พะเยา - ชมรมพ่อค้าเชียงคำ เตรียมส่งตัวแทนสังเกตการณ์ทำม็อบปิดถนนต้านห้างข้ามชาติที่ปากช่อง 28 เม.ย.นี้ พร้อมเร่งให้ข้อมูลผลกระทบกลุ่มค้าในตลาดสด ด้านผู้บริโภคกว่า 90% ชูเป็นทางเลือกบริโภคหากห้างข้ามชาติเกิดขึ้นในพื้นที่
นายชัยพร วงศ์สถาพรชัย ประธานชมรมพ่อค้าอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งว่า ในวันที่ 28 เม.ย.50 กลุ่มพี่น้องชาวอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จะทำการประท้วงต่อต้านห้างข้ามชาติโดยการปิดถนนมิตรภาพ ดังนั้น ชมรมพ่อค้าฯจะจัดส่งตัวแทนคณะทำงานไปร่วมสังเกตการณ์ และให้กำลังใจกับพี่น้องชาวปากช่อง เพื่อนำข้อมูลผลกระทบของการรุกจากห้างข้ามชาติหรือทุนต่างชาติ และทุนขนาดใหญ่ว่าจะทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทยอย่างไรบ้าง
พร้อมกันนี้ ทางคณะทำงานได้จัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชนในพื้นที่ โดยจุดแรกที่จัดทำคือตั้งจุดให้ข้อมูลด้วยการฉาย CD ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจากห้างข้ามชาติในประเทศไทยและต่างประเทศให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดเชียงคำ, จัดทำแผ่นพับข้อมูลเพื่อให้ความรู้ รณรงค์ กระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวและไม่ยอมรับการเข้ามาของทุนข้ามชาติในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะห้างข้ามชาติ
“ในตลาดเชียงคำปัจจุบันมีกลุ่มผู้ค้าประมาณเกือบ 1,000 ราย ทั้งในตลาดสด ร้านค้าส่ง-ปลีกหากห้างข้ามชาติยังสามารถสร้างได้ในที่สุด กลุ่มแรกที่จะโชคร้ายได้รับผลกระทบโดยตรงและเร็วที่สุด คือ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด เมื่อผู้บริโภคใช้จ่ายในห้างจนเกือบหมดทำให้สภาพคล่องทางการเงินของเมืองเชียงคำลดลง เมื่อนั้นระบบเศรษฐกิจจะย่ำแย่ลงไปด้วย”
ด้าน นายพิทักษ์ พลรัฐ ผู้ประกอบการร้านทำเบาะและเครื่องหนังในตลาดเชียงคำ กล่าวว่า จากการประเมินในภาพรวมตอนนี้ จากการพูดคุยในกลุ่มผู้บริโภคพบว่าในกลุ่มของผู้บริโภคประมาณ 90% ยอมรับที่จะให้เกิดห้างข้ามชาติในพื้นที่เชียงคำ เพราะคิดว่าจะมีโอกาสในการเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคยังไม่มีโอกาสได้รับทราบถึงผลกระทบในระยะยาวของการเกิดห้างข้ามชาติจึงไม่ต่อต้าน
จากการติดตามข้อมูลของตนเองทราบว่าในจังหวัดที่มีห้างข้ามชาติเกิด บรรดาร้านค้าปลีกและส่งในเมืองใกล้กับห้างข้ามชาติ รวมถึงห้องแถว อาคารพาณิชยกรรมต่างๆ ต้องปิดตัวเองตายอย่างไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากได้อีก
นายมงคล พรมมาบุญ ปลัดอาวุโส กิ่ง อ.ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า ด้านหนึ่งกระแสเรียกร้องและความต้องการของผู้บริโภคยังต้องการให้เกิดห้างข้ามชาติ ซึ่งเมื่อมองในด้านนี้ตนคิดว่าคงจะต่อต้านได้ยาก เนื่องจากพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทยชอบความสะดวกสบาย เมื่อมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ให้บริการครบวงจรเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ทำให้ไม่ต้องเดินทางไปไกล ยิ่งทำให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัวมากขึ้น
แต่ในระยะยาวคิดว่าควรใช้แนวทางการณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยรู้จักใช้จ่ายอย่างพอดี ไม่หลงใหลไปกับกระแสบริโภคนิยม ปลูกฝังลูกหลานให้ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ทุกวันนี้ตนอบรมลูกให้จ่ายอย่างประหยัด เคยซื้อมากให้ลดจำนวนลง-ให้ซื้อในชุมชนมากขึ้น ไม่ควรเข้าห้างไปซื้อของเพียง 1-2 อย่าง เพราะหากคิดอย่างรอบคอบจะพบว่าการไปห้างครั้งหนึ่งทำให้เสียเงินค่าเดินทางเพิ่มขึ้นด้วย
นายพันธุ์เทพ สุลีสถิร ประธานสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกต่างชาติ เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ประกอบการใน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง จะร่วมเดินทางไปสมทบกับชาวปากช่อง จ.นครราชสีมาด้วยขั้นต่ำประมาณ 100 คน คาดว่าการชุมนุมครั้งนี้จะมีผู้ประกอบการท้องถิ่นมาร่วมเป็นจำนวนมาก
นายชัยพร วงศ์สถาพรชัย ประธานชมรมพ่อค้าอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งว่า ในวันที่ 28 เม.ย.50 กลุ่มพี่น้องชาวอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จะทำการประท้วงต่อต้านห้างข้ามชาติโดยการปิดถนนมิตรภาพ ดังนั้น ชมรมพ่อค้าฯจะจัดส่งตัวแทนคณะทำงานไปร่วมสังเกตการณ์ และให้กำลังใจกับพี่น้องชาวปากช่อง เพื่อนำข้อมูลผลกระทบของการรุกจากห้างข้ามชาติหรือทุนต่างชาติ และทุนขนาดใหญ่ว่าจะทำลายวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทยอย่างไรบ้าง
พร้อมกันนี้ ทางคณะทำงานได้จัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแก่ประชาชนในพื้นที่ โดยจุดแรกที่จัดทำคือตั้งจุดให้ข้อมูลด้วยการฉาย CD ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจากห้างข้ามชาติในประเทศไทยและต่างประเทศให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดเชียงคำ, จัดทำแผ่นพับข้อมูลเพื่อให้ความรู้ รณรงค์ กระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัวและไม่ยอมรับการเข้ามาของทุนข้ามชาติในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะห้างข้ามชาติ
“ในตลาดเชียงคำปัจจุบันมีกลุ่มผู้ค้าประมาณเกือบ 1,000 ราย ทั้งในตลาดสด ร้านค้าส่ง-ปลีกหากห้างข้ามชาติยังสามารถสร้างได้ในที่สุด กลุ่มแรกที่จะโชคร้ายได้รับผลกระทบโดยตรงและเร็วที่สุด คือ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสด เมื่อผู้บริโภคใช้จ่ายในห้างจนเกือบหมดทำให้สภาพคล่องทางการเงินของเมืองเชียงคำลดลง เมื่อนั้นระบบเศรษฐกิจจะย่ำแย่ลงไปด้วย”
ด้าน นายพิทักษ์ พลรัฐ ผู้ประกอบการร้านทำเบาะและเครื่องหนังในตลาดเชียงคำ กล่าวว่า จากการประเมินในภาพรวมตอนนี้ จากการพูดคุยในกลุ่มผู้บริโภคพบว่าในกลุ่มของผู้บริโภคประมาณ 90% ยอมรับที่จะให้เกิดห้างข้ามชาติในพื้นที่เชียงคำ เพราะคิดว่าจะมีโอกาสในการเลือกซื้อสินค้าได้หลากหลายมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคยังไม่มีโอกาสได้รับทราบถึงผลกระทบในระยะยาวของการเกิดห้างข้ามชาติจึงไม่ต่อต้าน
จากการติดตามข้อมูลของตนเองทราบว่าในจังหวัดที่มีห้างข้ามชาติเกิด บรรดาร้านค้าปลีกและส่งในเมืองใกล้กับห้างข้ามชาติ รวมถึงห้องแถว อาคารพาณิชยกรรมต่างๆ ต้องปิดตัวเองตายอย่างไม่มีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากได้อีก
นายมงคล พรมมาบุญ ปลัดอาวุโส กิ่ง อ.ภูซาง จ.พะเยา กล่าวว่า ด้านหนึ่งกระแสเรียกร้องและความต้องการของผู้บริโภคยังต้องการให้เกิดห้างข้ามชาติ ซึ่งเมื่อมองในด้านนี้ตนคิดว่าคงจะต่อต้านได้ยาก เนื่องจากพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนไทยชอบความสะดวกสบาย เมื่อมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ให้บริการครบวงจรเข้ามาอยู่ในพื้นที่ ทำให้ไม่ต้องเดินทางไปไกล ยิ่งทำให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัวมากขึ้น
แต่ในระยะยาวคิดว่าควรใช้แนวทางการณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยรู้จักใช้จ่ายอย่างพอดี ไม่หลงใหลไปกับกระแสบริโภคนิยม ปลูกฝังลูกหลานให้ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ทุกวันนี้ตนอบรมลูกให้จ่ายอย่างประหยัด เคยซื้อมากให้ลดจำนวนลง-ให้ซื้อในชุมชนมากขึ้น ไม่ควรเข้าห้างไปซื้อของเพียง 1-2 อย่าง เพราะหากคิดอย่างรอบคอบจะพบว่าการไปห้างครั้งหนึ่งทำให้เสียเงินค่าเดินทางเพิ่มขึ้นด้วย
นายพันธุ์เทพ สุลีสถิร ประธานสมาพันธ์คนไทยต้านค้าปลีกต่างชาติ เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ประกอบการใน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง จะร่วมเดินทางไปสมทบกับชาวปากช่อง จ.นครราชสีมาด้วยขั้นต่ำประมาณ 100 คน คาดว่าการชุมนุมครั้งนี้จะมีผู้ประกอบการท้องถิ่นมาร่วมเป็นจำนวนมาก