผลเชิงบวกของกลุ่มผู้บริโภคในระยะสั้นๆ เท่านั้น แต่ระยะยาวผลกระทบในเชิงลบจะเกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหงของประเทศ เพราะทุนข้ามชาติเหล่านี้แนวคิด คือ การแสวงหากำไร ไม่ยอมให้ขาดทุน หนักไปกว่านั้นซ้ำยังกอบโกยเงินจากประเทศไทยกลับประเทศแม่ทุกปีขณะที่เสียภาษีให้กับประเทศไทยปีละไม่กี่ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นมาแล้วกับคนไทยหลายพื้นที่
ดังนั้น คนเชียงคำไม่เฉพาะกลุ่มชมรมพ่อค้าเท่านั้นที่จะต้องลุกขึ้นสู้ ตนพร้อมให้การสนับสนุนประชาชนในการต่อต้านทุนข้ามชาติที่จะมาแย่งชิงทรัพยากรในชาติไทยไป เพื่อรักษาเอกราชทางเศรษฐกิจให้คงอยู่
นายวิสุทธิ์ บอกว่า เบื้องต้นชมรมจะต้องทำข้อมูลและขยายแนวร่วมออกไปยังกลุ่มประชาชนรอบนอก กลุ่มผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน และประชาชน ทั้งในเชียงคำ และอำเภอใกล้เคียงให้ได้รับทราบถึงผลกระทบของกลุ่มทุนข้ามชาติหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะกลุ่มข้าราชการ และมนุษย์เงินเดือนจะต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ไม่สนับสนุนสินค้าของห้างข้ามชาติ สนับสนุนและส่งเสริมสินค้าจากฝีมือคนไทยอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีข้อมูลครบถ้วนถึงเวลาจะทำความเข้าใจกับประชาชน ตนพร้อมทีมงานจะช่วยประสานงานและออกไปร่วมสร้างสำนึกรักษ์ท้องถิ่นด้วย
พร้อมทั้งตนขอเป็นส่วนร่วมหนึ่งในการสนับสนุนให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเร่งผ่าน พ.ร.บ.ค้าปลีก โดยเร็วที่สุด เพื่อจะเป็นกฎหมายที่ใช้รักษาสิทธิของคนไทยไม่ให้ตกเป็นเมืองขึ้นทางเศรษฐกิจของประเทศใดๆ
นอกจากนี้ตนเห็นว่าอีกทางหนึ่งที่จะสามารถยื้อหรือชะลอการก่อสร้างห้างข้ามชาติออกไปได้คือ นายกเทศมนตรีตำบลเชียงคำ จะต้องไม่อนุมัติให้มีการก่อสร้างระหว่างที่ประชาชนยังไม่ได้รับทราบข้อมูลที่ชัดเจน ขอให้แจ้งไปยังผู้ประกอบการให้ชะลอไปก่อน